นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยทิศทางพัฒนาการของตลาดค้าปลีกอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia: SEA) ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นโอกาสขยายบริการโลจิสติกส์ให้เติบโตรองรับความต้องการบริโภคที่หลากหลายมากขึ้น
จากรายงานการศึกษาของบริษัท McKinsey ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างปี 2560 – 2564 มียอดขายเติบโตสูงกว่าร้อยละ 40 ต่อปี โดยเฉพาะการค้าปลีก ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 20 และคาดว่าในปี 2569 ตลาดอีคอมเมิร์ซ SEA จะมีมูลค่าราว 2.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตกว่าร้อยละ 22 เทียบกับปี 2564 จุดเปลี่ยนที่ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซใน SEA เติบโต อย่างก้าวกระโดด เกิดจากการที่ประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้อย่างแพร่หลาย ตลอดจนการเข้าตลาดของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น ลาซาด้า (Lazada) ช้อปปี้ (Shopee) โทโกพีเดีย (Tokopedia) ทิกิ (Tiki) และเซนโด (Sendo) ในประเทศต่าง ๆ โดยมีอัตราการเข้าถึงอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce Penetration Rate) ในประเทศอินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เฉลี่ยที่ร้อยละ 30 รองลงมา คือ ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม เฉลี่ยที่ร้อยละ 15 ซึ่งอินโดนีเซียเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักด้วยตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ทั้งนี้ อินโดนีเซีย และเวียดนาม แม้จะเป็นตลาดใหญ่ แต่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดเฉพาะในปี 2560 และ 2562 ขณะที่ไทยถือเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันตลาดอีคอมเมิร์ซใน SEA ได้พัฒนาขึ้นอีกระดับ ผู้บริโภคมีความคุ้ยเคยกับการซื้อสินค้าออนไลน์ แนวโน้มของพฤติกรรมการซื้อสินค้าจึงซับซ้อนมากขึ้น เช่น 1) สินค้าที่ซื้อมีราคาต่อหน่วยสูงขึ้น แสดงถึงความเชื่อมั่นในการซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ 2) ราคาไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อ ผู้บริโภคยินดีจ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้น 3) ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซมีความหลากหลายขึ้น (จากเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม) และ 4) สามารถสั่งซื้อจากหลายช่องทาง เช่น แพลตฟอร์มตลาดกลาง เว็บไซต์ และโซเชียลคอมเมิร์ซ ฯลฯ ดังนั้น ห่วงโซ่อุปทานของอีคอมเมิร์ซได้เปลี่ยนไปจากเดิมที่ส่วนใหญ่เคยพึ่งพาสินค้านำเข้าจากจีน กลายมาเป็นการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานและการกระจายสินค้าในประเทศและภายในภูมิภาค SEA มากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ที่จะเตรียมพร้อมรองรับความหลากหลายที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่คุณค่าโลจิสติกส์ในอนาคต ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือในการให้บริการ ช่องทางการค้า และประเภทผลิตภัณฑ์ โดยสามารถสรุปแนวโน้มของโลจิสติกส์ใน SEA ได้ ดังนี้
1) B2C (Business-to-Consumer) ในประเทศ มีการขนส่งประเภทผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น ผู้ให้บริการโลจิสติกส์จึงต้องพัฒนาความสามารถในการให้ “บริการโลจิสติกส์เฉพาะทาง (Specialized Logistics Services)” อาทิ
2) การค้าข้ามแดนในรูปแบบ B2B2C และบริการแบบครบวงจร (Fulfillment) รูปแบบการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามแดน (Cross Border E-Commerce) จะพัฒนาเป็นรูปแบบ B2B2C (Business-to-Business-to-Consumer) ซึ่งมีความได้เปรียบในความรวดเร็วของการจัดส่ง จากคลังสินค้าในประเทศและผู้ซื้อ ที่ใช้เวลาเพียง 3-5 วัน (ขณะที่ B2C ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-20 วันในการจัดส่งสินค้าทางทะเล) เป็นโอกาสของตัวแทนผู้ให้บริการ โลจิสติกส์ (3rd Party Logistics Service Provider) แบบครบวงจร ตั้งแต่การดำเนินพิธีการทางศุลกากร คลังสินค้า การจัดการคำสั่งซื้อ การจัดส่ง การวิเคราะห์ข้อมูลตลาดเชิงลึก รวมทั้งบริการหลังการขายที่จะมีความต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ผอ.สนค. กล่าวว่า แม้ว่าตลาดโลจิสติกส์ในประเทศไทยจะมีการแข่งขันสูง ทั้งด้านราคาและการให้บริการที่รวดเร็ว แต่ยังมีช่องว่างทางการตลาดจากโอกาสของอีคอมเมิร์ซไทยที่จะเติบโตกว่าเท่าตัวในปี 2569 (ข้อมูล Euromonitor คาดการณ์มูลค่าค้าปลีกอีคอมเมิร์ซของไทยจากมูลค่า 4.24 แสนล้านบาทในปี 2565 เพิ่มเป็น 9.06 แสนล้านบาทในปี 2569) ซึ่งสถิติในปี 2565 ที่ผ่านมา ไทยมีนิติบุคคลเปิดกิจการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต 1,459 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.04 จากปีก่อน และจนถึงปัจจุบันมีการลงทุนสะสมรวม 50,713.41 ล้านบาท (สัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็นไทยร้อยละ 58.6 และต่างชาติร้อยละ 41.4 จากสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน และอื่น ๆ ตามลำดับ)
นอกจากนี้ การที่อีคอมเมิร์ซในภูมิภาค SEA เติบโตขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคซับซ้อนมากขึ้น และไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของภูมิภาค ถือเป็นโอกาสดีต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจบริการโลจิสติกส์ของไทย ในการนี้ ภาคส่วนต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชนจึงต้องเตรียมพร้อมในหลายด้าน อาทิ(1) การเร่งพัฒนาและส่งเสริม การประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์และกิจกรรมโลจิสติกส์ต่างๆ
เตรียมพบกับการเปิดตัวสุดพิเศษ! Valera แบรนด์ชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ดูแลเส้นผมและการ Grooming สำหรับผู้ชาย กำลังจะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการความงามของไทย ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI สุดล้ำ ที่จะปฏิวัติวิธีการดูแลเส้นผมให้สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมสัมผัสประสบการณ์การจัดแต่งทรงผมที่ทั้งเหนือชั้นและทันสมัยในทุกการใช้งาน ภายในเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมาย ทั้งนวัตกรรมการดูแลเส้นผมระดับโลก ช่างผมมืออาชีพชั้นนำที่จะมาแบ่งปันเทคนิคการใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษที่ไม่ควรพลาด!…
AIS ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่มุ่งสร้างการเติบโตร่วมกันของผู้คน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในโลกดิจิทัล พร้อมผนึกกำลังร่วมกับสถาบันทางการเงินชั้นนำลงนามรับการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Loan) ครั้งแรกในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี จาก…
ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ (Hewlett Packard Enterprise) ประกาศเดินหน้าขยายบริการ HPE Aruba Networking Central ซึ่งเป็นโซลูชันการจัดการเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยเน้นความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ มาพร้อมด้วยข้อมูลและคุณสมบัติ…
Google Cloud และ Prudential PLC (“Prudential”) ประกาศว่า Prudential จะนำ MedLM โมเดลพื้นฐานของ Google ที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมสุขภาพ มาใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการตัดสินใจการเคลมประกันสุขภาพ Prudential…
บทีเอ็นกรุ๊ป ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ด้วยการเปิดตัวเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ล่าสุด "Venz ORBIT" จากแบรนด์ Venz ที่ไม่เพียงแค่ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีดีไซน์ล้ำสมัย การันตีด้วยรางวัลระดับโลก iF Design Award 2023 ซึ่งสะท้อนถึงความลงตัวของทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพการทำงาน…
สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ TU-RAC ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดตัวโครงการหลักสูตรอบรมพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนในหลักสูตรการรู้เท่าทันสื่อระดับประถมศึกษา และจัดฝึกอบรมทักษะการรู้เท่าทันสื่อ ที่ครอบคลุมสำหรับครูไทย เพื่อเตรียมความพร้อมครู และบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะด้านการรู้เท่าทันสื่อ และการใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ของผู้เรียน ในระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม…