วัน แบงค็อก (One Bangkok) ชูแนวคิด “The Heart of Bangkok” หรือ “เมืองกลางใจ” ผลักดันกรุงเทพฯ สู่การเป็น “The New Influential Global City” พร้อมเผยรายละเอียดธุรกิจรีเทลสร้างไลฟ์สไตล์ครบวงจร เตรียมเปิดให้บริการไตรมาส 4 ปี 2567
ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่า “จากประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 20 ประเทศทั่วโลก เรานำความรู้และความเชี่ยวชาญทั้งหมด พร้อมทีมงานคุณภาพระดับโลกในหลากหลายสาขามาร่วมกันรังสรรค์ โครงการ วัน แบงค็อก เมืองอัจฉริยะต้นแบบเพื่อความยั่งยืน บนพื้นที่กว่า 108 ไร่ พัฒนาให้เป็น “The Heart of Bangkok” เมืองกลางใจ ที่ใช้ใจสร้างทุกตารางนิ้ว เพื่อให้เมืองนี้ไปอยู่กลางใจผู้คน และเป็นเมืองที่ทุกคนหลงรัก พัฒนาพื้นที่สีเขียวในโครงการเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ให้มากขึ้น สร้างแรงบันดาลใจด้วยงานศิลปะ และวัฒนธรรมให้กับทุกคน รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาเมืองให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายสำคัญในการผลักดันให้กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์ หมุดหมายสำคัญสำหรับนักธุรกิจ นักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก”
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ วัน แบงค็อก มุ่งสู่การเป็นเมืองต้นแบบ ที่จะเข้าไปอยู่ในใจของคนไทยและผู้คนทั้งโลก ประกอบด้วย
-จุดศูนย์กลางของยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สมบูรณ์แบบ ตั้งอยู่บนถนนวิทยุบรรจบกับถนนพระราม 4 เป็นทำเลที่ดีที่สุดผืนสุดท้ายใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจอื่น ๆ อาทิ สาทร สีลม สามย่าน ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด พร้อมทั้งสร้างพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งกว่า 50 ไร่ เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ รวมเป็นพื้นที่กว่า 700 ไร่ ซึ่งเปรียบเสมือนปอดผืนใหญ่ใจกลางกรุง
-มาตรฐานใหม่แห่งความยั่งยืนของการใช้ชีวิต เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED for Neighborhood Development ระดับ Platinum รวมถึง WiredScore Platinum และ SmartScore Platinum มุ่งสู่การรับรองด้วยมาตรฐาน WELL เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับผู้คน
-ศูนย์รวมประสบการณ์หลากหลายไร้ขีดจำกัด ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของผู้คน รองรับคอมมูนิตี้ที่ครอบคลุมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์
One Bangkok ประกอบด้วย
- อาคารสำนักงานแบบพรีเมียม จำนวน 5 อาคาร
- โรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่และไลฟ์สไตล์ 5 แห่ง
- อาคารที่พักอาศัยระดับลักซ์ชัวรี่อีกจำนวน 3 อาคาร
ซึ่งองค์ประกอบสำคัญที่จะเป็นหัวใจหลัก และเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับโครงการฯ คือ One Bangkok Retail จุดหมายปลายทางของการชอปปิ้งและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ
พลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายรีเทล วัน แบงค็อก กล่าวว่า “เรากำลังเตรียมสร้างนิยามใหม่แห่งโลกรีเทลให้เกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งจะเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในประเทศไทยที่รวบรวมประสบการณ์การช้อปปิ้ง ภายใต้แนวคิด “The Rhythmic Experience” ที่ทุกคนสามารถเข้ามาสร้างจังหวะแห่งความสุขและประสบการณ์ที่แตกต่างร่วมกัน One Bangkok Retail จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยยกระดับให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งการช้อปปิ้งที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย”
โดย One Bangkok Retail มีพื้นที่เช่าสุทธิรวมกว่า 160,000 ตร.ม. พร้อมคุณลักษณะ 3 ประการ ดังนี้
Interconnected 3 Retail Experiences นำเสนอ 3 ประสบการณ์ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างและมีดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่สามารถเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร้รอยต่อ
-Parade ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A World of Choice Without Limits” บนพื้นที่เช่า 85,000 ตร.ม. จำนวน 9 ชั้น ด้วยการผสมผสานทุกไลฟ์สไตล์ Shop – Play – Work – Eat เปรียบเสมือน Open Playground สำหรับทุกคนในครอบครัว รวบรวมร้านค้าแบรนด์ดัง รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ ตลอดจนซูเปอร์มาร์เก็ตที่จำหน่ายสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก
-THE STOREYS นำเสนอคอนเซ็ปต์ “Tell Your Own Story at THE STOREYS” แพลตฟอร์มแห่งความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นที่เช่ารวม 5 ชั้น 35,000 ตร.ม. พบร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ที่มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมสมัย และคอนเซ็ปต์สโตร์สุดฮิป นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร และแหล่งแฮงเอ้าท์ยามค่ำคืน
-POST 1928 ด้วยคอนเซ็ปต์ “Go Beyond Luxury” บนพื้นที่เช่า 5 ชั้น 40,000 ตร.ม. พบกับถนนช้อปปิ้ง (Shopping Street) สายแรกของกรุงเทพฯ ที่รวบรวมร้านค้าแฟล็กชิพสโตร์แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ในรูปแบบ Standalone ตลอดสองฝั่งถนน ตั้งแต่ซูเปอร์แบรนด์แฟชั่น วอช แอนด์ จิวเวลรี่ ตลอดจนแบรนด์สตรีทแวร์ Unique Retail Concepts รูปแบบการชอปปิ้งที่แตกต่าง ด้วยรีเทลคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมือนใคร
Made in One Bangkok
นำเสนอประสบการณ์หนึ่งเดียวในโลกที่รังสรรค์ขึ้นมาเฉพาะที่ วัน แบงค็อกเท่านั้น อาทิ
-SARAPAD THAI สัมผัสความเป็นไทยในรูปแบบที่ทันสมัยและอินเทรนด์ ด้วยสินค้าหลากหลายที่นำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมความเป็นไทยอย่างครบครัน
-Bangkok Wonder at One Bangkok ไดนิ่งเดสติเนชั่นแห่งใหม่ ให้คุณได้เลือกสรรอาหารหลากหลายได้ตลอดทั้งวัน พร้อมโซนแฮงค์เอาท์หลังเลิกงานท่ามกลางพื้นที่สีเขียวกึ่งกลางแจ้ง
-ONE Content Store ร้านหนังสือคอนเซ็ปต์ใหม่แห่งแรก พร้อมสินค้าไลฟ์สไตล์ แหล่งเช็คอินแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ
-Chang Canvas พื้นที่แห่งนี้พร้อมให้คุณเฉลิมฉลองช่วงเวลาพิเศษ และค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว
-Retail Loop เพลิดเพลินไปกับแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์กว่า 900 ร้านค้า ตลอดจนเอนเตอร์เทนเมนต์หลากหลายรูปแบบในพื้นที่ซึ่งเชื่อมโยงทั้งบรรยากาศแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์เข้าด้วยกัน
-Food Loop ครั้งแรกในประเทศไทยกับการรวบรวมร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งระดับตำนาน ภัตตาคาร Rooftop Bars ร้านแฮงค์เอาท์ ตลอดจนสตรีทฟู้ด รวมกว่า 250 ร้านดัง จากทั่วโลกและในประเทศไว้ในที่เดียว ความยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร มาพร้อมคอนเซ็ปต์ All Day, Every day Dining Journey ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
-Art loop พื้นที่ที่ให้คุณค้นหาแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ไปพร้อมกับการช้อปปิ้ง ครั้งแรกในประเทศไทยกับศูนย์รวมผลงานและโปรแกรมทางศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลกโดยรอบ โครงการฯ กว่า 2 กิโลเมตร เป็นแหล่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน เป็นพื้นที่ที่ศิลปะจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
-Enchanted Moments with Heart-Centric Experiences มอบประสบการณ์ที่ใช้ใจสร้าง ด้วยโปรแกรมอีเวนต์ต่าง ๆ ที่หมุนเวียนตลอดทั้งปี โดยมี Live Entertainment Arena ศูนย์กลางการจัดงานมาตรฐานโลก สำหรับการแสดงคอนเสิร์ต ไลฟ์โชว์ งานนิทรรศการ และงานอื่น ๆ อีกมากมาย บนพื้นที่จัดกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคารทั้งหมดกว่า 20,000 ตร.ม. รวมถึงพื้นที่ One Bangkok Park สวนสีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
-Membership Program รวบรวมทุกบริการและสิทธิประโยชน์ ตลอดจนมีบริการ One Stop Service ที่ให้บริการช้อปปิ้งแบบครบวงจรผ่าน Concierge ของศูนย์การค้าฯ และบริการ EV Shuttle Bus รับส่งระหว่างบีทีเอสเพลินจิต มายังโครงการ วัน แบงค็อก
“Parade และ THE STOREYS จะมีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วน POST 1928 จะเปิดให้บริการในเฟสถัดไป โดยเราตั้งเป้าจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการรวมไม่ต่ำกว่า 90 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นคนไทยและกลุ่มเอ็กซ์แพต (Expat) 60% และนักท่องเที่ยว 40%” พลินี กล่าวเสริม