Business

LG เผยผลประกอบการปี 66 ทุบสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากเครื่องใช้ไฟฟ้า และโซลูชันชิ้นส่วนยานยนต์เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 8

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG) เผยผลประกอบการประจำปี 2566 ที่ 84.2 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท) โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 3.55 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 9.5 หมื่นล้านบาท) นับเป็นปีที่สามที่แอลจีสร้างสถิติผลประกอบการประจำปีสูงเป็นประวัติการณ์ ผลกำไรจากการดำเนินงานก็มีความแข็งแกร่งเช่นกัน ใกล้เข้าสู่ระดับที่เห็นได้ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่มีความต้องการมากขึ้น

แม้จะเผชิญความท้าทายในด้านต่าง ๆ ทั้งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ที่ลดลง แต่ธุรกิจหลักของแอลจี ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันชิ้นส่วนยานยนต์กลับมีแนวโน้มขยายตัว แสดงให้เห็นถึงความสามารถในปรับตัวทางธุรกิจ โดยเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาแปดปี โดยในปีที่ผ่านมา ผลประกอบการประจำปีจากทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์ มีมูลค่ารวมสูงกว่า 40 ล้านล้านวอน ซึ่งเติบโตขี้นมาก จาก 18 ล้านล้านวอน ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 โดยส่วนแบ่งรายได้รวมจากทั้งสองกลุ่มธุรกิจยังเพิ่มสูงขึ้นจาก 32.5 เปอร์เซ็นต์เป็น 47.8 เปอร์เซ็นต์

โดยความสำเร็จในด้านผลประกอบการในปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากกลยุทธ์ทางธุรกิจของแอลจีในการปรับพอร์ทธุรกิจ ซึ่งบริษัทได้ขยายธุรกิจประเภท B2B โดยจับกระแสการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว และปรับใช้โมเดลธุรกิจใหม่เข้ากับโมเดลที่มีอยู่ เช่น บริการระบบสมาชิก เป็นต้น นอกจากนี้ แอลจียังได้แรงหนุนจากคอนเทนต์และโมเดลธุรกิจบริการที่นำเทรนด์ ซึ่งต่อยอดจากฐานผู้ใช้จำนวนมากที่ใช้ผลิตภัณฑ์แอลจีนับร้อยล้านชิ้นทั่วโลก จนนำมาสู่ความสำเร็จในการสร้างผลกำไรที่แข็งแกร่ง

ในอนาคตต่อจากนี้ แอลจีจะยังคงมุ่นมั่นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงจากโครงสร้างบริษัทที่ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มั่นคง สู่โครงสร้างธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องในอนาคต โดยในปีนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพในการก้าวผ่านขีดจำกัด เพื่อสร้างโอกาสสูงสุดทางธุรกิจ นำโดยบริษัทด้านการขายและการตลาดระหว่างประเทศ (Overseas Sales & Marketing Company) ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยแอลจีจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อการเติบโตที่มากขึ้นและการขยายสายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม โดยเฉพาะในตลาดใหม่ ๆ ที่มีโอกาสในการเติบโตสูงกว่า

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศ สร้างสถิติใหม่อีกครั้งในปีนี้ด้วยรายได้ 30.14 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 8.1 แสนล้านบาท) นับเป็นการเติบโตและสร้างรายได้เกิน 30 ล้านล้านวอนติดต่อกันเป็นปีที่แปด การใช้กลยุทธ์โมเดลธุรกิจใหม่ ผ่านการบริการระบบสมัครสมาชิก การขยายส่วนแบ่งทางตลาดในธุรกิจ B2B ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ชิ้นส่วน และโซลูชันบิวท์อิน ล้วนมีส่วนผลักดันการเติบโตในปีนี้ โดยผลกำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้นถึง 76 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน มียอดรวมผลกำไรที่ 2.08 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท)

โดยในปีนี้ บริษัทจะเร่งผลักดันการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจไปสู่โครงสร้างที่พร้อมก้าวไปสู่อนาคต รวมไปถึงโครงการผลิตภัณฑ์และบริการสู่ผู้บริโภคโดยตรง (Direct-to-Consumer) ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะขยายระบบปฏิบัติการในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และขยายบริการสมัครสมาชิกไปสู่ตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในด้านการสร้างนวัตกรรมโซลูชันภายในบ้านอัจฉริยะหรือสมาร์ทโฮมที่สะท้อนถึงคุณค่าของ “บ้านที่ไม่ต้องออกแรง” (Zero Labor Home) ในส่วนของผลิตภัณฑ์ บริษัทจะยึดมั่นในกลยุทธ์ที่มุ่งรักษาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์หลัก เช่น เครื่องซักผ้า และตู้เย็น และขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดบางภูมิภาคไปพร้อมกัน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในส่วนของ B2B โดยเฉพาะกลุ่มระบบเครื่องปรับอากาศ บริษัทวางแผนที่จะสร้างความแข็งแกร่งผ่านการตั้งส่วนธุรกิจที่ครบวงจรในพื้นที่ โดยมีทั้งทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิต และการขาย โดยเน้นไปที่เทรนด์การใช้ไฟฟ้าที่โดดเด่นในภูมิภาค เช่น ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปยุโรป

กลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ มีผลประกอบการมูลค่า 10.1 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.69 แสนล้านบาท) โดยมีผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งปีที่ 133 พันล้านวอน (หรือประมาณ 3.5 พันล้านบาท) หลังดำเนินธุรกิจมาสู่ปีที่สิบ นอกจากบริษัทจะมีผลประกอบการมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านวอนแล้ว ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาแปดปี นับตั้งแต่เปิดเผยผลประกอบการในปี 2558 ส่วนแบ่งของรายได้สุทธิรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ โดยในปีนี้ บริษัทจะมุ่งไปที่การเติบโตจากภายนอก โดยใช้ประโยชน์จากยอดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ยังค้างอยู่ และการพัฒนาในด้านคุณภาพการดำเนินงาน ในกลุ่มธุรกิจอินโฟเทนเมนต์ในยานยนต์ บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพในธุรกิจรถยนต์ที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Vehicle) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้ผลิตอุปกรณ์ตามแบบฐาน (OEMs) โดยบริษัทจะอาศัยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเทคโนโลยีสารสนเทศ ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ในยานยนต์ ส่วนธุรกิจระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-powertrain) แอลจีจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมความแข็งแกร่งให้ศักยภาพของผลิตภัณฑ์ ควบคู่ไปกับการสร้างฐานการผลิตให้มีความมั่นคงในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสนองความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มยอดสั่งซื้อสินค้าระดับพรีเมียม และพัฒนาประสิทธิภาพในปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

กลุ่มธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีผลลประกอบการมูลค่า 14.2 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 3.8 แสนล้านบาท) โดยมีผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งปีที่ 362 พันล้านวอน (หรือประมาณ 9.7 พันล้านบาท) ธุรกิจแพลตฟอร์ม webOS คอนเทนต์และการบริการบนแพลตฟอร์มสมาร์ททีวีเสริมแกร่งในฐานะแหล่งรายได้ใหม่ ด้วยผลกำไรจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้รายได้จะลดลงเล็กน้อย อันเป็นผลมาจากความต้องการสินค้าระดับพรีเมียม เช่น ทีวี OLED ที่ฟื้นตัวช้า ในปีนี้ แอลจีจะเสริมทัพให้กับทีวีทั้ง OLED และ QNED เพื่อเตรียมรับแนวโน้มความต้องการทีวีที่จะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยใช้กลยุทธ์ควบคู่สองทางเพื่อการขึ้นเป็นผู้นำตลาดระดับพรีเมียม และเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ผู้นำด้านสื่อและความบันเทิงไปพร้อมกัน โดยในปีนี้ บริษัทวางแผนจะปั้นธุรกิจแพลตฟอร์ม webOS ให้มีรายได้เติบโตในหลักหมื่นล้าน

กลุ่มธุรกิจโซลูชันทางธุรกิจ มีผลประกอบการมูลค่า 5.4 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 1.45 แสนล้านบาท) โดยขาดทุนจากการดำเนินงานทั้งปีอยู่ที่ 42 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.11 พันล้านบาท) รายรับที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากความต้องการเทคโนโลยีสารสนเทศที่ฟื้นตัวช้าและการชะลอการลงทุนจากองค์กรหลัก ๆ การลงทุนที่เพิ่มขึ้นในส่วนของธุรกิจเพื่ออนาคต เช่น ด้านหุ่นยนต์และการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไร ในปีนี้ บริษัทจึงจะมุ่งเป้าหมายไปที่การมอบสินค้าและบริการทางสารสนเทศ ซึ่งรวมไปถึง จอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมส์ และแล็ปท็อป LG gram Pro และจะแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น หน่วยงานรัฐบาลและโรงเรียน ในฐานะผู้นำของธุรกิจ B2B ของแอลจี บริษัทตั้งเป้าที่จะเร่งการเปลี่ยนจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียว ไปสู่การผสมผสานและการส่งมอบโซลูชันที่เกี่ยวข้อง ด้วยส่วนแบ่งของธุรกิจใหม่ที่สูงมากในกลุ่มลูกค้าองค์กร การลงทุนจะเน้นความสำคัญไปที่การเตรียมตัวสำหรับอนาคตมากกว่าผลประกอบการทางธุรกิจในระยะสั้น

เกีย เซลส์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย กางแผน ‘Plan S-5’ บุกตลาดระยะยาว พร้อมเร่งทำตลาด EV ด้วยแผนเปิดตัว Kia EV9

supersab

Recent Posts

AIS-True เปิดฉากระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ทั่วไทย พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อรัฐบาลสั่งการ

AIS และ True Corporation สองผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ได้ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast และ SMS ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อหน่วยงานภาครัฐสั่งการ AIS: ระบบ Cell…

10 hours ago

ดีพร้อม-บางจากฯ ผนึก 5 พันธมิตรธุรกิจ ผลิต “น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน” 1 ล้านลิตรต่อวัน ดันไทยสู่ฮับการบินพลังงานสะอาด ชิงความได้เปรียบเศรษฐกิจโลก

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5 องค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)…

11 hours ago

ก.อุตฯ ผนึก World Bank เปิดเกมรุก “Industrial Decarbonization” ดันไทยสู่ Hub ลงทุนสีเขียว

“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เปิดเวที CEO Forum ชูแนวทาง Industrial Decarbonization ภายใต้โครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการไทยลดคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน…

14 hours ago

Tops เขย่าตลาด FMCG ปี 68 ทุ่ม 5,000 รายการ Own Brand ชูคุณภาพพรีเมียม ราคาโดนใจ ผนึกชุมชนโกอินเตอร์

ท็อปส์ (Tops) ประกาศศักดาผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ปี 2568 ทุ่มงบไม่อั้น พัฒนาพอร์ตสินค้า Own Brand ทะลุ 5,000 รายการ ชูจุดแข็งด้านคุณภาพระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้…

16 hours ago

รฟม. แจ้งรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เปิดให้บริการเดินรถ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) – สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) และจัด Feeder รับ – ส่ง สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) – สถานีมีนบุรี (PK30)

ตามที่ เกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนได้ส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) ต้องงดให้บริการชั่วคราว เพื่อแก้ไขรางจ่ายไฟเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายที่แผ่นปิดรอยต่อคานทางวิ่ง จำเป็นต้องซ่อมแซม ซึ่ง กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางราง…

16 hours ago

“แสตมป์ กระจกเกรียบ” ศิลปะล้ำค่าแห่งสยาม ไปรษณีย์ไทยเปิดตัวแสตมป์ที่ระลึก วันอนุรักษ์มรดกไทย 2568 ดันไทยสู่สายตาโลก

ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดตัวแสตมป์ที่ระลึกชุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568 ด้วยการนำเสนอศิลปกรรมอันทรงคุณค่าที่กำลังจะเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ "กระจกเกรียบ" ศิลปะแห่งสยามประเทศที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์แต่กลับหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยมีกำหนดการเปิดจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2568 เป็นต้นไป ในราคาดวงละ…

17 hours ago

This website uses cookies.