Business

โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ เปิดตัว “น้ำยันฮีแคลเซียม” เครื่องดื่มน้ำแคลเซียมผสานวิตามิน

โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ รุกเปิดตัวนวัตกรรมเครื่องดื่มน้ำแคลเซียมผสานวิตามิน “น้ำยันฮีแคลเซียม” เปิดเซกเมนต์ใหม่เขย่าตลาดน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ มูลค่า 1,900 ล้านบาท ด้วยความแตกต่างอย่างเหนือชั้นและตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เพียบพร้อมด้วยคุณประโยชน์จากแคลเซียมที่มาในรูปแบบ 0 แคลอรี ไม่มีน้ำตาล และไม่มีแลคโตส ผสานวิตามินบี 12 มาพร้อมกับความหอมอร่อยของกลิ่นโยเกิร์ต สามารถดื่มแทนน้ำเปล่า เติมความสดชื่นได้ทั้งครอบครัวและทุกช่วงวัย

วรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โอสถสภา และกรรมการ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า “นวัตกรรม ‘น้ำยันฮีแคลเซียม’ ถือเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มวิตามินผสานแคลเซียมครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นเครื่องดื่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการแคลเซียม และนับเป็นผลิตภัณฑ์ที่สองของโอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ ที่เกิดจากการผนึกความแข็งแกร่งของ “โอสถสภา” และ “ยันฮี” โดยมีเป้าหมายในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งนวัตกรรมและความร่วมมือของยันฮีและโอสถสภาที่มีมาอย่างต่อเนื่องนี้ ได้ช่วยผลักดันให้ในไตรมาส 2 ของปี 2565 แบรนด์ยันฮีมีการเติบโตทางมูลค่าตลาดถึง 37%”

เซ็นทรัล รีเทล โชว์ความสำเร็จ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

“โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ พร้อมที่จะเป็นผู้นำเทรนด์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพดี ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีวิตามินเสริม และจากข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในยุค Active & Healthy Lifestyle พบว่าคนรุ่นใหม่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ มีความสะดวก ใหม่ ทันสมัย และรสชาติอร่อย ดังนั้นการเปิดตัว ‘น้ำยันฮีแคลเซียม’ ที่มีคุณประโยชน์และสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเติบโตและสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย อีกทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เคยมีมาก่อนในตลาดของไทย จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด และขับเคลื่อนการเติบโตให้กับตลาดน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีมูลค่า 1,900 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วนวัตกรรม ‘น้ำยันฮีแคลเซียม’ ยังพร้อมเจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนทำงาน และกลุ่มที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ รวมทั้งกลุ่มผู้บริโภคที่มีครอบครัวที่ต้องการดูแลบุตรหลานหรือบิดามารดาของตัวเอง ไปจนถึงกลุ่มชุมชนในเมือง และผู้บริโภคทั่วไปที่ใส่ใจสุขภาพ” วรรณิภา กล่าว

นายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า “แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากในการซ่อมแซมการสึกหรอของกระดูกและฟัน ช่วยควบคุมระดับความดันเลือด รวมถึงควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่ต้องการเสริมแคลเซียม แต่บางกลุ่มที่ประสบปัญหาในการทานแคลเซียม อาทิเช่น ไม่ชอบดื่มนมวัว เนื่องจากแพ้แลคโตสในนมวัว บ้างก็ไม่ชอบรับประทานแคลเซียมแบบเม็ดเพราะดูดซึมได้ยากจนทำให้มีอาการท้องอืดตามมา บริษัทฯ จึงได้ค้นคว้าและพัฒนา ‘น้ำยันฮีแคลเซียม’ ที่ดื่มง่าย

โดยใช้แคลเซียมชนิด GIVOCAL (Calcium Glycerophosphate) แบบ Organic Salt ที่ผลิตโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน Organic Salt ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแคลเซียมชนิดนี้มีคุณสมบัติดูดซึมง่ายกว่าแคลเซียมปกติ (Calcium Carbonate) ถึง 4 เท่า สามารถละลายได้ดีทั้งในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ทำให้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระดูกได้ดี ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า โดย ‘น้ำยันฮีแคลเซียม’ 1 ขวด มีปริมาณแคลเซียมถึง 200 มก. สามารถดื่มได้ทุกวัน และดื่มแทนน้ำเปล่าได้ เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักการดูแลสุขภาพ รวมถึงผู้ที่ต้องการเสริมสร้างแคลเซียม”

“ในชีวิตประจำวันคนเราควรได้รับแคลเซียมที่เพียงพอต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยไหนก็ตาม โดยปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวันจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุและสภาพร่างกาย เช่น เด็กควรได้รับแคลเซียม 800 มก. ต่อวัน ผู้ใหญ่ควรได้รับแคลเซียม 1,200 มก. ต่อวัน และผู้สูงอายุควรได้รับแคลเซียม 1,500 มก. ต่อวัน ส่วนหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรได้รับแคลเซียม 1,200-1,500 มก. ต่อวัน แต่คนไทยทานอาหารที่มีธาตุแคลเซียมน้อยมาก โดยเฉลี่ยเพียงวันละ 361 มก. เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าความต้องการที่แท้จริงของร่างกาย จึงทำให้คนไทยถึง 90% มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ดังนั้นการรับประทานแคลเซียมเสริมเพื่อให้ได้ปริมาณแคลเซียมครบถ้วน จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยป้องกันการขาดแคลเซียมได้” นายแพทย์สุพจน์ กล่าว

‘น้ำยันฮีแคลเซียม’ ขนาด 460 มล. ราคา 25 บาท มีส่วนผสมของแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามิน บี 12 ไม่มีน้ำตาล และ 0 แคลอรี มาพร้อมกับกลิ่นหอมของโยเกิร์ต วางจำหน่ายที่เซเว่นอีเลฟเว่นแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

supersab

Recent Posts

เจาะลึก Gen Z: ทำความเข้าใจคนรุ่นใหม่ หัวใจหลักของการตลาดยุคนี้

ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ต่างๆ และหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบันก็คือ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ที่เกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2012 พวกเขาเติบโตมากับโลกดิจิทัล มีมุมมองที่แตกต่าง และให้ความสำคัญกับคุณค่าที่หลากหลาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึง Gen Z…

6 hours ago

ภัยไซเบอร์พุ่ง “ฟอร์ติเน็ต” ชี้ช่องโหว่ทักษะ เสี่ยงละเมิดข้อมูล สูญเงินกว่าล้านดอลลาร์

"ฟอร์ติเน็ต" เผยรายงานช่องว่างด้านทักษะไซเบอร์ ชี้ 92% ขององค์กรในไทยเผชิญภัยคุกคามจากปัญหาขาดแคลนบุคลากร แนะ 3 แนวทางรับมือ ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน สร้าง "กองทัพไซเบอร์" ปกป้องเศรษฐกิจดิจิทัล ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยรายงานช่องว่างด้านทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกประจำปี 2024…

6 hours ago

FUJIFILM Business Innovation Thailand Launches 2024 strategy to strengthen innovative leadership with “Make a Leap to the New Stage”

FUJIFILM Business Innovation (Thailand) Co., Ltd., a leading provider of office solutions and innovative printing…

7 hours ago

FUJIFILM Business Innovation ปรับกลยุทธ์ “Make a Leap to the New Stage” หวังขึ้นแท่นผู้นำโซลูชันดิจิทัลในไทย

FUJIFILM Business Innovation ผู้ให้บริการโซลูชันสำนักงานและเครื่องพิมพ์ ประกาศทิศทางกลยุทธ์ไตรมาส 3 ปี 2024 ภายใต้แนวคิด "Make a Leap to the New…

7 hours ago

Solar D ส่งหุ่นยนต์ติดตั้งโซลาร์เซลล์ “Light Speed” เร็วกว่า 10 เท่า ลดต้นทุน-ดันธุรกิจไทยสู่ยุคพลังงานสะอาด

Solar D เปิดตัว “หุ่นยนต์ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์” นวัตกรรมสุดล้ำ Light Speed ติดตั้งเร็วกว่าแรงงานคนถึง 10 เท่า! ชูจุดเด่นลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ หนุนเป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2569…

7 hours ago

รฟม. เปิดแผนการรื้อถอน 3 สะพาน เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม พร้อมคุมเข้มลดผลกระทบระหว่างก่อสร้าง

วันนี้ (26 พฤศจิกายน 2567) นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม…

9 hours ago