Business

ไทยยูเนี่ยน รายงานกำไรสุทธิ 1 พันล้านไตรมาสแรกปี 66 หลังเรด ล็อบสเตอร์พลิกฟื้นทำกำไร

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ปี 2566 เผยแผนพลิกฟื้นธุรกิจให้กับเรด ล็อบสเตอร์ ธุรกิจร้านอาหารทะเลระดับโลก ให้สัญญาณบวก โดยได้รับส่วนแบ่งผลกำไร 121 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี เมื่อเทียบกับส่วนแบ่งขาดทุนจำนวน 243 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2565

ไอ-เทล เผยผลประกอบการ Q1 ปี 66 พร้อมเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจกว่า 2.1 พันล้านปีนี้

บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาสแรก 1,022 ล้านบาท ลดลง 41.5 เปอร์เซ็นต์ จาก 1,746 ล้านบาทในปีก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการที่รายงานการเงินในปี 2566 นี้ มี 2 รายการที่ไม่สามารถเทียบได้ที่ถูกบันทึกในปี 2565 ได้แก่

  • การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมจากหุ้นบุริมสิทธิ เรด ล็อบสเตอร์ จำนวน 239 ล้านบาท (หลังหักภาษี) ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากหุ้นบุริมสิทธิดังกล่าวเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง
  • ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากไอ-เทล คอร์ปอเรชั่นจำนวน 200 ล้านบาท เนื่องจากไอ-เทลได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ทำให้สัดส่วนหุ้นที่ไทยยูเนี่ยนถือครองมีจำนวนลดลงจาก 99.5 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 77.8 เปอร์เซ็นต์

ดังนั้น หากเปรียบเทียบกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้กับปีที่แล้วที่ไม่นับรวมสองรายการนี้ กำไรสุทธิจะลดลง 21.8 เปอร์เซ็นต์

สำหรับยอดขายประจำไตรมาสของไทยยูเนี่ยนอยู่ที่ 32,652 ล้านบาท ลดลง 10.0 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ยอดขายมีความแข็งแกร่ง เป็นไปตามคาดการณ์ของบริษัท สาเหตุจากความต้องการสินค้าปรับตัวลงทั่วโลกจากการที่คู่ค้าในภูมิภาคต่างๆ มีปริมาณสินค้าคงคลังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นทำให้การสั่งซื้อสินค้าชะลอตัวลง

ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราคาดการณ์ไว้ว่าไตรมาสแรกของปีนี้จะเป็นไตรมาสอ่อนตัวที่สุด เป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายอยู่ในอัตราที่สูงในปีที่ผ่านมา สินค้าคงคลังของลูกค้าอยู่ในระดับที่สูง และสถานการณ์ค่าขนส่งปรับตัวสู่ภาวะปกติ  อย่างไรก็ตาม เรายังมองว่าปี 2566 สามารถกลับมามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเริ่มมีสัญญาณที่เป็นบวกในไตรมาสที่ 2 และเราคาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะกลับสู่สภาวะปกติในช่วงครึ่งหลังของปี จากกระแสการบริโภคอาหารทะเลและโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก”

ในไตรมาสแรกนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทได้ลดลงถึง 12.1 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 4,121 ล้านบาท จากการที่ค่าใช้จ่ายในการขนส่งปรับตัวดีขึ้นเข้าสู่สภาวะปกติ

ผลจากการที่ตลาดทั่วโลกมีสินค้าคงคลังอยู่ในปริมาณที่สูงและราคาปลาที่สูงทำให้ความต้องการสินค้าต่างๆ ปรับตัวลง รวมถึงยอดขายในไตรมาสแรกของธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องของไทยยูเนี่ยนที่ลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ระดับ 15,225 ล้านบาท และยอดขายของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงลดลง 21.9 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ระดับ 3,495 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทคาดว่าความต้องการสินค้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์สินค้าคงคลังที่มีอยู่มากได้ค่อยๆ คลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นมียอดขายอยู่ที่ระดับ 11,684 ล้านบาท ลดลง 15.3 เปอร์เซ็นต์ จากการปรับตัวของราคาอาหารทะเลในตลาดสู่ภาวะปกติและยอดขายในปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูง  สำหรับธุรกิจสินค้ามูลค่าเพิ่มและธุรกิจอื่นๆ มียอดขายอยู่ที่ 2,248 ล้านบาท ลดลง 9.5 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังสามารถคงอัตรากำไรขั้นต้นได้แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 27.3 เปอร์เซ็นต์  ไทยยูเนี่ยนยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่พัฒนาด้วยนวัตกรรมของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น อาทิ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทูน่าจากพืช ภายใต้แบรนด์ จอห์น เวสต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และ เรด ล็อบสเตอร์ ได้เปิดตัวสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งเป็นครั้งแรก ซึ่งมีวางจำหน่ายในร้านค้ากว่า 5 พันแห่งและออนไลน์ทั่วสหรัฐอเมริกา

ในด้านยอดขายจากตลาดต่างๆ ทั่วโลกนั้น ไทยยูเนี่ยนมีสัดส่วนยอดขายตามภูมิภาคมีดังนี้ สหรัฐอเมริกาและแคนาดาอยู่ที่ 43 เปอร์เซ็นต์ ยุโรป 26 เปอร์เซ็นต์ ประเทศไทย 12 เปอร์เซ็นต์ และภูมิภาคอื่นๆ 19 เปอร์เซ็นต์

“เรายังคงมุ่งเน้นเรื่องความสามารถในการทำกำไร การดำเนินงานด้วยความเป็นเลิศ และวินัยทางการเงิน เดินหน้าธุรกิจเราอย่างเต็มที่ตลอดปีนี้  สถานะทางการเงินของไทยยูเนี่ยนแข็งแกร่งด้วยสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.57 เท่า ซึ่งดีกว่าเป้าหมายของเราที่ตั้งไว้ที่ระดับ 1-1.1 เท่า เปิดโอกาสให้เราสามารถมองไปข้างหน้าสู่การลงทุนใหม่ๆ ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่จะตอบโจทย์ด้านกลยุทธ์ให้กับบริษัท” ธีรพงศ์ กล่าว

ไทยยูเนี่ยนยังคงลงทุนในโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุน 6-6.5 พันล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในทุกประเภท มีการก่อสร้างโรงงาน 3 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารพร้อมทาน ติ่มซำและสินค้าเบเกอรี่  โรงงานผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตและคอลลาเจน เป็ปไทด์ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกและขนมทานเล่นที่มีไลน์การบรรจุหีบห่อแบบอัตโนมัติ และห้องเย็นอีกหนึ่งแห่งในประเทศกาน่า

supersab

Recent Posts

เอมิเรตส์ สั่งซื้อเครื่องบินขนส่งโบอิ้ง 777 เพิ่ม 5 ลำ ขยายฝูงบินขนส่ง 21 ลำ ภายในปี 2026

สายการบินเอมิเรตส์ประกาศสั่งซื้อเครื่องบินขนส่งโบอิ้ง 777 เพิ่มอีก 5 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มส่งมอบตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2026 รวมกับคำสั่งซื้อก่อนหน้านี้ ปัจจุบันเอมิเรตส์มีเครื่องบินขนส่งโบอิ้ง 777F รอการส่งมอบจากโบอิ้งรวม 14 ลำ ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นปี…

56 mins ago

เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่ม 2,000 ล้าน รีแบรนด์ Market Place ปักหมุดโครงการใหม่ “Market Place เทพรักษ์” เจาะย่านอสังหาฯ เติบโต

เซ็นทรัลพัฒนา เปิดกลยุทธ์พลิกโฉม Community Mall Landscape ทั่วกรุงเทพฯ รีแบรนด์ “Market Place” (มาร์เก็ตเพลส) เจาะย่านเมืองเติบโต ที่อยู่อาศัยพุ่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเชิงลึกของลูกค้าได้เพิ่มขึ้น โดยทุ่มงบกว่า 2,000…

1 hour ago

ไทยยูเนี่ยน โกยกำไรสุทธิไตรมาส 3 ทะลุ 1.4 พันล้านบาทพร้อมสร้างสถิติทำอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดที่ 19.5%

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2567 ด้วยอัตรากำไรสุทธิที่ 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น…

13 hours ago

NT นำเทคโนโลยีดิจิทัลหนุนชุมชนเมืองบั้งไฟโก้ จ.ยโสธร ร่วมคัดแยกขยะลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Showcase “แยก แลก ใจ สู่ชุมชนเมืองบั้งไฟโก้ สะอาด น่าอยู่” ที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)…

13 hours ago

Roborock เปิดตัวไลน์อัพหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 4 รุ่นใหม่

Roborock (โรโบร็อค) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด 4 รุ่น ได้แก่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นและถูพื้นอัจฉริยะ Roborock Qrevo Curv และ Roborock Saros 10R พร้อมทั้งเครื่องดูดฝุ่นและถูพื้นไร้สาย…

13 hours ago

AIS ประกาศเคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนครั้งแรกของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย อายุ 4 ปี ที่ 2.74% และอายุ 7 ปี ที่ 2.92%

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “AIS”) พร้อมเปิดให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์แสดงความจำนงในการจองซื้อหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน มีอายุระหว่าง 3 ปี ถึง 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.54% ถึง 3.22% ต่อปี อีกทั้งยังเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไปกับหุ้นกู้อายุ 4 ปี ที่…

13 hours ago