ZEN Group เผยปี 66 เดินหน้าขยาย 90 สาขา พร้อมดัน AKA สู่ Premium Mass

เซ็น กรุ๊ป (ZEN Group) เผยปี 65 กำไร 154 ล้านบาท มากสุดตั้งแต่เริ่มกิจการ เดินหน้าปี 66 ขยายสาขาทั้ง 10 แบรนด์เพิ่มอีก 90 สาขา พร้อมดัน AKA สู่ Premium Mass และเป็นแบรนด์หลักสร้างรายได้ ตั้งเป้าผลประกอบการแตะ 4,500 ล้านบาท กำไรโต 30%

–WARRIX ปั้นแบรนด์เจาะตลาด Active Lifestyle ได้แบรนด์ใหม่ Fit Junctions และ Premier Football หนุนรายได้เติบโต

บุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 65 เป็นปีทองของกลุ่ม ZEN เพราะนอกจากจะมีการเติบโตของสาขามากที่สุดกว่า 45 สาขา ยังทำรายได้มากที่สุดถึง 3,413 ล้านบาท และกำไร 154 ล้านบาท มากที่สุดตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากร้านอาหาร 74% รีเทล 13% แฟรนไชส์ 7% และ เดลิเวอรีและอีคอมเมิร์ซ 6%

“รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายสาขาไปน่านน้ำใหม่ในต่างจังหวัดที่มีต้นทุนค่าเช่าถูกกว่า รวมถึงการขยายสาขา AKA ไปสู่ Hypermarket เช่น BigC และ Lotus’s การที่ต้นทุนลดลงทำให้มีโอกาสทำรายได้และกำไรมากขึ้น”

สำหรับปี 2566 เราตั้งเป้ารายได้ 4,500 ล้านบาท และอัตรากำไรมากกว่าปี 65 ถึง 30% รวมถึงตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 90 สาขา ทั้งเปิดเอง และแฟรนไชส์

นอกจากนี้ยังมีการทำ M&A ที่ผ่านมาได้ร่วมลงทุนกับ 2 บริษัท คือ เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ (ZKC) โรงงานผลิตน้ำปลาร้าที่มีคุณภาพที่ใช้กับตำมั่วมา 20 ปี และ คิง มารีน ฟู้ดส์ (King Marine) เป็นบริษัทที่นำเข้าวัตถุดิบคุณภาพดีจากต่างประเทศ เช่น เนื้อปลา เนื้อวัว

ด้านงบลงทุนในปี 66 เซ็น กรุ๊ป เตรียมไว้ประมาณ 400 กว่าล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาดประมาณ 100 กว่าล้านบาท งบพัฒนาเทคโนโลยี 70 ล้านบาท และส่วนที่เหลือใช้สำหรับปรับปรุงสาขา

เดินหน้าขยายเพิ่ม 90 สาขา ชู AKA เรือธงสร้างรายได้

ในปี 65 ที่ผ่านมา เซ็น กรุ๊ป ได้ขยายสาขาทั้ง 10 แบรนด์ไปมากถึง 45 สาขา (ลงทุนเอง 25 สาขา) ปัจจุบันมีสาขาแล้วกว่า 345 สาขา และในปี 66 นี้ยังเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอีก 90 สาขา (ลงทุนเอง 40 สาขา) มีทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก ผสมกันไป เน้นการลงทุนในพื้นที่ที่เป็นน่านน้ำใหม่ ในต่างจังหวัด

สำหรับแบรนด์ที่จะขยายอย่างต่อเนื่องในปีนี้คือ AKA ที่ตั้งเป้าว่าในอีก 5 ปี จะมีมากกว่า 100 สาขา โดยในห้างใหญ่ตามต่างจังหวัดจะมีสาขา AKA ครบทุกห้าง รวมถึงรุกเปิดสาขาตาม Hypermarket อย่าง BigC และ Lotus’s นอกจากนี้ยังศึกษาการเปิดสาขา AKA ในสถานีบริการน้ำมันอีกด้วย

“เหตุผลที่เลือกขยาย AKA ไปสู่ตลาดมากขึ้น เพราะต้องการสร้างภาพลักษณ์ของ AKA ให้เป็น Premium Mass เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมทาน Buffet ขณะที่กำลังซื้อจากสาขาต่างจังหวัดกลับมาฟื้นตัวเพราะนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา”

และจากกลยุทธ์การขยายสาขา AKA บุญยง เชื่อว่าในปี 66 แบรนด์ AKA จะทำรายได้เป็นเบอร์ 1 แทนที่ ZEN และมี On the Table ตามมาเป็นอันดับ 3

รุก “มาเลเซีย เวียดนาม” เพิ่ม เตรียมบุกตลาด “เกาหลี”

สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchising) ในปี 66 นี้เตรียมรุกตลาด มาเลเซีย และ เวียดนาม เพิ่มเติม นำโดยแบรนด์ ตำมั่ว และ เขียง พร้อมตั้งเป้าในปีนี้เปิดแฟรนไชส์เพิ่มอีก 50 สาขา

นอกจากนี้ยังมีแผนจะนำแบรนด์ในเครือ เซ็น กรุ๊ป ไปออกงานแฟร์ที่เกาหลีใต้เป็นการแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จัก

“ร้านอาหารในเครือ เซ็น กรุ๊ป เราสร้างแบรนด์ขึ้นมาเอง คิดจากคนในองค์กรที่มี Passion และขยายสาขาไปต่างประเทศเอง เราภาคภูมิใจที่เป็นแบรนด์ไทยที่ไปโกอินเตอร์ได้” บุญยง กล่าวเสริม

ชูการตลาด Insightful Marketing

แผนการทำธุรกิจของเครือ เซ็น กรุ๊ป ในปี 66 จะขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์การตลาด แบบ Insightful Marketing ที่เน้นการใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำความเข้าใจลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่

1.Insightful Product การทำสินค้าให้ถูกใจ โดยดูจากข้อมูลการสั่งอาหารของลูกค้า ที่ผ่านมาได้ออกเมนู Lunch Set แบบใหม่ที่มีหลายขนาด และผสมผสานเมนูได้ เอาใจลูกค้าที่เลือกอิ่มได้พอดี ราคาเข้าถึงได้ หรือ แบรนด์เขียง ที่ออกเมนู “กะเพราสองรัก” นำเมนู กะเพรา + ไก่กระเทียม มาไว้ในจานเดียวกัน

2.Insightful Promotion ทำโปรโมชั่นให้เข้าถึงลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมด้านความถี่ ช่วงเวลา ก่อนนำมาประมวลผลเพื่อออกแคมเปญไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่ผ่านมาได้จัดแคมเปญ “ป่ะ ทาน นักเรียน” กับร้าน AKA เอาใจเด็กนักเรียนที่ชอบมาทานหลังเลิกเรียน หรือ ตำมั่ว ออกโปรโมชั่น “เบิ้ลเครื่อง” ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น

3.Insightful Communications การสื่อสารที่โดนใจ เป็นการสร้างการรับรู้ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าผ่านคอนเทนต์ เช่น ปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว “โต๊ะจัง” มาสร้างกระแสให้ร้าน On the Table หรือ แคมเปญ Work Lunch Balance ของ ZEN ที่ชวนคนทำงานออกมาทานข้าวกลางวันที่มีคุณภาพ

นอกจาก 3 กลยุทธ์ข้างต้นแล้ว เซ็น กรุ๊ป ยังเดินหน้าทำ R&D พัฒนาแบรนด์ การวางแผนแบบ End to End และการจัดการบริหารสาขาที่ใช้เงินน้อยลง ไปจนถึงการวางแผนด้านเทคโนโลยี เช่น การนำ Robot ใหม่ๆ เข้ามาใช้ในร้าน การรับออเดอร์ผ่าน QR การพัฒนา Cashless Payment ทำ CRM อย่างระบบ Zen Group Member รวมไปถึงการเดินหน้าธุรกิจสู่ Omnichannel มากขึ้น เจาะตลาด Delivery ในรูปแบบ Big Order และ ขยายธุรกิจเข้าสู่ B2B มากขึ้น

• Facebook
• X
• Line