เซ็นทรัลพัฒนา ประกาศผลประกอบการปี 2567 สุดยิ่งใหญ่ สร้างสถิติสูงสุดใหม่ในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งรายได้ กำไรสุทธิ ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น และการจ่ายปันผล ตอกย้ำความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจ Retail-Led Mixed-Use ที่ผนึกกำลังธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจที่ไม่ใช่ค้าปลีกให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ตัวเลขผลประกอบการ
- รายได้รวม: 51,843 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ: 16,729 ล้านบาท (เติบโต 11% จากปีก่อน)
- ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น: 15%
- ปันผล: 2.1 บาทต่อหุ้น* (รอการอนุมัติผู้ถือหุ้น)
ธุรกิจทุกภาคส่วนเติบโตแข็งแกร่ง:
- ธุรกิจค้าปลีก:
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัลครองตำแหน่ง Top Retail Destination ดึงดูดแบรนด์ระดับโลกและนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลาม
- จำนวนผู้ใช้บริการทะลุ 500 ล้านครั้งต่อปี นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 67 ล้านครั้ง
- ศูนย์การค้าใหม่ “เซ็นทรัล นครสวรรค์” และ “เซ็นทรัล นครปฐม” ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม
- ธุรกิจที่ไม่ใช่ค้าปลีก:
- โรงแรมฮิลตัน พัทยา สร้างสถิติใหม่ทั้งรายได้และอัตราการเข้าพัก
- ธุรกิจสำนักงานมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 90%
- ธุรกิจที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียม เอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และ เอสเซ็นท์ นครปฐม สามารถสร้างยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ในสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความท้าทาย
- โรงแรมในเครือของเซ็นทรัลพัฒนามีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมหลายแห่ง เช่น โรงแรมเซ็นทารา โคราช, อยุธยา, อุดร, อุบล และการเปิดตัว โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ ระยอง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของปีที่ผ่านมา ได้แก่ การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุน การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมไปถึงการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง
ด้านแผนธุรกิจในปีนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ยังเดินหน้าขยายโครงการในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น เตรียมเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสระดับโลก “Central Park” และ “เซ็นทรัล กระบี่”
มุ่งสู่เป้าหมายองค์กร Net Zero 2050 ที่การันตีด้วย รางวัลอันดับ Dow Jones Best in Class Indices ในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีโลก DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และใน DJSI Emerging Market ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11
นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนายังริเริ่มนวัตกรรมด้าน Finance & Sustainability โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์ไทยรายแรกที่ริเริ่มออก ‘Green Bond’ และ ‘Sustainability-Linked Loan’ พร้อมคว้ามาตรฐานหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ระดับ ‘AAA’
วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ผลประกอบการปี 2567 ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์พิสูจน์ให้เห็นว่า Retail-Led Mixed-Use Development คือกลยุทธ์ที่ถูกต้องในการสร้างความยั่งยืน โดยมีศูนย์การค้าเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมโยงกับธุรกิจหลักอื่นๆ”
นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ Chief Finance, Accounting and Risk Management Officer กล่าวว่า “บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าลงทุนสร้างการเติบโตและผลตอบแทนระดับสูงแก่ผู้ถือหุ้นต่อไป”
เซ็นทรัลพัฒนายังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรยั่งยืนระดับโลก โดยติดอันดับ Dow Jones Best in Class Indices และเป็นสมาชิก DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
