อายลิ้งค์ วิชั่น เผยคนไทยชอบสินค้าแหวกแนว ดันตลาดแว่นตาพรีเมียมยังโต

อายลิ้งค์ วิชั่น เผยคนไทยชอบสินค้าแหวกแนว ดันตลาดแว่นตาพรีเมียมยังโต

ไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของตลาดแว่นพรีเมียมมากที่สุดในอาเซียน ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการที่คนไทยชอบสินค้าพรีเมียม มีความแปลกใหม่ แหวกแนว รวมไปถึงสินค้าฟังก์ชัน ทำให้อายลิ้งค์ วิชั่น ยังเดินหน้าขยายแบรนด์แว่นพรีเมียมเข้าไทย รวมถึงดันแบรนด์ ic! berlin ที่เป็นแว่นตาฟังก์ชันทำตลาดในไทยมากขึ้น

อีคอมเมิร์ซไม่กระทบตลาดแว่น

ความน่าสนใจของตลาดแว่นตาคือ คนที่ซื้อมักจะต้องลองสวมจริงก่อนถึงจะกล้าซื้อ และอีกส่วนคือเมื่อเลือกกรอบได้แล้วจะต้องวัดค่าสายตาตัดแว่นต่อ นั้นทำให้คนยังต้องซื้อแว่นที่ร้านแว่นตาอยู่

ประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า อีคอมเมิร์ซเข้ามาดิสรัปต์แว่นตาแฟชั่นราคาหลักพันบาทไปบ้าง แต่กับแว่นสายตาที่ยังต้องตัดแว่นที่หน้าร้าน คนยังต้องไปรับหน้าร้าน อีคอมเมิร์ซจะเข้ามาช่วยเสริมการขาย เพราะถึงแม้จะกดซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้แต่สุดท้ายยังต้องเข้ามารับที่ร้านอยู่ดี

ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีร้านแว่นที่ไม่ใช่เชนเกิดขึ้นมาก บางร้านอยู่ในปั๊มน้ำมันก็มี ซึ่งเป็นร้านที่ขายกรอบแว่นตาไม่แพง ตัดเลนส์ไม่แพง เน้นเจาะกลุ่มตลาดล่างเป็นหลัก

ส่วนตลาดแว่นตาพรีเมียมโดยเฉพาะ ic! berlin ยังมีกฎห้ามขายออนไลน์ เพราะฉะนั้นทุกคนที่สนใจจะต้องเข้ามาดูหน้าร้าน ส่วนที่เห็นขายในช่องทางออนไลน์จะเป็นของที่หิ้วเข้ามา หรือของปลอม

แว่นตาฟังก์ชันโตต่อเนื่อง

ประพันธ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเทรนด์การซื้อแว่นตาพรีเมียม หรือราคา 20,000 บาท ขึ้นไป สำหรับผู้หญิงจะเติบโตในตลาดแว่นแฟชั่นที่ใส่แล้วเห็นโลโก้ว่าเป็นแบรด์อะไร ขณะที่ผู้ชายจะมองหาแว่นต่อที่เหมาะกับการใช้งาน ทั้งเบา แข็งแรง และคุ้มค่ากับราคา หรือเรียกว่าแว่นตาแนวฟังก์ชัน

ซึ่งการที่คนหันมาให้ความสนใจกับแว่นตาแนวฟังก์ชันมากขึ้น ทำให้ ic! berlin มียอดขายเติบโตและเป็นแบรนด์ที่สร้างรายได้ให้ อายลิ้งค์ วิชั่น มากถึง 40% ของยอดขายทั้งปี

ล่าสุดในปี 2023 นี้แบรนด์ ic! berlin ยังคงมียอดขายเติบโตขึ้นอีกกว่า 20% ซึ่งเกิดจากความนิยมทำให้ทาง อายลิ้งค์ วิชั่น ได้เพิ่มคอลเลคชั่นใหม่ๆ เข้ามาในไทยมากขึ้น

นวัตกรรมที่เกิดจากผู้ใช้

สำหรับแบรนด์ ic! berlin นั้นก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1999 หรือประมาณ 24 ปีก่อน และพัฒนานวัตกรรมแว่นตาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ในแต่ละยุคสมัย

ยัง โคเนอร์ (Jan Kohne) ประธานบริหาร บริษัท ไอซี!เบอร์ลิน จำกัดประเทศเยอรมนีกล่าวถึงการพัฒนานวัตกรรมแว่นตาว่า “เราฟังความต้องการของผู้บริโภคว่าไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปอย่างไร และนำเสียงตอบรับมาพัฒนานวัตกรรม เราคุยกันว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ขณะเดียวกันทีมออกแบบก็ทำงานร่วมกับทีมพัฒนา ซึ่งสินค้าที่ดีจะต้องยั่งยืนใน Brand Identity คือรูปลักษณ์เหมือนเดิมแต่นวัตกรรมปรับเปลี่ยนไปตามที่คนต้องการ

”วันนี้เราพยายามเพิ่มสายการผลิต แต่ในขณะเดียวกันเราคงความเป็นแบรนด์ลิมิเต็ด คือจะไม่ผลิตมามากจนเกินไป ให้แว่นตาแต่ละรุ่นมีความพิเศษ“ ยัง โคเนอร์ กล่าวเสริม

ดีงงานใหญ่จัดในไทย เล็งกวาดรายได้เพิ่ม

ล่าสุด อายลิ้งค์ วิชั่น จัด “ic! berlin World Day 2023” ฉลองครบรอบ 25 ปีแบรนด์ ic! berlin พร้อมคอลเลคชั่นใหม่ Winter 2024 และ FLEXABON ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย

ประพันธ์ อธิบายว่า สาเหตุที่เลือกจัดงานในไทย เพราะไทยเป็นตลาดใหญ่ของตลาดแว่นตาพรีเมียม ขณะที่ ic! berlin มียอดขายในไทยเป็นเบอร์ 1 ของโลก มากกว่าในเยอรมนีประเทศต้นกำเนิด ขณะที่เบอร์ 3 ที่ทำยอดขายได้ดีคือ สหรัฐฯ

ด้าน คอลเลคชั่น Winter 2024 ที่เปิดตัวครั้งแรกในไทย จะมีแค่ 10 ดีลเลอร์ที่ได้ขาย และมีไม่เกิน 100 ชิ้น เพราะความยากในด้านการผลิต

”เราภูมิใจที่ชาวต่างชาติใช้ไทยเป็นสถานที่ประชุมระหว่างผู้นำภาคพื้นเอเชีย และ ic! berlin ให้เกียรติไทยจัดแสดงสินค้าใหม่ก่อนใครในโลก“ ประพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ อายลิ้งค์ วิชั่น คาดว่าในปี 2024 จะมีรายได้จากการขายแว่นตาพรีเมียม 500 ล้านบาท และเป็นตัวแทนจำหน่าย 25 แบรนด์

Scroll to Top