ธนาคารซิตี้แบงก์ เผยมุมมองการเติบโต “เศรษฐกิจไทยปี 66” หลังนำนักลงทุนร่วมประชุมออนไลน์กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ทั้งหมดมองเห็นแนวโน้มเชิงบวกของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการจ้างงาน แม้ว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นยังคงส่งผลกระทบ พร้อมคาดว่าอัตราเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว และน่าจะกลับสู่เป้าหมายราวกลางปี 2566
ในขณะที่การชะลอตัวของภาคเศรษฐกิจทั่วโลกดูเหมือนจะเป็นความเสี่ยงอันดับหนึ่งสำหรับการเติบโตของ เศรษฐกิจไทยปี 66 แต่มองว่าสภาพคล่องภายในประเทศจะเพียงพอเพื่อรองรับทั้งการจัดหาเงินทุนของรัฐบาลและภาคเอกชน นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตมีแนวโน้มที่จะดำเนินการอยู่ภายใต้งบประมาณ ตลอดจนมองว่าการปรับนโยบายการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไปของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะดำเนินต่อไปในปีหน้าเช่นกัน
นลิน ฉัตรโชติธรรม นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ธนาคารซิตี้แบงก์ได้นำนักลงทุนเข้าร่วมประชุมออนไลน์กับ ธปท. สศค. และ สบน. เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับมุมมองต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย พบว่าภาพรวมทุกฝ่ายมีความเห็นสอดคล้องไปทิศทางเดียวกันของเศรษฐกิจไทยในระยะกลาง โดยคาดการณ์ว่าในปี 2566 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งซิตี้มองว่า GDP ของไทยจะอยู่ที่ราว 4.3% เทียบกับการคาดการณ์ของ ธปท. และ สศค. ที่คาดว่าจะอยู่ 3.8% เป็นไปตามการเติบโตของ GDP ในปี 2565 ที่อยู่ราว 3.2% โดยที่ ธปท. ยังคงมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีซิตี้ยังคงคาดการณ์ว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุม กนง. ครั้งถัดๆไป พร้อมมีมุมมองว่าวัฎจักรนี้จะกินระยะเวลาพอสมควรจนกว่าดอกเบี้ยนโยบายจะไปแตะที่ 2.25% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 สืบเนื่องมาจากการที่ ธปท.มีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถทยอยปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่ภาวะปกติต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในเกณฑ์
–“ไตรทิพย์”ย้ำชัด! การพัฒนา TOD กับการหาแหล่งเงินทุน รัฐต้องนำหน้า เอกชนตามหลัง
นลิน กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ ธปท. ได้คาดการณ์ GDP ปี 2566 ล่าสุดอยู่ที่ 3.8% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด แต่น้อยกว่าการคาดการณ์ของซิตี้ที่ 4.3% โดยส่วนหนึ่งมาจากการประมาณการด้านการท่องเที่ยวที่อาจจะแตกต่างกัน โดยช่วงปลายเดือนกันยายน ธปท. คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2565 น่าจะอยู่ราว 21 ล้านคน แต่ซิตี้คาดการณ์ไว้ที่ 23 ล้านคน อย่างไรก็ดี ธปท. ได้ตั้งข้อสังเกตว่า อัตราการค้นหา หาข้อมูลที่พักอาศัยล่วงหน้า 3 เดือน และจำนวนเที่ยวบินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นข้อบ่งชี้ในเชิงบวกสำหรับภาคการท่องเที่ยวของไทย นอกจากนี้ซิตี้มองว่าสถานการณ์การทยอยลดความเข้มงวดของมาตรการ Zero-Covid ในจีน อาจทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ในปีหน้าได้เช่นกัน อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยที่เป็นข้อกังวลของการคาดการณ์การเติบโตในปี 2566 เช่น การปรับลดการใช้จ่ายภาคการคลังหลังโควิด และการเติบโตที่ช้าลงของภาคการส่งออก
พร้อมกันนี้ ธปท. ยังคงมองว่าเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงยังไม่ได้หยั่งรากฝังลึกในระบบเศรษฐกิจไทย โดยย้ำว่าสภาวะของเงินเฟ้อในประเทศไทยนั้นแตกต่างไปจากเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว โดยยังคงมาจากการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เป็นหลัก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปน่าจะผ่านระดับสูงสุดไปแล้วในไตรมาสที่ 3 และคาดว่าจะกลับสู่เป้าหมายในช่วงกลางปี 2566 อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจจะยังทรงตัวอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในปี 2565 และ 2566 จากการทยอยส่งผ่านต้นทุนของผู้ผลิต ทั้งนี้หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกปรับลงมากกว่าที่คาด อาจมีความเสี่ยงขาลงในการคาดการณ์เงินเฟ้อครั้งนี้
ในขณะที่ สศค. มีความคิดเห็นสอดคล้องไปกับมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งกระทบกับภาคอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกับการคลังและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้สศค.คาดว่าการเติบโตของ GDP ในปี 2565 จะอยู่ที่ 3.4% และในปี 2566 อยู่ที่ 3.8% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมองว่าอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายระดับสูงในช่วงปีหน้าอีกด้วย
ด้าน สบน. มองว่าคาดว่าเงินทุนที่ต้องระดมต่อปีในช่วงระยะปานกลาง จะยังคงสูงต่อเนื่อง อยู่ที่ราว 2.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นเกือบสองเท่าของปี 2562 (ก่อนโควิด) เนื่องด้วยต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ในขณะที่การระดมเงินทุนสำหรับปี 2566 อยู่ที่ราว 2.216 ล้านล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าในปี 2564 เพราะความต้องการของเงินชดเชยช่วงโควิดลดลงตั้งแต่ 2565 ทำให้ในภาพรวมแม้ว่าจะมีความท้าทายของสภาพการเงินทั่วโลกที่มีการตึงตัว แต่สภาพคล่องของการเงินในประเทศยังคงอยู่ในระดับดี สามารถรองรับแผนการกู้ของสบน.ได้ ซึ่งในปี 2566 ยังคงมีการหาแหล่งทุนที่หลากหลายเพื่อบริหารต้นทุน รวมถึงรักษาระดับความเสี่ยงของหนี้สาธารณะและคงระดับหนี้ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศในระดับต่ำต่อไป
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เนรมิตงานวิ่งฟันรัน "เขาเขียว10 ซีซั่น 8 พรีเซนเต็ด บาย ยำยำ ช้างน้อย" ดึงดูดนักวิ่งตัวจิ๋วและครอบครัวกว่า 3,000 ชีวิต สัมผัสประสบการณ์วิ่งสุดมันส์ ท่ามกลางธรรมชาติและสัตว์ป่า พร้อมกระทบไหล่…
แอสคอทท์ ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จวงการโรงแรมไทยและลาว ด้วยการคว้าใบรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก (GSTC) ซึ่งการรับรองนี้ครอบคลุมที่พักในเครือแอสคอทท์มากถึง 20 แห่ง ทั้งโรงแรม เซอร์วิสเรสซิเดนซ์ และโค-ลิฟวิ่ง ภายใต้แบรนด์ดังอย่าง Ascott, Citadines, lyf,…
เลย์ ฉลองครบรอบ 30 ปีในประเทศไทย กับแคมเปญ "เลย์ 30 ปี จอยได้ทุกเจนเลย์" จัดเต็มกิจกรรมแจกของรางวัลสุดพิเศษทั่วประเทศ พร้อมจับมือ BT21 สร้างสรรค์คอลเลกชันสุดน่ารัก มอบเป็นของขวัญแก่แฟนๆ ชาวไทย…
ทรู คอร์ปอเรชั่น ออกโรงกระตุ้น กสทช. เร่งเครื่องประมูลคลื่นความถี่ 5G ตามแผน IMT Spectrum Roadmap เดิม หวังผลักดันประเทศไทยขึ้นแท่นผู้นำด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ชี้ชะตาอนาคตชาติ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจครั้งนี้ ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะครั้งที่…
ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินโลก กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB FM) ออกมาให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับทิศทางค่าเงินบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 2 เมษายนที่สหรัฐอเมริกาเตรียมประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทของไทย SCB FM มองบาทระยะสั้นอ่อนค่า…
สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ผนึกกำลังพันธมิตรยักษ์ใหญ่ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) และบริษัท ดี ซูพรีม จำกัด ประกาศสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 อย่างเป็นทางการ! ด้วยการติดตั้งหอฟอกอากาศอัจฉริยะ FAHSAI…
This website uses cookies.