อาซีฟา (ASEFA) ประกาศความร่วมมือกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค รุกตลาดโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เสริมทัพด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมผสานความเชี่ยวชาญ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการประมวลผลข้อมูลในยุค AI ที่ต้องการระบบจ่ายพลังงานที่มีเสถียรภาพและเชื่อถือได้
ในยุคที่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) เกิดขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม ความต้องการใช้งานคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์จึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการมาถึงของเทคโนโลยี AI ยิ่งส่งผลให้การใช้พลังงานจากการประมวลผลข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย สิ่งที่ตามมาคือความจำเป็นในการมีระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดได้อย่างไร้ปัญหา และต้องมีความเสถียรภาพสูงสุด เพื่อรับประกันความต่อเนื่องในการใช้งาน
ไพบูลย์ อังคณากรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA กล่าวว่า “อาซีฟามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในโซลูชันด้านการจ่ายพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมส่งมอบนวัตกรรมที่ยั่งยืนและเชื่อถือได้ เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในโลกดิจิทัล เรามุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ทุกระดับ ตั้งแต่เอจด์ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ขององค์กร รวมถึงโคโลเคชัน และดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับ AI ด้วยโซลูชันด้านพลังงานที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ โดยยึดมั่นในมาตรฐานคุณภาพระดับสากล พร้อมมอบการบริการแบบครบวงจร และใส่ใจในเรื่องความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการเชื่อมต่อที่ไร้พรมแดนในอนาคต”
อาซีฟายึดมั่นใน 4 แนวคิดหลักในการส่งมอบระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร ได้แก่
- นวัตกรรมที่เชื่อถือได้: ระบบต้องมีความเสถียรภาพสูง รองรับการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงจากการขัดข้องของระบบ
- ประสิทธิภาพด้านพลังงาน: ระบบต้องช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และรองรับการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ตอบสนองความต้องการที่จำเป็น: โซลูชันต้องมีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนและขยายขนาดได้ง่าย เพื่อรองรับความต้องการของดาต้าเซ็นเตอร์ทุกขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
- ความยั่งยืน: ระบบต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อโลก และสอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
“เรามีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานและระบบอัตโนมัติ” ไพบูลย์ กล่าวเสริม “ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยเสริมศักยภาพของอาซีฟาในการพัฒนาและส่งมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนสำหรับตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอาซีฟาได้รับลิขสิทธิ์ในการผลิตตู้สวิตช์บอร์ด BlokSeT และตู้สวิตช์เกียร์ MV รุ่น PIX รวมถึงการนำซอฟต์แวร์ Building Management Systems (BMS) และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มาผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญของอาซีฟาในการออกแบบ ติดตั้ง และดูแลระบบไฟฟ้า ทำให้เรามั่นใจว่าสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและซับซ้อนของดาต้าเซ็นเตอร์ได้ทุกรูปแบบ”
เผดิมศักดิ์ รัตนเรืองศักดิ์ รองประธานฝ่ายธุรกิจ เพาเวอร์ โพรดักส์ ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ไทย ลาว และเมียนมา ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มองเห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังเติบโต เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างอาซีฟาและชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะช่วยผลักดันและสนับสนุนการลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของทั้งสององค์กร”
เทคโนโลยีตู้สวิตช์บอร์ด BlokSeT ตู้สวิตช์เกียร์ MV รุ่น PIX และซอฟต์แวร์ BMS ล้วนเป็นนวัตกรรมจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในการดำเนินงานของดาต้าเซ็นเตอร์ โดย BlokSeT ช่วยควบคุมการกระจายพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รองรับเทียร์ (Tier) ด้านการจ่ายพลังงานได้ถึงระดับ Tier 4 ซึ่งเป็นระดับมาตรฐานสูงสุด ขณะที่ BMS ช่วยจัดการพลังงานในอาคารและดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างชาญฉลาด ด้วยระบบตรวจสอบและควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้า เพิ่มความเสถียรและความปลอดภัย ลดการสูญเสียพลังงาน และสนับสนุนการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับการขยายระบบในอนาคต
นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังได้ร่วมกับอาซีฟา จัดงานสัมมนาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ด้าน AI และดาต้าเซ็นเตอร์ ครอบคลุมตั้งแต่เทรนด์และเทคโนโลยีล่าสุด เช่น EcoStruxure ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งแบบโมดูลาและแบบ Prefabricated เทคโนโลยี UPS (Uninterruptible Power Supply) ที่มีคุณสมบัติ high density สำหรับ AI ดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึง UPS รุ่นอื่นๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการที่หลากหลาย และนวัตกรรมระบบทำความเย็นรูปแบบต่างๆ
–เจาะกลยุทธ์ ไทวัสดุ โตสวนกระแส ทะยานสู่เบอร์หนึ่ง ครองใจตลาดวัสดุก่อสร้างปี 2024