“ท็อปส์ ท้องถิ่น” เปิดตัว SME สู่พาร์ตเนอร์ธุรกิจ คัดสินค้าสุดเจ๋งกว่า 50 รายการ ประเดิมล็อตแรกจำหน่ายที่ท็อปส์ สร้างรายได้ เติบโตอย่างยั่งยืน

“ท็อปส์ ท้องถิ่น” เปิดตัว SME สู่พาร์ตเนอร์ธุรกิจ คัดสินค้าสุดเจ๋งกว่า 50 รายการ ประเดิมล็อตแรกจำหน่ายที่ท็อปส์ สร้างรายได้ เติบโตอย่างยั่งยืน

ท็อปส์ เปิดตัว SME กลุ่มแรก 22 ราย ที่ผ่านการคัดเลือกจาก ท็อปส์ ท้องถิ่น แพลตฟอร์มที่มอบโอกาส ให้เอสเอ็มอีไทยที่ต้องการเติบโตได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับท็อปส์ หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน คัดสินค้าคุณภาพ ไอเดียสุดเจ๋ง กว่า 50 รายการ วางจำหน่ายที่ท็อปส์เป็นครั้งแรก

สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ด้วยบทบาทเบอร์ 1 ฟู้ด รีเทลเมืองไทย “ท็อปส์” ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าร่วมกัน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ด้วยการสร้างโอกาสให้กับเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 3 ล้านราย และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยได้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

ท็อปส์ จึงร่วมเป็นกำลังสำคัญในการมอบโอกาสการเติบโตให้กับเอสเอ็มอี ด้วยการเปิดแพลตฟอร์ม (Tops Tongtin) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อม และ วิสาหกิจขนาดเล็ก สมัครและนำเสนอสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มได้สะดวก รวดเร็ว พร้อมมีทีมงานร่วมพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพดีที่สุดเพื่อวางจำหน่ายที่ ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท รวมถึงช่องทางออนไลน์ นอกจากเป็นการช่วยเอสเอ็มอีได้เข้าถึงช่องทางจำหน่ายที่มีศักยภาพ ยังทำให้ท็อปส์ได้มีสินค้าใหม่ ๆ ที่ผลิตโดยผู้ประกอบการภายในประเทศให้ลูกค้าได้เลือกซื้อและเข้าถึงสินค้าที่มีความหลากหลาย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกวันตามแนวคิด “Every Day DISCOVERY”

จองอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า ช่วย SME ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน

ด้าน ไบรอัน ฮิลล์ ผู้อำนวยการ ท็อปส์ ท้องถิ่น บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดตัว Tops Tongtin แพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่สมบูรณ์แบบรายแรกของค้าปลีกไทย ด้วยความโดดเด่นที่เป็นแพลตฟอร์มที่แตกต่างและมอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กับเอสเอ็มอี ได้แก่ การยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า ช่วยเซฟต้นทุนหลักแสน, เพิ่มสภาพคล่องโดยเครดิตเทอมเหลือเพียง 15 วัน, ช่วยเหลือ แนะนำด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ การขอใบอนุญาต ใบรับรองต่างๆ, ร่วมวางแผนด้านการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายการประชาสัมพันธ์สินค้า, ให้คำแนะนำด้านแหล่งเงินทุน พร้อมมีทีมงานและทีมจัดซื้อประจำภูมิภาคให้คำปรึกษาผู้ประกอบการตลอดการเดินทาง

หลังจากเปิดรับสมัครเอสเอ็มอีทั่วประเทศมาเป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่าได้ผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดย่อม และ วิสาหกิจขนาดเล็ก สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 230 ราย จากทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความตั้งใจของเอสเอ็มอีไทย ที่มองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ และมีความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และมีความโดดเด่นน่าสนใจ โดยทีมงานได้ลงพื้นที่และทำการคัดเลือกผ่านกระบวนการอย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดมาจำหน่ายให้กับลูกค้าของเรา

โดยมีเอสเอ็มอีกลุ่มแรกจำนวน 22 ราย ที่ผ่านการคัดเลือกและพัฒนาสินค้าที่การันตีได้ว่ามีคุณภาพดี รสชาติอร่อย แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร มาร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ยกระดับสินค้าเอสเอ็มอีไทยภายใต้แนวคิด ‘รวมของดีถิ่นไทย SME ไปไกลระดับท็อป’ (Local Goods from Great SMEs) ซึ่งภายในงานได้เชิญผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ผ่านการคัดเลือกร่วมแชร์ประสบการณ์ ถ่ายทอดเรื่องราวความอร่อย และส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ธุรกิจ เพื่อเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีรุ่นต่อไป ได้แก่

ดร.รสรินทร์ รุจนานนท์ และ นางสาวสันต์อาวี กรรณล้วน จากแบรนด์ Jello Boom เล่าว่า “ขอขอบคุณที่มอบโอกาสดีๆ ที่แตกต่างและหาไม่ได้จากที่อื่น ท็อปส์ ท้องถิ่น มองเห็นถึงจุดอ่อน และเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของเอสเอ็มอี โดยเฉพาะสิทธิต่างๆ ที่ได้รับ เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า เพิ่มสภาพคล่องให้กับเอสเอ็มอีโดยเครดิตเทอมเหลือพียง 15 วัน ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนได้เร็วขึ้น และที่สำคัญเรื่องของการโปรโมตสินค้าที่เป็นจุดอ่อนของผู้ประกอบการ ทีมงานเข้ามาช่วยให้คำแนะนำและช่วยในการโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เราเชื่อมั่นว่าความช่วยเหลือจากทีมงานจะช่วยนำพาให้เราได้ไปเจอกับลูกค้า ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการเติบโตของเราได้ จึงไม่ลังเลที่จะเขียนใบสมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่แรก และอยากฝากถึงผู้ประกอบการทุกคนให้พาตัวเองเข้ามารับโอกาสนี้ไปด้วยกัน”

ประวิทย์ ชัยสิริสัมพันธ์ จากแบรนด์ ไคซิน เล่าว่า “ได้เข้าร่วมโครงการผ่านทางภาครัฐ เนื่องจาก ท็อปส์ ท้องถิ่นได้ให้การสนับสนุนร่วมกับภาครัฐ จนได้มีโอกาสทำ Business Matching กัน จากที่ได้สัมผัสกับทีมงานทุกคน รู้สึกประทับใจต่อความใส่ใจ การติดตามดูแล และสนับสนุนตลอดโครงการ ตั้งแต่เริ่มก้าวเข้ามา ผมขอขอบคุณทีมงานที่ให้ความช่วยเหลือทุกเรื่องอย่างเป็นกันเอง อยากให้เอสเอ็มอีสมัครเข้าร่วมโครงการและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมกันผลักดันสินค้าไทยให้ไปไกลอีกขั้น”

นุชนาฎ ฉางเข้าชัย จากแบรนด์ ป้อเจ้า เล่าว่า “เริ่มขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และมีความใฝ่ฝันที่จะได้เข้ามาขายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งเคยคิดว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับเอสเอ็มอี เนื่องจากปกติแล้วต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าหลักแสน และยังมีข้อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้เป็นอุปสรรค แต่ ท็อปส์ ท้องถิ่น ได้ตอบโจทย์และทำลายทุกกำแพง ให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีอย่างดีที่สุด จึงตั้งใจอย่างมากเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก จนได้มีโอกาสร่วมเป็นพาร์ตเนอร์และได้เห็นสินค้าตัวเองวางขายที่ท็อปส์ ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของไทย”

ท็อปส์ ท้องถิ่น พร้อมเปิดโอกาสสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เปิดรับเอสเอ็มอีทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการบนแพลตฟอร์ม (Tops Tongtin) ได้แล้ววันนี้ ที่ www.topstongtin.com ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเฟซบุ๊ก “Tops Tongtin” และร่วมสนับสนุนสินค้าจากเอสเอ็มอีที่ผ่านการคัดเลือก พร้อมวางจำหน่ายที่ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท และ ช่องทางออนไลน์

Scroll to Top