OKLS โรงเรียนสอนภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่น เเดินหน้าสอนภาษารูปแบบผสมผสาน ออกแบบคอร์สการเรียนภาษาแบบใหม่ ต่อยอดขยายตลาดการสอนภาษาและขยายโอกาสทางการศึกษาด้วยคุณภาพการสอนมาตรฐานเดียวกัน หลังประสบวิกฤติโควิด-19 โรงเรียนทั้ง 8 สาขาต้องหยุดการเรียนการสอนรวมกว่า 13 เดือน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีนักเรียนเลือกในแพลตฟอร์มออนไลน์เติบโตอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 50% มั่นใจพร้อมรับทุกสถานการณ์ ให้การเรียนภาษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องจากนี้ ตั้งเป้าจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2565 นี้
ประทีป โลจนาทร กรรมการผู้จัดการ OKLS เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2563 จนถึงปัจจุบัน และมีมาตรการล็อกดาวน์ที่ส่งผลให้สถานศึกษา รวมถึงโรงเรียนของ OKLS ทั้ง 8 สาขาต้องปิดและหยุดการเรียนการสอนภาษาไปรวมกว่า13 เดือนในช่วงเวลาดังกล่าว และมีผลกระทบกับรายได้ภาพรวมที่หายไปกว่า 40%
–Jubilee โชว์ไตรมาส 4 ปี 64 โกยกำไร 107 ล้านบาท
–เปิดตัว “The 1 for Business” ชูแนวคิด Customer First, Data First เจาะกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจ
โดยในช่วงแรกของการล็อกดาวน์ ทั้งนักเรียนและครูผู้สอนยังคงยอมหยุดการเรียนการสอนเพื่อรอกลับมาเรียนภาษาหลังการล็อกดาวน์ ด้วยความคุ้นชินและเพื่อคุณภาพการเรียนการสอน แต่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 กลับยืดเยื้อ ประกอบกับผู้คนเริ่มปรับตัวกับการใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มอล โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ซึ่งรวมถึงนักเรียนและครูผู้สอนของ OKLS ที่ปรับตัวกับการเรียนภาษาแบบนิวนอร์มอลในที่สุด
“ในปี 2563 ที่โรงเรียนยังปิด OKLS เริ่มต้นจากการใช้ Microsoft Teams ในการเรียนการสอนออนไลน์ โดยได้พยายามจัดให้มีการเรียนการสอนภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น ทั้งแบบเรียนตัวต่อตัว และแบบกลุ่มเล็ก มีนักเรียนเพียง 20% ของนักเรียนปัจจุบันสนใจเรียนออนไลน์เท่านั้น แต่ในปี 2564 เราได้ติดต่อกับ ULearning ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของสิงคโปร์ที่เป็นระบบการจัดการเรียนรู้บนคลาวด์ ครอบคลุมรูปแบบการเรียนการสอนทั้งหมด ตั้งแต่การลงทะเบียน การทดสอบ ไปจนถึงการติดตามและรายงานผลการเรียน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ OKLS ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนฟัง พูด อ่าน เขียน และแปลภาษานั้น ๆ แบบใช้งานได้จริง” ประทีป กล่าว
หลังจากที่ได้พัฒนาการสอนภาษาบนแพลตฟอร์ม ULearning เป็นเวลา 10 เดือน มีนักเรียนปัจจุบันเลือกเรียนภาษาในแพลตฟอร์มดังกล่าวเพิ่มขึ้น 50% นอกจากนี้ OKLS ยังมีนักเรียนใหม่เข้ามาเรียนในระบบเพิ่มขึ้น 50% ถึงแม้จะยังเป็นจำนวนที่ไม่มาก แต่นักเรียนมาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย และนักเรียนชาวไทยที่พำนักอยู่ต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เป็นต้น เป็นการตอบรับที่ทำให้ OKLS มองเห็นโอกาสที่จะปรับทิศทางในการบริหารจัดการโรงเรียน
โดยวางแผนที่จะคงจำนวนโรงเรียน 8 สาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของ OKLS ที่มีจำนวนสาขามากที่สุด ในขณะที่จะทำการตลาดการเรียนภาษาบนแพลตฟอร์ม ULearning ของ OKLS ไปทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มจำนวนนักเรียน 100% ภายในปี 2565 นี้ โดยคาดการณ์สัดส่วนของจำนวนนักเรียนประจำสาขาเป็น 60% และนักเรียนออนไลน์เป็น 40% นับเป็นการต่อยอดขยายตลาดการสอนภาษา ควบคู่กับการขยายโอกาสทางการศึกษาด้วยคุณภาพการสอนมาตรฐานเดียวกันกับการมาเรียนที่สาขาของ OKLS รวมทั้งเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ หากมีความจำเป็นต้องหยุดการเรียนการสอนที่สาขา โดยลดผลกระทบกับการเรียนการสอนและรายได้ของโรงเรียนรวมทั้งครูผู้สอน
นอกจากนี้ OKLS ยังมีแผนขยายตลาดการสอนภาษาในกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งปัจจุบันได้จัดการเรียนการสอนฝึกอบรมภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นให้แก่บุคลากรในบริษัทเอกชนชั้นนำ และองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งยังมีการนำหลักสูตรพร้อมคณะครูของ OKLS ไปจัดการเรียนการสอนภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นให้แก่โรงเรียนสายสามัญต่าง ๆ ทั้งนี้ OKLS มีทั้งหลักสูตรสอนภาษาที่ได้มาตรฐาน และการออกแบบหลักสูตรเฉพาะที่เหมาะกับทุกช่วงวัยและตามความต้องการของแต่ละองค์กร