“The iCON” ทุ่มงบ 3 พันล้านสร้างนักขายมืออาชีพ พร้อมขยายตลาด CLMV ตั้งเป้า 5 ปีกวาดยอดขายหมื่นล้าน

“The iCON” เดินหน้าทุ่มงบกว่า 3 พันล้าน พัฒนา “ศูนย์การเรียนรู้ธุรกิจออนไลน์” เร่งสร้างนักขายมืออาชีพ เผยปี 66 เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ บุกตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงาม พร้อมขยายตลาด CLMV ตั้งเป้า 5 ปีกวาดยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท

บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด (The iCON Group) เผยแผนธุรกิจปี 66 เตรียมทุ่มงบกว่า 3 พันล้านบาทสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ด้านธุรกิจออนไลน์ย่านมีนบุรี เพื่อพัฒนานักขายออนไลน์มืออาชีพ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่บุกตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงามและดูแลผิวพรรณ เร่งขยายตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งเป้ายอดขาย 1 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปี

วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าความเติบโตของธุรกิจที่ก้าวกระโดดจากหลักร้อยล้านบาทต่อปีมาสู่ระดับพันล้านบาทภายในระยะเวลาเพียง 4 ปีนั้น เกิดขึ้นมาจากการสร้างความแตกต่างในด้านผลิตภัณฑ์ การนำเทคโนโลยีและระบบ Drop ship Fulfillment มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขายโดยไม่ต้องสต๊อกสินค้า และการลงทุนในการพัฒนาความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพสร้างนักขายออนไลน์มืออาชีพ

–ไปรษณีย์ไทย ร่วมมือ สตช. ส่งแผ่นปลิว ไซเบอร์วัคซีน ถึงคนไทยทั่วประเทศ รุกสกัดอาชญากรรมไซเบอร์

“จุดแข็งของเราคือการลงทุนในเรื่องของการพัฒนาความรู้ เดิมเรามีโรงเรียนสอนธุรกิจย่านรามอินทราที่เปิดใช้มา 3 ปีลงทุนไปกว่า 300 ล้านบาท แต่ด้วยการขยายตัวของธุรกิจในปัจจุบันทำให้เราต้องลงทุนซื้อที่ดินจำนวน 63 ไร่ย่านมีนบุรี-หทัยราษฎร์ เพิ่มเติม เพื่อสร้างศูนย์แห่งการเรียนรู้ในเรื่องของการขายออนไลน์แบบ Mix Used ที่ครบวงจรขึ้น มีสตูดิโอสำหรับขายของออนไลน์ มีศูนย์ประชุม ร้านอาหาร เพื่อสร้างนักขายออนไลน์มืออาชีพ รองรับได้ 1 หมื่นคนต่อวัน ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายใน 4 ปี ใช้งบประมาณ 3 พันล้านบาทในการก่อสร้าง โดยเฟสแรกคาดว่าจะพร้อมใช้งานภายใน 3 ปี”

ซึ่งการลงทุนในการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ธุรกิจออนไลน์นั้น เกิดจากมุมมองที่แตกต่างของ CEO The iCON ที่เชื่อมั่นว่าการให้ความรู้คู่กับการมีกลยุทธ์ที่เหนือกว่า คือความแตกต่างที่นำมาซึ่งผลสำเร็จ

“ที่เราเติบโตมาวันนี้เพราะมีแนวคิดที่แตกต่าง ถามว่าแบรนด์อื่นๆ มีมาก่อนแล้วยอะมาก เราถือเป็นรุ่นเด็กเลย แต่จุดที่แตกต่างกันคือ เราไม่ได้มองเรื่องการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เน้นเรื่องของการให้ความรู้ด้วย แบรนด์อื่นๆ อาจมองว่าลงทุนสูง เห็นผลช้า แต่ผมเชื่อว่าคุ้ม แรกๆ มันอาจจะไม่เห็นชัด ปีแรกยอดขายไม่ถึง 100 ล้าน แต่ผมเชื่อว่าความรู้เหนือ กลยุทธ์เหนือ ในที่สุดก็จะชนะ แต่ต้องใช้เวลา”

สำหรับแผนการตลาดในปี 2565 นั้น วรัตน์พล เปิดเผยว่า มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าและนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยทิ้งท้ายปีด้วยการเริ่มบุกตลาดกลุ่ม Personal Care เปิดตัวยาสีฟัน BOOM ที่จะเริ่มปูพรมโฆษณาเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป

“ต้นปีหน้าจะเริ่มเห็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Personal Care และ Skin Care ที่จะเริ่มทยอยเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแนวคิดของเราคือ เลือกทำสินค้าที่เชื่อว่ามีกลุ่มผู้บริโภคจำนวนมากอยู่แล้ว แต่เราจะทำในสิ่งที่มีอยู่แล้วให้โดดเด่นและแตกต่างกว่าที่มีอยู่ในตลาดได้อย่างไร อย่างกาแฟเราก็เป็นเจ้าแรกที่สร้างความแตกต่างในตลาดมีแต่ 3อินวัน แต่ของเรา 36อินวัน เรานำเสนออาหารเสริมในรูปแบบของกาแฟ โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ดื่มกาแฟแต่ได้สารอาหารครบถ้วนแบบนี้เป็นต้น”

ด้านผลกระทบจากโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้น แม้จะส่งผลให้ยอดขายของปี 65 นั้นต่ำกว่าที่คาดไว้คือ 4 พันล้านบาท ซึ่งปี 64 มียอดขาย 4,950 ล้านบาท แต่ในมุมมองของ CEO THE iCON กลับยังเชื่อมั่นว่าภาพรวมของธุรกิจออนไลน์ยังมีแนวโน้มที่จะโตไปได้อีก

“เชื่อว่าในภาพรวมของธุรกิจออนไลน์ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ทุกคนคาดว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่ ถามว่าแล้วต้องปรับอะไรไหม คิดว่าไม่ต้องปรับ เราต้องนิ่งให้เป็น การทำธุรกิจบางคนก็ปรับมั่วไปหมดจนเสียวงสวิง แค่ทำปัจจัยพื้นฐานให้ดี อย่างที่เรากำลังทำอยู่ เมื่อทุกอย่างกลับมาปกติ ปัจจัยพื้นฐานที่เราเตรียมไว้จะส่งผลและรองรับกับการเติบโตนั้นได้ทันที”

แม้วันนี้ตลาดในประเทศอาจจะอยู่เหนือการคาดเดา ทางดิไอคอนจึงได้พุ่งเป้าไปที่การขยายตลาดไปสู่ประเทศกลุ่ม CLMV หรือประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมไปถึงตลาดกลุ่ม AEC และประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

“จากการเก็บข้อมูลพบว่าตอนนี้เรามีประมาณ 23 ประเทศที่ทางตัวแทนของเราส่งสินค้าเข้าไปขาย เยอะสุดก็เป็นกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ตอนนี้ก็เริ่มคุยกับพาร์ตเนอร์ของประเทศต่างๆ โดยจะมีการออกแบบแพ็คเกจของสินค้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศเพื่อควบคุมสินค้าและราคาได้ ประเทศไทยประชากร 70 ล้านคนยังทำยอดขาย 4 พันล้านได้ ดังนั้นตลาดในกลุ่มประเทศนี้ เชื่อว่าภายในระยะเวลา 5 ปีการจะทำให้มียอดขายถึง 1 หมื่นล้านนั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก”

สำหรับ The iCON เป็นบริษัทขายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามเกรดพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ “Boom” โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้จัดงาน “THE iCON EVOLUTION Cash Cloud” ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่นำ 5 ซุปตาร์ ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์, บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, กันต์ กันตถาวร, เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ และ โดม-ปกรณ์ ลัม มารวมกันบนเวทีดิไอคอน สร้างปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ของวงการพรีเซ็นเตอร์ของเมืองไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม

• Facebook
• X
• Line