KEX เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2565 ด้วยตัวเลขขาดทุนที่ลดลง 8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี/2565 และยอดจัดส่งพัสดุที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ท่ามกลางสภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง ตลอดจนสถานการณ์ตลาด E-Commerce ที่อ่อนตัวลง นอกจากนี้บริษัทฯ ยังสามารถลดต้นทุนขายและการให้บริการลงที่ 6.3% จากปีที่แล้ว และ 2.5% จากไตรมาสที่แล้ว ด้วยการใช้มาตรการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดและการมุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
จากการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานภายใน (Industrialisation of KEX) และการยกระดับแพลตฟอร์มการจัดส่งพัสดุมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทฯ ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งพัสดุ Last Mile รวมถึงการลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการปฏิบัติงานระหว่างศูนย์คัดแยกและศูนย์กระจายพัสดุ ทำให้ บริษัทฯ สามารถบริหารทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยยังคงคุณภาพการให้บริการชั้นเยี่ยม ด้วยความคืบหน้าของการดำเนินกลยุทธ์ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อให้ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เราจะยังคงมุ่งเน้นการจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการขยายฐานปริมาณพัสดุเพื่อผลประกอบการที่ดี ล่าสุด KEX ยังได้กำลังเสริมจาก SF ผ่านการร่วมก่อตั้งทีมงานที่มุ่งเน้นการถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การวางแผนเครือข่าย การจัดการเส้นทางจัดส่งพัสดุ และการยกระดับเครื่องมือที่ใช้ในการคัดแยกพัสดุอัตโนมัติ บริษัทฯ ได้นำแนวทางปฏิบัติที่ได้รับมาปรับใช้ รวมถึงเทคนิคต่างๆ และกรณีศึกษาจาก SF ในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ บริษัทฯ คาดว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการดำเนินงาน ผลักดันการปรับปรุงต้นทุนซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น” อเล็กซ์ อึ้ง กล่าว
บริษัทฯ ยังคงมุ่งขยายความเป็นผู้นำตลาดและขยายฐานเข้าสู่กลุ่มลูกค้าทุกกลุ่มทั้งออนไลน์และออฟไลน์ นอกเหนือจากการได้รับความไว้วางใจจาก TikTok ให้เป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุบน TikTok Shop แล้ว บริษัทฯ ยังขยายจุดให้บริการผ่านพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย (Reseller) และแบรนด์ค้าปลีกชั้นนำซึ่งทำให้บริษัทฯ มีจุดให้บริการมากกว่า 37,000 สาขาทั่วประเทศ
จากกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ในช่องทางใหม่ๆ Kerry Cool ก็สามารถขยายการให้บริการได้อย่างประสบความสำเร็จด้วยฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นรวมถึงเครือข่ายร้านอาหารชั้นนำของประเทศไทย ส่งผลให้รายได้ของ KERRY COOL นั้นเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวบริการจัดส่งพัสดุระหว่างประเทศ ครอบคลุมมากกว่า 50 เส้นทาง ใน 45 ประเทศ โดยบริการดังกล่าวเกิดจากการผนึกกำลังกับ เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล (SF International) ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ โดยบริการใหม่นี้จะช่วยเสริมสร้าง KEX Ecosystem และเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรา ทั้งยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำในตลาดขนส่งพัสดุด่วนของไทย