ไปรษณีย์ไทย เปิดตัวแคมเปญ “EMS ส่งด่วนผลไม้” ต้อนรับเทศกาลผลไม้ฤดูร้อนปี 2568 ด้วยการผนึกกำลังสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนและผู้ประกอบการทั่วประเทศแบบครบวงจร ชูจุดเด่นบริการส่งด่วนพิเศษที่รวดเร็วทันใจ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มค่า และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยเชื่อมโยงผลผลิตสดใหม่จากสวนสู่มือผู้บริโภคโดยตรง
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ไปรษณีย์ไทยตระหนักถึงความสำคัญของภาคเกษตรไทย ซึ่งเป็นรากฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เราจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการและสร้างสรรค์แคมเปญต่างๆ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลผลไม้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาด การเปิดตัวแคมเปญ EMS ส่งด่วนผลไม้ ในครั้งนี้ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถกระจายผลผลิตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
EMS ส่งด่วนผลไม้: สดใหม่จากสวน ส่งตรงถึงมือคุณ
บริการ EMS ส่งด่วนผลไม้ ของไปรษณีย์ไทย มาพร้อมกับจุดเด่นที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็น:
- เครือข่ายครอบคลุม: ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งและครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สามารถเข้ารับผลผลิตจากสวนของเกษตรกรได้ทุกพื้นที่ และส่งตรงถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
- รูปแบบการขนส่งที่หลากหลาย: ไปรษณีย์ไทยมีรูปแบบการขนส่งที่หลากหลาย สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งแบบทั่วไป หรือการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาความสดใหม่ของผลผลิต
- เทคโนโลยีติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์: ลูกค้าสามารถติดตามสถานะพัสดุได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบออนไลน์ ทำให้มั่นใจได้ว่าผลผลิตจะถูกส่งถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยและตรงเวลา
- บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงและเหมาะสม: ไปรษณีย์ไทยมีกล่องและตะกร้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการขนส่งผลไม้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง
โปรโมชั่นสุดคุ้มค่า: สนับสนุนเกษตรกร ลดภาระต้นทุน
เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรอย่างเต็มที่ ไปรษณีย์ไทยได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับบริการ EMS ส่งด่วนผลไม้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ราคาค่าส่งเริ่มต้นเพียง 60 บาท สำหรับพัสดุขนาด 3 กิโลกรัม
- ราคาพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการร้านค้าผลไม้ แบบเหมากระบะเริ่มต้น 25 กิโลกรัม 260 บาท และเหมา Roll pallet เริ่มต้น 800 บาท
- บริการเข้ารับพัสดุถึงที่ (Pick Up Service) ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- มอบกล่องฟรีให้กับเกษตรกร / ผู้ประกอบการ โดยความร่วมมือกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
นอกจากบริการขนส่งแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ “ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท” เพื่อเป็นช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกรโดยตรง ทำให้เกษตรกรมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นแพลตฟอร์มนี้ยังการันตีความสดใหม่จากผู้ปลูกส่งตรงจากสวนถึงมือผู้รับ
–“บางกอกเจมส์” ครั้งที่ 71 ยอดขายทะลุ 3,700 ล้านบาท ตอกย้ำไทยผู้นำตลาดอัญมณี
