SEALECT จับมือ SESAME STREET สร้างจุดขายแบรนด์ผ่านการดีไซน์กระป๋อง เดินหน้าเจาะกลุ่มครอบครัว หลังประสบความสำเร็จจากการร่วมมือกับคาแรกเตอร์โดราเอมอนถึง 2 รอบ พร้อมย้ำความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ ที่เข้าถึงได้กับคนทุกกลุ่ม
ณัฐวีณ์ วชิรทวีพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปบริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับ SESAME STREET ที่เป็นคาแรกเตอร์ระดับโลก เราใช้เวลาดำเนินการกว่าหนึ่งปี เพราะต้นสังกัดมีเกณฑ์ในการเลือกแบรนด์ที่เข้มงวด ต้องผ่านการรับรองทั้ง 3 ขั้นตอน คือ สินค้าต้องได้รับมาตรฐานการผลิต สินค้าต้องมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ และคาแรกเตอร์จะต้องดูดีเมื่ออยู่บนผลิตภัณฑ์ ซึ่งซีเล็คเป็นแบรนด์แรกของโลกที่นำ SESAME STREET มาไว้บนผลิตภัณฑ์ได้
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ คุณณัฐวีณ์ มองว่าเป็นการเปลี่ยนฐานแฟนคลับอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ SEALECT ได้จับมือกับคาแรคเตอร์ Doraemon มาถึง 2 ครั้งใน 2 ปี ซึ่งการดึง SESAME STREET เข้ามา ถือเป็นการตอกย้ำคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ซีเล็ค คือ การออกแบบสินค้าให้สนุก สร้างกิจกรรมให้เข้ากับเทรนด์ผู้บริโภค และช่วยให้คนตั้งใจเดินมาที่ชั้นวางสินค้าทูน่ากระป๋องมากขึ้น
ทั้งนี้สินค้าจะผลิตเพียง 10% ของยอดการผลิตทั้งหมดตลอด 1 ปี ที่ได้สัญญา เพื่อกระตุ้นดีมานด์ให้คนอยากสะสม ได้ทั้งความตื่นเต้น และมีมูลค่าในตัว
เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
ทูน่านั้นเป็นโปรตีนประเภทหนึ่ง ที่มีไขมันต่ำ มาจากทะเลโดยตรง เพราะไม่สามารถทำฟาร์มได้ แต่ปัจจุบันคนไทยยังบริโภคทูน่าน้อย ซึ่งค่าเฉลี่ยมีเพียง 11 บ้านเท่านั้นที่เลือกบริโภคทูน่าเป็นโปรตีน
ซึ่งซีเล็คมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มสัดส่วนผู้บริโภคผ่านการสร้างสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่ม และปรับภาพลักษณ์จากแบรนด์อาหารเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์
ณัฐวีณ์ กล่าวว่า การเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกับผู้บริโภคได้ วันนี้แบรนด์ซีเล็คคือโซลูชัน เพราะปัจจุบันทำอาหารน้อยลง หันมาสั่งเดลิเวอรี่มากขึ้น เราจึงต้องปรับตัวให้รับการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า รวมถึงสร้างการรับรู้ใหม่ เพราะวันนี้คนไทยยังมองว่าทูน่าจะอยู่ใน แซนด์วิช สลัด และ ยำ แต่ในความเป็นจริงแล้วทูน่าอยู่ได้กับหลากหลายเมนู อย่างในเกาหลีใต้ เขากินทูน่ากับรามยอน ซึ่งทูน่ากระป๋องเป็นอาหารทางเลือกที่สามารถเก็บไว้ที่บ้านได้นาน เมื่อหิวก็หยิบมากินได้ทันที โดยได้ทั้งเรื่องรสชาติและสุขภาพที่ดี
ปัจจุบันซีเล็คมีสินค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.สินค้าประเภทพร้อมทาน (Ready to Eat) เช่น น้ำพริก สเปรดพร้อมแครกเกอร์ กลุ่มเครื่องแกง และกลุ่มสินค้าท๊อปปิ้ง 2.สินค้าประเภทพร้อมปรุง (Ready to Cook) เช่น กลุ่มซีเล็คคลาสสิก กลุ่ม ซีเล็คพรีเมียม และกลุ่มซีเล็ค ฟิตต์ 0% ไขมันอิ่มตัว โดย 90% ของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เป็นวัสดุที่รีไซเคิลได้
สำหรับกลุ่มลูกค้า ซีเล็ค แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
- กลุ่มลดน้ำหนัก เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีการทำการตลาดมากที่สุด ตั้งแต่การใช้พรีเซ็นเตอร์ KOL หรือการสนับสนุนอีเวนต์ต่างๆ
- กลุ่มครอบครัว เป็นกลุ่มที่จะซื้อวัตถุดิบเข้าบ้าน ทำตลาดผ่านการคอลแลปส์กับคาแรกเตอร์ต่างๆ เพื่อเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคเปิดใจกับทูน่ากระป๋องมากขึ้น
- กลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ทำตลาดผ่านการเปิดตัว ทูน่า ท็อปปิ้ แบบซอง สามารถฉีกเพื่อเทโปะบนข้าว หรือเป็นโปรตีนเสริม ปัจจุบีนมี 2 รสชาติ คือ รสซุปผัก และ รสพริกน้ำปลา
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกปลาทูน่ากระป๋องในประเทศไทยรวมโดยบริษัท Nielsen IQ ณ เดือนกันยายน มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 703 ล้านบาท ซึ่งเติบโตปีละประมาณ 2.6 เปอร์เซ็นต์
โดย 9 เดือนแรกของปี 2567 ซีเล็คทูน่าที่จัดจำหน่ายในช่องทางค้าปลีกมีรายได้รวม 305 ล้านบาท เติบโต 3.2 เปอร์เซ็นต์ ช่องทางธุรกิจบริการร้านอาหาร (Food Service) มีรายได้รวม 51 ล้านบาท เติบโต 14 เปอร์เซ็นต์ และช่องทางออนไลน์ ที่สร้างรายได้รวมกว่า 5 ล้านบาท
ทั้งนี้แบรนด์ซีเล็คทูน่าครองส่วนแบ่งการตลาดสินค้าทูน่ากระป๋องของกลุ่มตลาดค้าปลีกในประเทศไทยอยู่ที่ 57.1 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นอัตราการเติบโตราว 3.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวของตลาดรวม