ไทยกูลิโกะ รุกตลาดเครื่องดื่ม Plant-Based เปิดตัว “กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท” ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดมากสุดในไทย

ไทยกูลิโกะ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กูลิโกะ อัลมอนด์  โคกะ มิกซ์ 3 นัท” เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ เดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์นม Plant-based ในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตกว่า 40% พร้อมตั้งเป้าขึ้นเบอร์ 1 ผ่านการสร้างการรับรู้ และจุดแข็งของผลิตภัณฑ์

เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดนม Plant-Based ในปัจจุบัน มีมูลค่าอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มนมถั่วเหลืองซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดประมาณ 18,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่นมถั่วเหลือง มูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่นมวัวและนมถั่วเหลืองเติบโตปีละ 6-7% เท่านั้น

สำหรับ “กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ” นั้นเข้ามาทำตลาดในไทยครั้งแรกในปี 2022 ซึ่งเป็นขายออนไลนืเพียงช่องทางเดียว ก่อนที่ในปี 2023 จะเข้าสู่ร้านค้าปลีก และโมเดิร์นเทรด ทั้ง 3 รสชาติ ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นจนติด Top 5 ในตลาดนม Plant-Based (ไม่รวมนมถั่วเหลือง) จากคู่แข่งทั้งหมดประมาณ 20 รายในไทย

โดยร้านสะดวกซื้อ ถือเป็นช่องทางหลักในการกระจายสินค้า มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 50% เติบโต 53% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ห้างสรรพสินค้า เติบโตที่ 29%

สำหรับผู้นำตลาดนม Plant-Based (ไม่รวมนมถั่วเหลือง) มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20% จากมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท สำหรับ ไทยกูลิโกะ นั้นถึงแม้จะเป็น Top 5 ในตลาดแต่มีส่วนแบ่งไม่ห่างจากเบอร์ 1 ในตลาดมากนัก

ซึ่งการเปิดตัว “กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท” เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเร่งที่เข้ามาเพิ่มสัดส่วนยอดขาย ผ่านกลยุทธ์ทำการตลาดทั้งหมด 4 ขา

ทิฆัมพร เพียรวิจารณ์พงศ์  ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์  Health & Wellness บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดจะเน้นไปที่ 4 ด้านหลัก คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างการรับรู้กลุ่มเป้าหมายผ่านโซเชียลมีเดีย การแจกสินค้าตัวอย่าง และ ร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ

สำหรับ การสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างการรับรู้กลุ่มเป้าหมาย โดยใช้คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์เป็นตัวชูโรงเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจอย่างชัดเจน ซึ่งกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ สาวออฟฟิศ และเด็กจบใหม่ ที่มองหาอาหารที่มีประโยชน์

ด้านการสร้างการรับรู้กลุ่มเป้าหมาย ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ตั้ง Facebook, Instagram, YouTube, TikTok รวมถึงการใช้ KOL เข้ามาช่วยนำเสนอผ่านการทำคอนเทนต์ นอกจากนี้ยังจะทำสื่อการตลาดและจัดกิจกรรมให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับการแจกสินค้าตัวอย่างและทดลองชิมตลอดทั้งปี จะเข้ามาช่วยเพิ่มการบริโภคให้มากขึ้นของกลุ่มเป้าหมายในระยะยาว

และสุดท้าย ร่วมมือกับพันธมิตร ผ่านการจับมือกับคาเฟ่ และร้านกาแฟที่เป็นเชนต่างๆ โดยนำสินค้า “กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ” เข้าไปเป็นส่วนผสมกับเครื่องดื่มในร้าน

“วันนี้เรามี R&D Center อยู่ในไทย เรานำสูตรต้นตำรับจากญี่ปุ่น มาปรับให้เหมาะกับคนไทย มี Market Research เพื่อพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พยายามตั้งราคาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้” เฉลิมพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

–Garrett Popcorn ฉลอง 10 ปีในไทย ชี้ยังเป็น Premium Popcorn เจ้าเดียวในไทย ไร้คู่แข่ง

• Facebook
• X
• Line