ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอสังหาฯ ที่ซบเซา ไทวัสดุ กลับสร้างปรากฏการณ์เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายทะลุ 40,000 ล้านบาทในปี 2023 อะไรคือกุญแจสำคัญที่ผลักดันให้ไทวัสดุครองใจลูกค้า และก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2024?
เรียกได้ว่า 2024 เป็นปีสุดหินของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในปีนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย และผู้ดำเนินธุรกิจในตลาดดังกล่าวต่างต้องปรับตัวเพื่อสู้กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความผันผวน โดยในส่วนของประเทศไทยมีการคาดการณ์จากสถาบันต่างๆว่า ปิดท้ายปีนี้อาจติดลบถึง 20% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบทศวรรษ และถือเป็นธุรกิจที่ยังคงต้องจับตาว่าก้าวต่อไปในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องของกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
แม้ภาพรวมของอุตสาหกรรมดังกล่าวจะอยู่ในระดับการเติบโตที่ไม่มากนัก แต่หากเจาะลึกถึงธุรกิจในห่วงโซ่จะพบว่าบางภาคส่วนมีการเติบโตสวนกระแส และอยู่รอดได้ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่รุนแรง ดังเช่นไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเห็นได้ว่ามีทั้งการขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ซื้อจากหลาย ๆ ภูมิภาคทั่วประเทศ และที่เป็นไฮไลต์อย่างการเขย่าวงการธุรกิจรีเทลฮาร์ดไลน์กับผลประกอบการสุดแกร่งจากปี 2023 ที่ผ่านมา ด้วยยอดขายรวมนิวไฮสูงสุด 40,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 11%
ปัจจัยแห่งความสำเร็จของไทวัสดุ
การเติบโตอย่างโดดเด่นของไทวัสดุ เกิดจากการผสมผสานกลยุทธ์ต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ได้แก่
1. โมเดลไฮบริดสโตร์ ครบเครื่องเรื่องบ้าน
ไทวัสดุ ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาโมเดลธุรกิจ โดยในปี 2021 ได้เปิดตัว ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม โมเดลไฮบริดสโตร์ ที่รวมจุดแข็งของ ไทวัสดุ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้าง และ บีเอ็นบี โฮม ซึ่งโดดเด่นด้านสินค้าตกแต่งบ้าน เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ครบวงจร ตั้งแต่วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือช่าง ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในร้านเดียว
2. ราคา “ถูกและดี” โดนใจทุกกลุ่มลูกค้า
ไทวัสดุ เข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า ที่ต้องการสินค้าคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า จึงใช้วิธี Big Volume Order สั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ต่ำ และนำเสนอสินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นลดราคา และสิทธิพิเศษมากมาย เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น คูปองส่วนลด บัตรกำนัลเงินสด และบัตรกำนัลทอง
3. เครือข่ายสาขาครอบคลุม เข้าถึงง่าย ทุกพื้นที่
ปัจจุบัน ไทวัสดุ มีสาขามากกว่า 103 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งในจังหวัดใหญ่ และเมืองรอง โดยเน้นการเลือกทำเลที่ตั้ง ที่สะดวกต่อการเดินทาง และเข้าถึงง่าย เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่ม สามารถเข้ามาใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย
4. บริการเหนือระดับ สร้างความประทับใจ
ไทวัสดุ มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยบริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน อาทิ
- พนักงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำแนะนำ และช่วยเหลือลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า
- บริการ vFIX ช่างมือ 1 เรื่องบ้าน ให้บริการติดตั้ง ซ่อมแซม และรีโนเวทบ้าน โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการอบรมจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
- ช่องทางการจำหน่ายแบบ Omnichannel เชื่อมต่อประสบการณ์การช้อปปิ้ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เข้าไว้ด้วยกัน อย่างราบรื่น
5. เข้าใจอินไซต์ลูกค้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ไทวัสดุ ให้ความสำคัญกับการศึกษา และทำความเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการ และปัญหาของลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า บริการ และกิจกรรมทางการตลาด ให้ตรงใจลูกค้ามากที่สุด
ความยั่งยืน หัวใจสำคัญของไทวัสดุ
นอกจากความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างแล้ว ไทวัสดุ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี อาทิ
- การใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- โครงการ “ไทวัสดุ เคียงข้าง สร้างสุข” ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสนับสนุนสถานพยาบาลในท้องถิ่น
- การจ้างงานคนพิการ ที่ศูนย์บริการลูกค้า Contact Center ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัมนาคนพิการ
ก้าวต่อไปของไทวัสดุ
ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ไทวัสดุ พร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน อย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้า บริการ และช่องทางการจำหน่าย ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในยุคดิจิทัล พร้อมกับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กันไป
–เซ็นทรัลเวิลด์ ฉลองตรุษจีนปีมะเส็งสุดอลังการ ตอกย้ำแลนด์มาร์กเทศกาลระดับโลก
