สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ต่อยอด “สารสกัดกระชายดำ” สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมจับมือ SNPS หรือบริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ลงนามอนุญาตให้สิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย ร่วมขับเคลื่อนงานวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมกลุ่ม Active ingredients ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง-เสริมอาหาร รับความต้องการตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามของโลก หนุนโมเดลเกษตรกรรมแบบยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยกลไก S&T for Sustainable Thailand ของ สวทช.
ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) กล่าวว่า ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่สังคมอายุยืน (Longevity Society) อย่างเต็มรูปแบบ อัตราการเกิดใหม่ลดลงประชากรมีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากการคาดการณ์ในปี 2040 คนไทยอายุ 70+ จะเพิ่มขึ้นเป็น 11.6 ล้านคน จาก 5.4 ล้านคนในปี 2563 และคาดว่าในปี 2593 ค่าเฉลี่ยการมีชีวิตอยู่ของคนไทยจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 90 ปี ซึ่งการที่มนุษย์เรามีอายุยืนยาวขึ้นเป็นผลมาจากความเจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการแพทย์ อาหาร และสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่าในอดีต ทั้งนี้ แม้คนไทยจะอายุยืนขึ้น แต่การที่ไทยเป็นสังคมสูงวัยด้วย ทำให้วัยแรงงานมีจำนวนลดลง มีผลิตภาพแรงงานต่ำลง ในขณะเดียวกันสังคมอายุยืนก็นำมาซึ่งโอกาส และความท้าทายใหม่ๆ มากมายทั้งภาคธุรกิจ สังคม และบริการ อาทิ การแพทย์/สุขภาพ, อาหาร/เครื่องดื่ม, ที่พักอาศัย และท่องเที่ยว/ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น
“สวทช. เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของรัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์สำคัญ นำสู่การพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด รับกับวิสัยทัศน์ “เตรียมทัพกำลังคน สร้างอุตสาหกรรมอนาคต” IGNITE THAILAND : Future Workforce for Future Industry ที่กระทรวง อว. โดยนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. มีนโยบายที่สอดรับวิสัยทัศน์ดังกล่าว โดยมุ่งเน้นงานที่ตอบโจทย์สำคัญของประเทศ เช่น นโยบาย อว. For เซมิคอนดักเตอร์ อว. For EV อว. For AI เป็นต้น โดยมีแผนพัฒนาคนทักษะสูงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมกันนี้ สวทช. เองมีการผลักดันแผนงาน S&T for Sustainable Thailand โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีกลุ่มเป้าหมายของ สวทช. ไปประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางทั้งในภาคอุตสาหกรรม สังคม ชุมชน รวมถึง Age Tech เช่นกัน” ดร.อุรชา กล่าว
Age Tech เป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ตลาด Age Tech มีแนวโน้มจะเติบโตรวดเร็วในระยะสั้นถึงกลางทำให้ได้รับการสนใจจากนักลงทุนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการชะลอวัย (Anti-Aging) และการฟื้นฟู (Rejuvenation) กำลังได้รับความสนใจไปทั่วโลกสอดรับกับสังคมโลกที่เข้าสู่ยุคผู้สูงวัย ซึ่งในปัจจุบัน เทคโนโลยีดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่สามารถทำให้มีรูปร่าง ผิวพรรณภายนอกที่ดูดีขึ้น แต่ยังสามารถส่งเสริมสุขภาพ และอาจเพิ่มช่วงเวลาที่มีสุขภาพดี (Healthspan) และช่วงอายุขัย (Lifespan) ได้อีกด้วย ปัจจุบัน เทคโนโลยีดังกล่าว ได้ถูกนำมาใช้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, หัตถการเพื่อความงาม, รวมถึงผลิตภัณฑ์เวชสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำสารสกัดสมุนไพรไทยมาใช้เป็นสารสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
สวทช. มีการส่งเสริม สนับสนุนการใช้ วทน. มาประยุกต์ใช้ในการวิจัยพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของสารสกัดสมุนไพรไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้มีการผลักดันแผนงาน S&T for Sustainable Thailand ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและคลอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการผลิตสารสกัดเพิ่มมูลค่าเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน เช่น การต่อยอดสารสกัดกระชายดำนี้, นวัตกรรมชุดตรวจคัดกรอง ติดตามโรคไตเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน รวมไปถึง Digital Healthcare Platform, แพลตฟอร์มสนับสนุนการเข้าถึงสารสนเทศและการสื่อสารของคนพิการและผู้สูงอายุ นอกจากนี้ สวทช. โดย นาโนเทคเองก็มีกลไกการขับเคลื่อนเพื่อการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและโครงสร้างพื้นฐาน (R&D & infrastructure utilization) ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ภายใต้บทบาท solution partner อีกด้วย
ดร.อุดม อัศวาภิรมย์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยการห่อหุ้มระดับนาโน นาโนเทค สวทช. กล่าวว่า นวัตกรรมการผลิตสารสกัดเพิ่มมูลค่าเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน เป็น 1 ใน BCG Implementation ของ สวทช. เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน เพิ่มมูลค่าสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรโดยมีสมุนไพรนำร่อง 3 ชนิดได้แก่ กระชายดำ บัวบก และกะเพรา ตอบโจทย์เกษตรกรผู้ปลูก เอกชนผู้ผลิต-จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร และผลักดันให้เกิด “Hub of Thai Herbal Extract” ในการส่งเสริมพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและคว้าโอกาสตลาดสมุนไพรให้กับประเทศอย่างยั่งยืน
กระชายดำ (Kaempferia parviflora) ถูกนำมาเป็นยาบำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะทำให้แข็งแรง แก้ปวดเมื่อย และอาการเหนื่อยล้า และยังมีฤทธิ์ทางเภสัชกรรมมากมาย เช่น ฤทธิ์ต้านการอักเสบ สมานแผลในกระเพาะอาหาร ขยายหลอดเลือดและต้านจุลินทรีย์ที่ก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร และยังเพิ่มการไหลเวียนในโลหิตได้ด้วย การเติบโตจากแนวโน้มของการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น จึงนำมาสู่แนวคิดในการวิจัยพัฒนาสารสกัดกระชายดำมาตรฐาน (Standardized Extract) รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับสุขภาพ เพื่อการยับยั้งกระบวนการแก่ของเซลล์ (anti-aging) เพื่อการผลักดันเป็น Thailand herbal champion อย่างเป็นรูปธรรม
ดร.อุดม กล่าวว่า นาโนเทค สวทช. ดำเนินการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสารสกัดกระชายดำมา 7-8 ปี โดยพัฒนากระบวนการสกัดกระชายดำเพื่อให้ได้สารสกัดกระชายดำ ในรูปสารสำคัญที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ พร้อมวิจัยร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในการศึกษาความปลอดภัยและความเป็นพิษเฉียบพลันและกึ่งเรื้อรังของสารสกัดกระชายดำในสัตว์ทดลอง รวมถึงศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดกระชายดำในแง่ของการชะลอวัยในเซลล์เพาะเลี้ยงและสัตว์ทดลอง ซึ่งเป็นองค์ความรู้ในการนำสารสกัดกระชายดำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและยาเพื่อสุขภาพและชะลอวัยอีกด้วย และทดสอบขยายขนาดการผลิตสารสกัดกระชายดำมาตรฐานในระดับอุตสาหกรรมอีกด้วย โครงการดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติและบริษัทสเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ในการผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพด้านชะลอวัยจากสารสกัดกระชายดำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขอรับอนุญาตใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาด้านกระบวนการเตรียมสารสกัดมาตรฐานกระชายดำจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีอีกด้วย
รองศาสตราจารย์ ภญ.ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้วิจัย และส่งมอบสารออกฤทธิ์มาตรฐานจากธรรมชาติและสมุนไพรไทย (API:Active Phyto-Innovention) กว่า 24 ปีสำหรับอุตสาหกรรมเวชสำอาง อาหารเพื่อสุขภาพ, เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ยา รวมถึงส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพผิวพรรณ และเป็นผู้นำในการสกัดสารสกัดมาตรฐานสมุนไพรไทยที่มีการควบคุมคุณภาพมาตรฐานการผลิต ทำให้สามารถกำหนดปริมาณสารสำคัญหรือสารออกฤทธิ์ให้มีความเสถียร ทำให้วัตถุดิบจาก SNPS มีคุณภาพระดับสากล สามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมหลากหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่มสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร และ น้ำมันสกัดและน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรด้วยเครื่องมืออันทันสมัย และการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวด สร้างมาจากพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบันอยู่เสมอ
“ครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จจากการร่วมมือของเรากับศูนย์นาโนเทค สวทช. ในการพัฒนา “B GOLDTM” สารสกัดกระชายดำบริสุทธิ์ที่มีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงสุดในรูปแบบอนุภาคขนาดนาโน กระบวนการสกัดแบบพิเศษโดยใช้เทคโนโลยีนาโน เพื่อช่วยคงคุณค่าของสารออกฤทธิ์สำคัญกลุ่มฟลาโวนอยด์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยเทคโนโลยีนาโนขั้นสูงทำให้ B GOLDTM มีความเสถียรสูง ทำให้สามารถเก็บรักษาได้นาน และยังผ่านการทดสอบทางคลินิกทางด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากศูนย์นาโนเทค ทำให้สามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยและคุณภาพ รวมถึงยังมีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และยกระดับมูลค่าของกระชายดำไทย พร้อมทั้งส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของประเทศอีกด้วย” รองศาสตราจารย์ ภญ.ดร.พรรณวิภา เผย
ด้าน ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า B GOLDTM นับเป็นการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบทางการเกษตรมูลค่าสูง ที่ส่งผลถึงการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย และในปัจจุบัน SNPS อยู่ระหว่างลงนามสัญญาทางการค้ากับบริษัทชั้นนำระดับโลกในหลากหลายประเทศเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากสารสกัดกระชายของไทยสู่ผู้ผลิตเครื่องสำอางและเวชสำอาง อาทิ ประเทศฝรั่งเศส, เกาหลี, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, อินเดีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมัน และนิวซีแลนด์
“การขยายตลาด B GOLDTM ไปในต่างประเทศ ทำให้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย และยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากกระชายดำ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรไทย โดยนักวิจัยไทย ถือว่า สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ BCG ของประเทศ ที่เน้นถึงการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติคุณภาพสูง” ดร.ธีรญา ย้ำ
–NIA เผยเส้นทางการสร้างนวัตกรรมไทยก้าวสู่ปีที่ 16 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ชาตินวัตกรรม
โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…
บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…
LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…
พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…
ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…