บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยผลประกอบการครึ่งแรก ปี 2565 รายได้โต 19.7% หรือ 411.1 ล้านบาท จากทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งปริมาณงานขนส่งวัตถุอันตรายที่เพิ่มขึ้นในประเทศและต่างประเทศ ยอดขายเคมีภัณฑ์ การติดตั้ง Guardian System ระบบป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ รวมทั้งจาก “สิบล้อลีสซิ่ง” สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ธุรกิจน้องใหม่ล่าสุดของ KIAT พร้อมกำไรสุทธิครึ่งปีแรกเทียบกับปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 7.3% หรือ 48.8 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิเฉพาะไตรมาส 2 เติบโตก้าวกระโดด 36.7% จากไตรมาส 1 ทั้งนี้ KIAT ยังคงเดินหน้าสร้างรายได้จากธุรกิจเดิม ควบคู่กับการมองหาโอกาสสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ เพื่อเติบโตรวมกว่า 20% ในปี 2565 นี้
มินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยว่า ผลประกอบการของ KIAT ครึ่งแรกของปี 2565 รายได้จากทุกธุรกิจเติบโตไปในทิศทางที่น่าพอใจ โดยเติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 19.7% จาก 343.5 ล้านบาท เป็น 411.1 ล้านบาท ซึ่งมาจากธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทเติบโตจากงานขนส่งวัตถุอันตรายทั้งภายในและต่างประเทศ 75.9% หรือ 311.9 ล้านบาท จากการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ 17.4% หรือ 71.5 ล้านบาท และจากบริการรวมถึงบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง “สิบล้อลีสซิ่ง” 6.7% หรือ 27.7 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจใหม่ดังกล่าว หลังจากเริ่มให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา
–กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร ประกาศรายได้ครึ่งปีแรก 229,680 ล้านบาท กำไรโตเกือบ 20% จากปีก่อน
“ถึง KIAT ต้องเผชิญกับสถานการณ์ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการขนส่งปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ แต่บริษัทฯ ได้ปรับการดำเนินธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด รวมทั้งได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการการขนส่ง เพื่อควบคุมต้นทุนในภาพรวม ในขณะที่ยังคงมุ่งรักษามาตรฐานการขนส่งตามหลักสากล จึงทำให้บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาระดับกำไรให้เติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งการปรับตัวข้างต้น ประกอบการรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากทุกธุรกิจ ส่งผลบวกให้กับกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2565 นี้ เติบโตสูงมากขึ้นถึง 36.7% จากไตรมาส 1 และเติบโต 45.5% จากไตรมาส 2 ของปี 2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2565 เติบโตจากช่วงครึ่งแรกของปีก่อน 7.3% หรือกำไรสุทธิรวม 48.8 ล้านบาท” มินตรา กล่าว
ในปี 2565 KIAT ตั้งเป้าธุรกิจเติบโตรวมกว่า 20% โดยจะเดินหน้าใช้กลยุทธ์ธุรกิจที่มุ่งเป้าไปที่ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ควบคู่กับการส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรมีความพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกที่เหนือการควบคุม โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ยังคงมีราคาแพง รวมทั้งเร่งเพิ่มรายได้จากธุรกิจเดิมที่ KIAT มีอยู่ ไม่ว่าจากการเพิ่มปริมาณขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขายเคมีภัณฑ์ การติดตั้ง ให้เช่า หรือจำหน่าย Guardian System ระบบป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ การบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง “สิบล้อลีสซิ่ง” ซึ่งเป็นบริการที่ได้รับการตอบรับดีจากตลาด นอกจากนี้ KIAT ยังให้ความสำคัญในการมองหาโอกาสเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจใหม่ ๆ อีกด้วย
บริการ “สิบล้อลีสซิ่ง” สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ดำเนินงานโดย บริษัท เคจีพี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ KIAT ณ เดือนกรกฎาคม 2565 มียอดจัดสินเชื่อเช่าซื้อรวม 191.9 ล้านบาท และเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากดอกเบี้ยในไตรมาส 1 ปี 2565 นี้ โดยรายได้จากดอกเบี้ยในไตรมาส 2 เติบโต 100% จาก 1.5 ล้านบาท เป็น 3.6 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มทุน บริษัท เคจีพี จำกัด เป็น 125 ล้านบาท สำหรับขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง โดยในปี 2565 ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อ “สิบล้อลีสซิ่ง” เติบโตเกิน 200 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันรถบรรทุกมือสองเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการที่มองหาตัวเลือกในการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เหมาะกับสภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในขณะนี้