Economy

ETDA เผยมูลค่าอีคอมเมิร์ซไทย ปี 66 พุ่งแตะ 5.96 ล้านล้านบาท อุตสาหกรรมประกันภัย โตมากสุด ร้อยละ 31

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เปิดผลสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2566 หรือ Value of e-Commerce Survey in Thailand 2023 พบว่าเมื่อมองกลับไปที่ปี 2565 พบว่ามูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรืออีคอมเมิร์ซในประเทศไทย มีมูลค่าถึง 5.43 ล้านล้านบาท โดยกลุ่ม B2C ครองแชมป์กินสัดส่วนมูลค่าอีคอมเมิร์ซมากกว่าครึ่งถึง ร้อยละ 51.7 อุตสาหกรรมประกันภัยมาแรง โตมากสุดกว่า ร้อยละ 31 ส่วนช่องทางการขายยอดฮิตหนีไม่พ้น e-Marketplaces และ Social Commerce ส่งผลให้ปี 2566 มูลค่าอีคอมเมิร์ซไทย คาดพุ่งถึง 5.96 ล้านล้านบาท

ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA (เอ็ตด้า) เปิดเผยว่า รายงานผลการสำรวจฯ หรือ Value of e-Commerce Survey in Thailand จัดทำขึ้น เพื่อให้ประเทศมีข้อมูลสะท้อนสถานภาพและทิศทางการพัฒนาอีคอมเมิร์ซของประเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ที่นำไปเป็นฐานข้อมูลประกอบการวางแผนธุรกิจ กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงเพื่อให้ภาครัฐ นำไปเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาทิศทางการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการได้สอดคล้องกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การสำรวจมูลค่าอีคอมเมิร์ซจากกลุ่มตัวอย่างของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซทั่วประเทศ ได้สำรวจจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต, อุตสาหกรรมการค้าปลีกและการค้าส่ง, อุตสาหกรรมการขนส่ง, อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก, อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร, อุตสาหกรรมการประกันภัย, อุตสาหกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และอุตสาหกรรมการบริการด้านอื่น ๆ รวมกว่า 3,440 ราย ตั้งแต่เดือนตุลาคม–ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่า จากข้อมูลในปี 2565 ประเทศไทยมีมูลค่าอีคอมเมิร์ซ อยู่ที่ 5.43 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ปี 2564 ที่มีมูลค่า 5.17 ล้านล้านบาท ถึงร้อยละ 5.05 ประกอบด้วยสัดส่วนมูลค่าอีคอมเมิร์ซแบบ B2C มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 51.7 รองลงมาคือ B2B ร้อยละ 37.8 และ B2G ร้อยละ 10.5 ตามลำดับ

เมื่อพิจารณามูลค่าอีคอมเมิร์ซรวมจำแนกรายอุตสาหกรรม พบว่า อุตสาหกรรมการค้าปลีกและค้าส่ง ยังคงครองแชมป์มีมูลรวมมากที่สุด อยู่ที่ 2.83 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย อุตสาหกรรมการค้าปลีก 1.53 ล้านล้านบาท และ อุตสาหกรรมการค้าส่ง 1.30 ล้านล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมการผลิต 6.99 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมการขนส่ง 5.52 แสนล้านบาท อุตสาหกรรมการให้บริการที่พักและอาหาร 4.28 แสนล้านบาท และ อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร 2.99 แสนล้านบาท โดยช่องทางการขายออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหนีไม่พ้น e-Marketplaces อยู่ร้อยละ 24.58 (อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการขายผ่านช่องทางดังกล่าวมากที่สุด ได้แก่ การค้าปลีกและค้าส่ง รองลงมาคือ อุตสาหกรรมผลิต และบริการที่พักและอาหาร ตามลำดับ) รองลงมาคือ การขายผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของกิจการเอง ร้อยละ 23.60 และ Social Commerce (มากสุดคือ Facebook รองลงมาคือ TikTok และ Instagram) ร้อยละ 22.25

ประเภทของช่องทางการชำระเงินที่ถูกเลือกใช้งานมากที่สุด คือ Mobile/Internet Banking สัดส่วนร้อยละ 68.12 ของช่องทางทั้งหมด รองลงมาคือ เก็บเงินปลายทาง ร้อยละ 7.92 เพราะตอบโจทย์ผู้บริโภครายได้น้อยและต้องการตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงิน และสั่งจ่ายผ่านเช็ค ร้อยละ 6.93 โดยนิยมมากในกลุ่มธุรกิจด้วยกัน ขณะที่ ช่องทางการขนส่งสินค้า พบว่า SMEs นิยมใช้มากสุดคือ ธุรกิจขนส่งสินค้าในประเทศร้อยละ 41 เนื่องจากความเร็วในการจัดส่งสินค้าและต้นทุนต่ำจึงเลือกใช้ช่องทางนี้มากที่สุด รองลงมา ไปรษณีย์ไทย ร้อยละ 32 เนื่องจากให้บริการครอบคลุมพื้นที่ขนส่งครอบคลุมทั่วประเทศไทยและมีความปลอดภัยสูง ในขณะที่ธุรกิจระดับ Enterprises นิยมเลือกใช้ บริษัทจัดส่งสินค้าด้วยตนเองร้อยละ 63 เนื่องจากต้องการควบคุมเวลาและคุณภาพของสินค้าในการส่ง รองลงมาคือ บริษัทจัดส่งสินค้าในประเทศร้อยละ 38 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า มูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยจะพุ่งสูงต่อเนื่อง โดยปี 2566 จะแตะถึง 5.96 ล้านล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่จะมาแรง และมีมูลค่าอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่น่าจับตา คือ อุตสาหกรรมการประกันภัย ที่จะมีมูลค่าเพิ่มสูงถึงร้อยละ 31 รองลงมา อุตสาหกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ ร้อยละ 24 และอุตสาหกรรมการค้าปลีกและค้าส่ง ร้อยละ 13 ตามลำดับ

ปัจจัยภายในที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มองว่าส่งผลต่อมูลค่าอีคอมเมิร์ซมากที่สุด ได้แก่ การสร้าง Customer Experience ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น การเพิ่มช่องทางการให้บริการ การจำหน่าย การชำระเงิน แม้กระทั่งการเลือกขายสินค้าและบริการที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อมูลค่า อีคอมเมิร์ซมากที่สุด ได้แก่ ภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อความสามารถในการซื้อสินค้าออนไลน์ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกและคล่องตัว ในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึง ความพร้อมของใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อ ระหว่าง ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ผ่านช่องทางออนไลน์

ทั้งนี้การประยุกต์ใช้ Technology ที่น่าสนใจได้แก่ Affiliate Marketing หรือ การตลาดออนไลน์ที่มีตัวแทนในการช่วยขายสินค้าหรือบริการ และจ่ายค่าตอบแทนในรูปแบบ Commission เป็นสาเหตุหลักที่ช่วยผู้ประกอบการในการเพิ่มยอดขายมากถึงร้อยละ 50 โดยมีผู้ประกอบการที่ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 18 เท่านั้นที่กำลังใช้ Affiliate Marketing ขณะที่ ร้อยละ 36 สนใจที่จะทำ Affiliate Marketing นอกจากนี้ ยังพบว่า มีผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในธุรกิจ ร้อยละ 29 ส่วนอีกร้อยละ 71 ยังไม่ใช้ เนื่องจาก ขาดแคลนทรัพยากรที่มีความรู้ความสามารถในการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ มีความไม่มั่นใจว่าจะนำปัญญาประดิษฐ์ไปปรับใช้กับส่วนใดของธุรกิจ และความซับซ้อนความเข้าใจของเทคโนโลยี

สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดผลการศึกษา Value of e-Commerce Survey in Thailand 2023 ได้ที่เพจ ETDA Thailand https://www.facebook.com/ETDA.Thailand

“สหกรุ๊ป แฟร์ แอนด์ เฟส” รุกขยายสินค้าจัดแสดง ดึงแบรนด์รถ EV และบริษัทเทคจีนเข้าร่วม สร้างความหลากหลายให้งานมากขึ้น

supersab

Recent Posts

Canon เปิดราคา V-Series ในรุ่น EOS R50 V และ PowerShot V1

แคนนอน (Canon) เปิดตัวกล้องซีรีส์ V ใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ได้แก่ EOS R50 V และ PowerShot V1 ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่กำลังมองหากล้องขนาดกะทัดรัด…

12 hours ago

Thailand Aims for Global Healthcare Hub Status: Roche & Medical Technology Council Unite to Elevate Lab Standards

Thailand is taking a significant step towards becoming a leading medical and wellness hub in…

12 hours ago

แล็บไทยพลิกโฉม! โรชผนึกสภาเทคนิคฯ ยกระดับมาตรฐาน สู่ศูนย์กลางการแพทย์โลก

ทะยานสู่ Medical Hub! โรช ไดแอกโนสติกส์ จับมือสภาเทคนิคการแพทย์ เสริมแกร่งห้องแล็บไทย ตั้งเป้า 150 แห่งเข้าร่วมโครงการ Lab Benchmarking 2025 พร้อมดันมาตรฐานสากล เพิ่มห้องแล็บรับรอง…

12 hours ago

ดีอี-ไปรษณีย์ไทย ผนึกกำลัง! ส่งด่วน EMS ผลไม้ทั่วไทย เริ่มต้น 60 บาท หนุนเกษตรกร กระจายผลผลิต 6.7 ล้านตัน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย เปิดตัวบริการ "EMS ส่งด่วนผลไม้" ในอัตราค่าบริการสุดพิเศษ เริ่มต้นเพียง 3 กิโลกรัม 60 บาททั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยในการกระจายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะผลไม้สดใหม่…

12 hours ago

“Market Place เทพรักษ์” เปิดแล้ว ดึงแบรนด์ดังกว่า 360 ร้านค้า สร้างศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ครบวงจร ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่

"Market Place เทพรักษ์" เปิดตัวแล้ว! โมเดลใหม่ Community Mall ผสาน Urban Fresh Market ชู Neighbourhood-Centric ยึดใจกลางพหลฯ-วัชรพล ดึงแบรนด์ดังกว่า…

12 hours ago

กฟผ. – มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เตรียมนำทีมวิศวกรและช่างอาสา กฟผ. ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารโรงเรียน สพฐ.

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนในหลายพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรงเรียนภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กฟผ. จึงร่วมกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา…

16 hours ago

This website uses cookies.