แดรี่ควีน (Dairy Queen) เปิดตัวร้านโมเดลใหม่ในคอนเซปต์ “DQ Lounge” มาพร้อมพื้นที่รองรับการให้บริการที่มากขึ้น เมนูหลากหลายกว่าสาขาทั่วไป ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบนั่งทานในร้าน
ธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเนอร์ ดีคิว จำกัด บริษัทในเครือ ไมเนอร์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม “แดรี่ควีน“ กล่าวว่า ร้านของแดรี่ควีนที่ผ่านมาเป็นแบบ KIOS ไม่มีที่นั่ง จับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบซอฟต์เสิร์ฟ ซื้อแล้วเดินทาน แต่ธุรกิจรูปแบบนี้ก็มีจุดด้อย คือลูกค้าจะไม่ผูกพันธ์กับแบรนด์เท่าที่ควร เพราะไม่มีพื้นที่ให้ลูกค้าได้นั่งทาน ปี 2567 นี้จึงเดินหน้ารุกตลาดใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการทานมากกว่าไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ และเพิ่มยอดขายต่อสาขาให้มากขึ้น จึงเปิด DQ Lounge เพื่อขายสินค้าหลากหลายมากขึ้น มีพื้นที่เริ่มต้นที่ 40 ตารางเมตร ให้ลูกค้านั่งได้ สำหรับสาขา Central Westgate นั่งได้ประมาณ 20 คน
ไม่เพียงเท่านี้ ยังออกแบบร้านใหม่ ปรับโทนสีของร้านให้อ่อนลง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายขึ้น ปรับตู้แช่รูปแบบเดิมที่เหมือนตู้เย็น เป็นตู้โชว์หน้าแคชเชียร์ เพราะเชื่อว่าปัจจัยที่คนอยากซื้อสินค้า คือการได้เห็นสินค้าชัดๆ เห็นและเกิดภาพจำว่าแบรนด์มีสินค้าอะไรบ้าง
สำหรับเมนูใหม่ มีทั้งเบเกอรี่ อย่าง Toast, Croissant, Brownie และยังมีเมนู Parfait รวมกัน 11 เมนู ราคาเริ่มต้นที่ 79 – 119 บาท
รุกขยาย 10 สาขา ในปีนี้
ธนกฤต กล่าวว่า หลังทดลองเปิดมาได้ 1 เดือน ที่สาขา Central Westgate พบว่ายอดขายในสาขานี้เพิ่มขึ้น 20% มากกว่ายอดขายที่เติบโตเฉลี่ยของร้านทั่วประเทศที่ประมาณ 10% ในปีก่อน
สำหรับแผนปีนี้ คาดว่าจะเปิดร้านรูปแบบ Lounge ทั้งหมด 10 สาขา ใช้เงินลงทุนสาขาละประมาณ 3-3.5 ล้าน กับเนื้อที่ประมาณ 40 ตารางเมตร ในเบื้องต้นเล็งพื้นที่ กทม. – ปริมณฑล ซึ่งสาขาที่ 2 จะเปิดที่ ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต โดยจะไม่ได้เป็นการไปปรับสาขาเดิม แต่เปิดเพิ่มเป็นสาขาที่ 2 ในศูนย์การค้าเดียวกัน เช่นเดียวกับที่ Central Westgate ที่มีทั้งร้าน KIOS อยู่ชั้นบน และ Lounge ตั้งอยู่ที่ชั้น G
“ในปีนี้เราเลือกเปิดในห้างรอบนอกเมืองเป็นหลัก สำหรับในใจกลางเมือง เราอยากเปิดเป็น Flagship Store ซึ่งจะโดดเด่นกว่ารูปแบบของ Lounge แต่ยังเป็นเรื่องของอนาคต”
สำหรับสาขาต่างจังหวัด ที่ส่วนมากเป็นแฟรนไชส์ หลังจากนี้จะเข้าไปพูดคุยเพื่อให้ปรับเป็นร้านเป็นรูปแบบ Lounge มากขึ้นเช่นกัน
–CPN เผยปี 66 รายได้รวม 46,790 ล้าน โต 26% และกำไร 15,062 ล้าน โต 40% เตรียมปันผลหุ้นละ 1.80 บาท
