พาณิชย์ – DITP สางปัญหาส่งออกน้ำตาล! จับคู่ธุรกิจไทย-ฟิลิปปินส์ ดันมูลค่าซื้อขายทะลุ 1.1 พันล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้นโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เร่งเครื่องช่วยเหลือผู้ส่งออกสินค้าน้ำตาลและน้ำตาลแปรรูปที่กำลังเผชิญความท้าทายในตลาดต่างประเทศ ล่าสุด ผนึกกำลังกับกรมการค้าต่างประเทศ และสมาคมอุตสาหกรรมน้ำตาลแปรรูปไทย จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจสุดยิ่งใหญ่กับผู้นำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์ ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา สร้างปรากฏการณ์มูลค่าซื้อขายทันทีทะลุ 1,100 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเจาะลึกกฎระเบียบการนำเข้ากับหน่วยงานภาครัฐของฟิลิปปินส์ เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าที่ยั่งยืนแก่ผู้ประกอบการไทย

สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงความสำเร็จของกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับการสำรวจลู่ทางการค้าและขยายโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ กรมฯ ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ในทุกประเทศดำเนินการอย่างเข้มข้น และล่าสุดได้รับรายงานที่น่ายินดีจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงมะนิลา ภายใต้การนำของนางสาวสุธินี วัฒนา ผู้อำนวยการ สคต. ว่า กิจกรรมการจับคู่เจรจาการค้าระหว่างผู้ส่งออกสินค้าน้ำตาลและน้ำตาลแปรรูปของไทยกับผู้นำเข้าจากฟิลิปปินส์ ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง”

กิจกรรมดังกล่าวเป็นการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกสินค้าน้ำตาลและน้ำตาลแปรรูปของไทย จำนวน 5 ราย กับผู้นำเข้าจากฟิลิปปินส์ จำนวน 8 ราย โดยมีการจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งสิ้น 32 คู่ สร้างมูลค่าการซื้อขายรวมสูงถึง 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,127.61 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการส่งออกในปัจจุบันของผู้ประกอบการไทย แต่ยังเป็นการเปิดช่องทางและขยายเครือข่ายธุรกิจในตลาดฟิลิปปินส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ความสำเร็จในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความต้องการสินค้าไทยในตลาดฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าน้ำตาลและน้ำตาลแปรรูป ซึ่งเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล การจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทยจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่ง และขยายฐานลูกค้าในตลาดที่มีศักยภาพแห่งนี้ได้” สุนันทา กล่าวเสริม

นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจแล้ว ในวันที่ 3 เมษายน 2568 สคต. ณ กรุงมะนิลา ยังได้นำคณะผู้ประกอบการไทยเข้าพบ นายพาโบล ลูวิส โซลา อัสโคนา ผู้บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสำนักงานกำกับดูแลน้ำตาล (Sugar Regulatory Administration : SRA) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญของฟิลิปปินส์ที่มีหน้าที่กำกับดูแลอุตสาหกรรมน้ำตาลและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง การเข้าพบครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบและมาตรการการนำเข้าสินค้าน้ำตาลแปรรูป น้ำเชื่อม และน้ำตาลผสมล่วงหน้า รวมถึงการสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทย

การหารือกับ SRA ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ในการนำเข้าสินค้าไปยังฟิลิปปินส์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถวางแผนการส่งออกและดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานภาครัฐของฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกทางการค้าในระยะยาว

สำหรับภาพรวมการส่งออกสินค้าน้ำตาลอื่นๆ (นอกเหนือจากน้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีต) ของไทยไปยังตลาดฟิลิปปินส์ในปี 2567 มีมูลค่าสูงถึง 14.23 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 486.24 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 48.99 เมื่อเทียบกับปี 2566 ตัวเลขนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของตลาดฟิลิปปินส์และความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในกลุ่มนี้

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยจะทำการสำรวจและวิเคราะห์โอกาสทางการค้าในตลาดต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายตลาดส่งออกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีการค้าระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าในตลาดฟิลิปปินส์ หรือต้องการรับการสนับสนุนด้านการส่งออกจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

–เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่ม 500 ล้านบาท จัดสงกรานต์ไทยมหาบันเทิง ทั่วประเทศ ดึง “วิกตอเรีย เคียร์ เธลวิก” นางสงกรานต์จักรวาล นำทัพศิลปินดัง 300 ชีวิต หวังกระตุ้นท่องเที่ยว-เศรษฐกิจไทย

• Facebook
• X
• Line