จับตาปี 68 อสังหาฯ ไทยระอุ “China+1” ดึงดูดทุนโลก, ออฟฟิศพรีเมียมบูม, โรงแรมหรูโกยไมซ์

จับตาปี 68 อสังหาฯ ไทยระอุ "China+1" ดึงดูดทุนโลก, ออฟฟิศพรีเมียมบูม, โรงแรมหรูโกยไมซ์

เจแอลแอล (JLL) ฟันธง 4 เทรนด์สำคัญ เปลี่ยนโฉมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568: “China+1” ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาล, ออฟฟิศพรีเมียมในเมืองฮิต, ปรับปรุงทรัพย์สินเพิ่มมูลค่า, โรงแรมหรูรับทรัพย์ไมซ์

ปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเตรียมพลิกโฉมหน้าครั้งใหญ่! เจแอลแอล (JLL) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย 4 ปัจจัยหลักที่จะกำหนดทิศทางตลาด ได้แก่ การที่ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายสำคัญในกลยุทธ์ “China+1” ดึงดูดการลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์, เทรนด์การกลับเข้าทำงานในสำนักงานกระตุ้นความต้องการพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียม, การปรับปรุงและเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน และแนวโน้มเชิงบวกของธุรกิจโรงแรมที่ได้รับแรงหนุนจากการลงทุนต่อเนื่องและการเปลี่ยนแปลงของความต้องการนักท่องเที่ยว

“China+1” ดันไทยขึ้นแท่นฮับผลิตอิเล็กทรอนิกส์-เซมิคอนดักเตอร์

ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับผู้ผลิตที่ต้องการขยายฐานการผลิตนอกประเทศจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ ผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวันและจีน รวมถึงผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก ต่างเข้ามาตั้งโรงงานใหม่ในไทยเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ดาต้าเซ็นเตอร์ และพลังงาน

จับตาปี 68 อสังหาฯ ไทยระอุ "China+1" ดึงดูดทุนโลก, ออฟฟิศพรีเมียมบูม, โรงแรมหรูโกยไมซ์

ร็อดดี อัลลัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการงานวิจัยภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของเจแอลแอล กล่าวว่า “การเติบโตของ AI และความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นตลาดสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจาก BOI และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ช่วยดึงดูดผู้ผลิตต่างชาติรายใหญ่ที่ต้องการลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และสร้างฐานการผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดาต้าเซ็นเตอร์ยังขยายตัวอย่างรวดเร็วจากความต้องการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการพัฒนา AI และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล แนวโน้มเหล่านี้กำลังกำหนดยุคใหม่ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของไทย”

จับตาปี 68 อสังหาฯ ไทยระอุ "China+1" ดึงดูดทุนโลก, ออฟฟิศพรีเมียมบูม, โรงแรมหรูโกยไมซ์

ออฟฟิศพรีเมียมในเมืองบูม รับเทรนด์ “Return-To-Office”

เทรนด์การกลับเข้าทำงานในสำนักงานกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการพื้นที่สำนักงานคุณภาพสูงในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBA) เพิ่มขึ้น หลายองค์กรกำหนดให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในอาคารสำนักงานมากขึ้น ทำให้เกิดการขยายและปรับปรุงพื้นที่เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรคุณภาพสูง

ไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประจำประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม กล่าวว่า “เราเห็นการกลับมาของเทรนด์การทำงานแบบไฮบริด โดยองค์กรใหญ่ ๆ ได้เพิ่มจำนวนวันที่ต้องทำงานในสำนักงานเป็น 3-4 วันต่อสัปดาห์โดยเฉลี่ย ซึ่งส่งผลให้เกิดความต้องการพื้นที่สำนักงานระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการมิกซ์ยูสที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานที่เปลี่ยนแปลงไป คุณภาพของสำนักงานกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกงาน ทำให้เจ้าของอาคารและผู้เช่าที่ลงทุนในการปรับปรุงพื้นที่จะได้เปรียบในการรองรับเทรนด์สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นนี้”

ปรับปรุงทรัพย์สิน เพิ่มมูลค่า รักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน

เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอเพื่อรักษาผู้เช่าและเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ อาคารสำนักงานเพียง 30% ของตลาดที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว เช่น LEED และ WELL ในปี 2567 มีอาคารสำนักงานถึง 13 โครงการ พื้นที่รวมกว่า 358,000 ตารางเมตร ที่ได้รับการปรับปรุงตามมาตรฐานอาคารเขียว

ในตลาดศูนย์การค้า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ต่างปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ประกอบการหลายรายได้ประกาศแผนปรับปรุงและปรับตำแหน่งศูนย์การค้าในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ในขณะที่คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็กกำลังกลับมาได้รับความนิยม

จับตาปี 68 อสังหาฯ ไทยระอุ "China+1" ดึงดูดทุนโลก, ออฟฟิศพรีเมียมบูม, โรงแรมหรูโกยไมซ์

โรงแรมหรูโกยไมซ์-แต่งงาน รับแนวโน้มเชิงบวก

ธุรกิจโรงแรมของไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลง โดยมีทั้งการเปิดตัวแบรนด์ใหม่และกลยุทธ์การรีแบรนด์ ธุรกิจโรงแรมทั้งแบบซอฟต์แบรนด์ (Soft Brands) และคอลเลกชันแบรนด์ (Collection Brands) จากผู้ประกอบการรายใหญ่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แบรนด์ใหม่ โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์แบรนด์ ก็เริ่มเข้าสู่ตลาดเพื่อสร้างจุดขายในตลาดที่มีการแข่งขันสูง กรุงเทพฯ ยังเห็นการกลับมาของแบรนด์ดั้งเดิมที่เคยอยู่ในตลาดประเทศไทย

รัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริการที่ปรึกษาและบริหารสินทรัพย์ หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนด้านโรงแรม เจแอลแอล กล่าวว่า “แม้ผลการดำเนินงานของโรงแรมจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าการเติบโตจะอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับการฟื้นตัวที่ทำสถิติสูงสุดในช่วงสองปีที่ผ่านมา เรายังคาดการณ์การเติบโตที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) และการจัดงานแต่งงาน นักลงทุนมีความรอบคอบมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์มูลค่าสูงในทำเลพรีเมียมและมีความเปิดรับทรัพย์สินประเภทกรรมสิทธิ์เช่าระยะยาว (Leasehold) มากขึ้น โดยเฉพาะในย่านสำคัญของกรุงเทพฯ และพื้นที่รีสอร์ตริมชายหาด”

ประเทศไทย: ศูนย์กลางการลงทุนระดับภูมิภาค

ประเทศไทยยังคงดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติและเสริมสร้างสถานะในฐานะศูนย์กลางการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เจแอลแอลมุ่งมั่นที่จะช่วยนักลงทุน ผู้พัฒนาโครงการ และเจ้าของสินทรัพย์ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความเชี่ยวชาญเชิงลึกในแนวโน้มตลาด การปรับเปลี่ยนสินทรัพย์ และภาคธุรกิจที่มีการเติบโตสูง เจแอลแอลพร้อมที่จะช่วยลูกค้าเปิดโอกาสใหม่ ๆ และสร้างมูลค่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้เจแอลแอลยังมองว่า ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมและดาต้าเซ็นเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อนการลงทุนอสังหาฯ ในไทย การที่ภาครัฐให้สิทธิ์ชาวต่างชาติเข้ามทำธุรกิจ 2 ส่วนนี้ช่วยผลักดันการลงทุนในไทย และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังหวังว่าภาครัฐจะมีนโยบายเพื่อผลักดันการลงทุนเพิ่มเติม

อีกส่วนคือการสนับสนุนให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในไทยได้อย่างราบรื่น เพื่อสร้างการดึดดูดไม่ให้เปลี่ยนใจไปลงทุนในประเทศอื่นๆ รวมถึงนโยบายด้านความปลอดภัย (Safety & Security) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

เซ็นเตอร์ พอยต์ พลัส เปิดตัว 2 โรงแรมหรูใจกลางกรุง “สีลม ริเวอร์วิว และ ประตูน้ำ” พร้อมตั้งเป้ารายได้ ปี 68 ที่ 700 ล้านบาท

Scroll to Top