Lenskart รุกตลาดแว่นตาไทย เปิดสาขาแรกที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค

Lenskart รุกตลาดแว่นตาไทย เปิดสาขาแรกที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค

Lenskart เปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่สเปลล์ ฟิวเจอร์ พาร์ค พร้อมจำหน่ายแว่นตาทั้งทางหน้าร้านและออนไลน์ โดยนับเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์มายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนำเข้าแว่นตาคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้มาสู่กลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยที่ใส่ใจเรื่องสไตล์และชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 2,000 สาขาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2565 ได้เข้าบริหาร Owndays แบรนด์แว่นตาญี่ปุ่น และด้วยการดำเนินธุรกิจเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ ทำให้สามารถนำความเชี่ยวชาญด้านสายตาที่ Owndays มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วและนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้านสายตาให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในไทยยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ Lenskart ตัดสินใจขยายธุรกิจมายังประเทศไทย โดยยืนยันการเติบโตได้จากจำนวนประชากรในประเทศไทยกว่า 88% มีการติดต่อสื่อสารกันทางออนไลน์ และ 67% ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกสัปดาห์ และเมื่อพิจารณาจากสถิติการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคชนชั้นกลางที่ต้องการแสดงความเป็นตัวของตัวเองผ่านแฟชั่น จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแบรนด์ให้เป็นศูนย์รวมแว่นตาที่มีสไตล์ ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชัน และสามารถครองใจผู้บริโภคในประเทศไทยได้

Jan Lim ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “การขยายธุรกิจมายังประเทศไทยเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจเชิงกลยุทธ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิทัศน์ดิจิทัลหลาย ๆ แห่งที่กำลังเฟื่องฟูในประเทศไทยตอนนี้ ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่เหมาะสมที่สุด เรามุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและแฟชั่น เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการดูแลสายตา โดยผู้บริโภคชาวไทยต้องมีกำลังซื้อแว่นตาจากเราได้ เราต้องการนำเสนอแว่นตาที่มีคุณภาพในราคาจับต้องได้สำหรับทุกคน เราตื่นเต้นและอยากให้คนไทยได้สัมผัสกับแว่นตาที่มีดีไซน์ทันสมัยและสัมผัสประสบการณ์การดูแลสายตาที่ไม่เหมือนใครจากเรา”

แว่นตาที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

Lenskart จำหน่ายแว่นตาที่หลากหลายสไตล์ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่สไตล์คลาสสิค เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงกรอบแว่นที่มีความทนทานเป็นพิเศษสำหรับผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง รวมไปถึงแว่นตาสำหรับเด็กที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาสั้น

ลูกค้าสามารถเลือกแบบและสไตล์แว่นตาได้จากหลากหลายแบรนด์ อาทิ LenskartAir ที่ขึ้นชื่อเรื่องกรอบแว่นตาที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ หรือ Switch เป็นกรอบแว่นตาที่ตอบโจทย์ 2 ฟังก์ชันในคู่เดียว โดยเป็นได้ทั้งแว่นสายตาและปรับเป็นแว่นกันแดดได้ เพียงใช้ clip-on และแบรนด์ Hooper เป็นแว่นตาที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ มีสไตล์และใช้งานได้นาน

จำหน่ายแว่นตาที่ทันสมัยในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยระบบ “Simple Price” ราคาของแว่นตาจะถูกจัดไว้เป็นเซต แบบกรอบพร้อมเลนส์ ซึ่งกรอบแว่นสำหรับเด็กมีราคาเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท และกรอบแว่นสำหรับผู้ใหญ่เริ่มต้นที่ 2,000 บาท เท่านั้น โดยราคานี้รวมเลนส์กันแสงสะท้อนชนิดพรีเมียม (ขนาด 1.56) บริษัทมั่นใจว่าประชากรไทยอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจะสามารถซื้อแว่นตาคุณภาพสูงของแบรนด์ได้ นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังมีสิทธิประโยชน์มอบให้สมาชิกระดับ Gold Max โดยสมาชิกจะได้รับสิทธิ์ซื้อ 1 แถม 1 สำหรับซื้อกรอบแว่นใดก็ได้ในร้านตลอดระยะเวลาสมาชิก 2 ปี

การขายสินค้าผ่านหลากหลายช่องทางทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อแว่นตาได้อย่างสะดวกสบาย โดยลูกค้าสามารถค้นหากรอบแว่นตาที่เหมาะกับใบหน้าได้ผ่านทางฟีเจอร์ 3D try-on ในแอปพลิเคชัน หรือจะเลือกซื้อจากหน้าร้านก็มีสินค้าพร้อมให้บริการ นอกจากนั้น ยังมีบริการตรวจวัดสายตาฟรี โดยนักทัศนมาตรที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ Lenskart วางแผนที่จะขยายสาขาอีก 15 แห่งทั่วประเทศไทยภายในปี พ.ศ. 2568 โดยจะเปิดสาขาอย่างน้อย 3 สาขาภายในสิ้นปี พ.ศ. 2567 นี้ และยังตั้งเป้าหมายในการขยายสาขาเพิ่มถึง 50 สาขา ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยจะขยายให้ครอบคลุมจังหวัดสำคัญทั่วไทย อาทิเช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี และขอนแก่น

 –“ไทยกูลิโกะ” รุกตลาด Plant-Based Milk ส่ง “กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ มิกซ์ 3 นัท” รสชาติใหม่ เอาใจคนรักสุขภาพ

Related Posts

Scroll to Top