ภูเก็ตถือเป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเพราะเป็นเมืองชายทะเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งการพักผ่อน อาศัยแบบอยู่ยาว และกลุ่ม Work from Phuket กลุ่มที่มาทำอาศัยและทำงานรีโมทจากภูเก็ต ขณะเดียวกันภูเก็ตยังเต็มไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์คนมีกำลังซื้อ ไม่ว่าจะเป็นสนามกอล์ฟ ท่าเรือยอร์ช รวมถึงที่จอดไพรเวทเจ็ท และจากการเติบโตของภูเก็ตทำให้นักลงทุนหันมาทำธุรกิจเพื่อตอบโจทย์กลุ่มที่มีกำลังซื้อมากขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มเซ็นทรัล โดยเซ็นทรัลพัฒนา ที่เห็นโอกาสจากการเดินทางเข้ามาของกลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังซื้อสูง จึงเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้า Central Phuket Foresta ให้เป็นเดสติเนชันสำหรับกลุ่มคนที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนม
ทั้งนี้ตัวเลขเม็ดเงินในปี 2566 ที่ผ่านมาพบว่า ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 380,000 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 12 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยว 450,000 ล้านบาท เป็นที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คนภูเก็ตมีรายได้ดีซึ่งส่วนมากได้มาจากการทำธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้เซ็นทรัลพัฒนาเข้ามาเปิดศูนย์การค้าที่นี่ จะเห็นว่าหลังจากที่เรามาเปิดศูนย์การค้าเทรนด์การแต่งตัวของคนภูเก็ตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
ซึ่งสาเหตุที่ภูเก็ตเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อให้ความสนใจ เพราะเป็นเมืองที่มีทั้งทะเลและภูเขา มีเกาะในระแวกใกล้ๆ มากมาย มีภูมิอากาศที่เหมาะกับการอยู่อาศัยได้ตลอดทั้งปี แตกต่างจากฮ่องกง และสิงคโปร์
นอกจากนี้ภูเก็ตยังเป็นสวรรค์ของคนตีกอล์ฟ เพราะมีสนามกอล์ฟแบบลักชัวรีหลายแห่ง รวมถึงมีท่าจอดเรือยอร์ช และยังรองรับไพรเวทเจ็ท
นอกจากนี้ ภูเก็ตยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่คนรวยต้องการอีกหลายอย่าง ทั้ง ร้านอาหาร ผับบาร์ และโรงแรมลักชัวรี
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า เศรษฐีจากสิงคโปร์ และ ฮ่องกง สนใจเข้ามาซื้อบ้านที่ภูเก็ต ขณะที่ชาวรัสเซียย้ายเข้ามาอยู่ที่ภูเก็ตมากขึ้น และส่งลูกเข้าโรงเรียนอินเตอร์ที่ภูเก็ต รวมถึงคนจีน ตะวันออกกลาง และสหรัฐฯ ก็ชื่นชอบภูเก็ต ปัจจุบันจะพบว่าราคาค่าที่ของเมืองภูเก็ตสูงขึ้นจากการลงทุนด้านอสังหาฯ
ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวหรืออยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังสนใจสินค้าลักชัวรี หลายคนบินมาที่นี่เพื่อมาหาสินค้าหายากที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ ที่ศูนย์การค้า Central Phuket Foresta มีสัดส่วนชาวต่างชาติเข้ามาช้อปปิ้งถึง 70% ขณะที่เป็นคนไทยเพียง 30%
“วันนี้เรามี 14 แบรนด์หรูอยู่ในที่เดียว บนพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ซึ่งเราตั้งเป้าจะขยายพื้นที่ไปถึง 8,000 ตารางเมตร และดึงแบรนด์เนมเข้ามากว่า 30 แบรนด์ ในปี 2569”
นอกจากนี้ที่ Central Phuket ยังมี Aquaria Phuket พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่รายล้อมไปด้วยสัตว์ทะเลกว่า 25,000 ตัว และยังมี Under Water Restaurant ที่เดียวในไทย
“ภูเก็ตมีศักยภาพทั้งกับคนไทย และนักท่องเที่ยว เมื่อ 6 ปีก่อนเราไปชวนร้านแบรนด์เนมมาเปิดตลาด เขาอาจจะยังมองภาพไม่ออก แต่วิสัยทัศน์ของเรามองว่า จะสร้างภูเก็ตให้เหมือนกับเมืองชายทะเลใหญ่ๆ ของโลก”
