กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เตรียมจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ “Bangkok Gems and Jewelry Fair” หรือ “บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 71 อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 22-26 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยคาดการณ์ว่าจะมีเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้านบาท
งาน “บางกอกเจมส์” ครั้งนี้ นับเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเก่าแก่ที่สุดในเอเชีย โดยได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 4 ของงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญที่สุดของโลก ภายในงานจัดแสดงสินค้าจากบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศรวมกว่า 1,100 บริษัท กว่า 2,600 คูหา ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของฮอลล์ 1-8 ทั้งชั้น G และ LG ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
อุตสาหกรรมอัญมณีไทยยังคงแข็งแกร่ง เดินหน้าผลักดันการส่งออก
สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยว่า อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่ประเทศไทยยังคงรักษาความแข็งแกร่งในฐานะผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินอันดับ 2 ของโลก และพลอยสีอันดับ 3 ของโลก โดยในปี 2567 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) สูงถึง 9,609.10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโตร้อยละ 10.99 ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกพลอยสีของไทยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทผู้ทำเหมืองรายใหญ่ของโลกอย่าง Fura Gems และ Gemfields ได้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดประมูลพลอย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก” สุนันทา กล่าว
บางกอกเจมส์ ครั้งที่ 71 ชูจุดแข็ง “ศูนย์กลางพลอยสีโลก”
สุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT กล่าวเสริมว่า งานบางกอกเจมส์เป็นที่รู้จักในระดับโลกในฐานะแหล่งรวมอัญมณีและเครื่องประดับคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พลอยสี” ซึ่งมีจำนวนคูหาจัดแสดงสินค้ามากถึง 1,300 คูหา คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ทั้งหมด ตอกย้ำจุดยืนของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าพลอยสีที่สำคัญของโลก
กิจกรรมไฮไลท์ สร้างสีสันให้งาน “บางกอกเจมส์”
เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายให้แก่ผู้เข้าชมงาน “บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 71 ยังจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ
- Networking Reception: เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบปะ เจรจาธุรกิจ และสร้างเครือข่าย
- นิทรรศการ The New Faces: จัดแสดงผลงานจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไฟแรง อาทิ นักออกแบบรุ่นใหม่จากโครงการของ DITP, โครงการ Smart Jeweller by GIT, และผู้ประกอบการจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดตาก
- สัมมนาเชิงวิชาการ: ให้ความรู้และอัพเดทเทรนด์ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
- Export Clinic: ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการส่งออกแก่ผู้ประกอบการ
โดยในครั้งนี้ คณะผู้จัดงาน ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จมาเป็นองค์ประธานเปิดงาน
สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงาน “บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 71 นี้ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จฯ มาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างสูงสุดของงาน
เผยโฉมเครื่องประดับทรงออกแบบ “AMOUR ÉTERNEL HAUTE JOAILLERIE”
นอกจากนี้ DITP และ GIT ยังได้รับพระราชทานพระอนุญาตจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ให้นำผลงานทรงออกแบบเครื่องประดับ ภายใต้คอลเล็คชั่น “AMOUR ÉTERNEL HAUTE JOAILLERIE” มาจัดแสดงในนิทรรศการพิเศษ ซึ่งเป็นเครื่องประดับที่รังสรรค์ขึ้นด้วยฝีมือช่างชั้นสูงของไทย สะท้อนถึงพระปณิธานในการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยสู่สากล
บางกอกเจมส์ มุ่งสู่การเป็น “Global Gems Hub”
การจัดงาน “บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 71 นี้ มุ่งหวังที่จะตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก หรือ “Global Gems Hub” โดย DITP และ GIT มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับงาน “บางกอกเจมส์” ให้เป็นเวทีสำคัญระดับโลก เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 71 ได้ที่ www.bkkgems.com หรือ facebook.com/Bangkokgemsofficial
–ขนส่ง จับมือผู้ว่านครนายก ตรวจเข้มรถทุกคันที่ถูกพ่นห้ามใช้ ต้องนำรถไปแก้ไขและนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ