เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร ผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย โดยจะนำความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และเครือข่ายการจัดส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มาช่วยพัฒนาและส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเกษตรกรไทย โดยได้จัดทำโครงการพิเศษเพื่อมอบส่วนลดค่าจัดส่งสำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรได้อย่างเป็นรูปธรรม
วราวุธ นาถประดิษฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ผ่านมา KEX ได้ดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเจ้าของสวนผลไม้ผ่านการให้ความรู้เกี่ยวกับการขนส่ง เพื่อให้เกษตรกรสามารถส่งผลไม้สดให้กับลูกค้าโดยตรงได้ง่ายขึ้น ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ในท้องถิ่น และเสริมสร้างความเข้มแข็งของ Ecosystem จากสวนผลไม้ถึงมือลูกค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นไปเพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรในท้องถิ่นมีความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจที่ดีและส่งเสริมภาคเกษตรกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
พีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรตอบสนองนโยบายขับเคลื่อนภาคการเกษตร “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อช่วยสร้างรายได้ สร้างโอกาส และสร้างคุณภาพชีวิตแก่เกษตรกร โดยบูรณาการการทำงานอย่างเข้มข้นกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดผลดีต่อเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น เพื่อเป็นการขยายโอกาสด้านการตลาดและโลจิสติกส์ให้กับเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร กับ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จึงได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาและส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตร (MOU) ขึ้น ในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ณ บริเวณการจัดงาน “เกษตรพากิน พาเที่ยว @ลานคนเมือง” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานในการพัฒนาเกษตรกร และการจัดการระบบโลจิสติกส์ภาคการเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ได้แก่ กระบวนการส่งเสริมการผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน การบริหารจัดการสินค้า การบรรจุภัณฑ์ การบริหารสินค้าคงคลัง การตลาด ตลอดจนกระบวนการขนส่งและการส่งมอบสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภค รวมถึงส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านการขนส่ง ระหว่างเกษตรกร กับเคอรี่ เอ็กซ์เพรส โดยทางบริษัทจะสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว ด้วยการมอบส่วนลดอัตราพิเศษ 10% สำหรับการจัดส่งสินค้าทางการเกษตรให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน พร้อมทั้งเน้นการบริการที่รวดเร็ว และการันตีสินค้าปลอดภัยจนถึงมือผู้บริโภค
ความร่วมมือทั้ง 2 หน่วยงานในครั้งนี้ จะทำให้เกษตรกรเข้าถึงบริการขนส่งสินค้าเกษตร ตั้งแต่ต้นทางจากเกษตรกรจนถึงปลายทางสู่มือผู้บริโภค รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร องค์ความรู้ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมระหว่างกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการร่วมมือในการพัฒนาการขนส่งสินค้าเกษตรที่สามารถส่งมอบสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากเกษตรกรถึงมือผู้บริโภค ได้รับประสบการณ์การบริโภคสินค้าเกษตรที่สด ใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน เกษตรกรต่อไป
–OECD มีมติเอกฉันท์รับไทยสู่กระบวนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ