ปี 2567 นับเป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งสำคัญของกลุ่มบริษัทบางจาก (BCP) ด้วยผลประกอบการ ยอดขายและบริการที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ 589,877 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 53% เมื่อเทียบกับปี 2566 แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่ผันผวน แต่บางจากฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 2,184 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.30 บาท
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความสำเร็จในปี 2567 เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของทีมงานทุกคน และการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เราขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางและเติบโตไปพร้อมกับบางจากฯ”
ความสำเร็จครั้งนี้ ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่เป็นผลลัพธ์ของการวางกลยุทธ์ที่เฉียบคมและการดำเนินงานที่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผนึกกำลังของ 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ธุรกิจการตลาด ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ ที่ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของบางจากฯ
1. ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน: หัวใจสำคัญที่แข็งแกร่ง
กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับบางจากฯ แม้ว่าปี 2567 จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจโรงกลั่น แต่บางจากฯ ก็ยังคงรักษาอัตราการผลิตเฉลี่ยในระดับสูงถึง 258,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นถึง 16% จากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัท บีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบางจากฯ ก็มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยมีการซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
2. ธุรกิจการตลาด: เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยกลยุทธ์ที่โดนใจ
กลุ่มธุรกิจการตลาดเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมียอดจำหน่ายน้ำมันสูงถึง 13,814 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นถึง 61% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายเครือข่ายสถานีบริการและการปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์ที่โดนใจผู้บริโภค นอกจากนี้ ธุรกิจ Non-Oil ซึ่งประกอบด้วยร้านกาแฟอินทนิล จุดชาร์จ EV และจุดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น FURiO ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
3. ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด: มุ่งสู่พลังงานแห่งอนาคต
บางจากฯ ให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด โดยมีบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินงานหลัก ซึ่งในปี 2567 บีซีพีจีมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว นอกจากนี้ บีซีพีจียังได้ขายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ซึ่งสร้างผลกำไรได้อย่างงดงาม
4. ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ: สร้างมูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรธรรมชาติ
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานหลัก มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลที่มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
5. ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่: ขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่เป็นกลุ่มธุรกิจที่บางจากฯ ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขยายการลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในปี 2567 กลุ่มธุรกิจนี้มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับรู้รายได้จากแหล่งปิโตรเลียมใหม่ๆ ที่เริ่มดำเนินการผลิต
ก้าวสู่ปี 2568: ความท้าทายและโอกาส
แม้ว่าปี 2567 จะเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่บางจากฯ ก็ยังคงมองไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง โดยตระหนักถึงความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลกที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม บางจากฯ ก็เชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสอีกมากมายรออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขยายธุรกิจพลังงานสะอาดและธุรกิจไบโอชีวภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคต
“เราจะยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน นอกจากนี้ เราจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจไบโอชีวภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ชัยวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ บางจากฯ ยังมีแผนที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ซึ่งจะช่วยให้บางจากฯ สามารถตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
บางจากฯ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานและไบโอชีวภาพของเอเชีย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้างคุณค่าให้กับสังคมไทย
“เราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านพลังงานและไบโอชีวภาพของเอเชีย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้างคุณค่าให้กับสังคมไทย เราเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบางจากฯ” ชัยวัฒน์ กล่าว
–กรุงศรี ออโต้ เผยปี 2567 สินเชื่อดิจิทัลพุ่ง 7% ผู้ใช้แอปฯ โก บาย ทะยานสู่ 4.4 ล้านราย