ทรู ดิจิทัล พาร์ค หนุน BOI ดึงดูดชาวต่างชาติปักหลักเมืองไทยเปิดบริการทำวีซ่าพำนักระยะยาว (Long-Term Resident Visa -LTR Visa)

ทรู ดิจิทัล พาร์ค หนุน BOI ดึงดูดชาวต่างชาติปักหลักเมืองไทยเปิดบริการทำวีซ่าพำนักระยะยาว (Long-Term Resident Visa -LTR Visa)

ทรู ดิจิทัล พาร์ค รุกขยายความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สนับสนุนชาวต่างชาติเข้ามา อยู่อาศัย ทำงาน และลงทุนในประเทศไทย โดยทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับการแต่งตั้งจากบีโอไอ ให้เป็นตัวแทนที่ได้รับการรับรองให้ดูแลชาวต่างชาติในการยื่นขอวีซ่าพำนักระยะยาว หรือ Long-Term Resident Visa (LTR Visa) ซึ่งเป็น วีซ่าแบบใหม่จากประเทศไทยที่เอื้อผลประโยชน์ในด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความดึงดูดในการอยู่อาศัยและลงทุน ในกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีความมั่งคั่งสูง ผู้เกษียณอายุ ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย เพิ่มเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจของไทย รวมถึงการเข้ามาตั้งฐานธุรกิจในประเทศ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยเป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติ (MNCs) จากทุกมุมโลก และยังเป็นหนึ่งในที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเอเชีย

“พาณิชย์” ย้ำจุดยืนส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม ในงาน Design and Value Creation Forum

ทั้งนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้บริการชาวต่างชาติที่ต้องการทำวีซ่าพำนักระยะยาว (LTR Visa) ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำแนะนำ ปรึกษา และอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ อีกทั้งยังเชื่อมโยงผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษและนักลงทุนต่างชาติเข้าสู่ระบบนิเวศครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพ เปิดโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจและความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรของทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่มีมากถึงเกือบ 4,000 ราย ทั้งบริษัทเทคระดับโลก องค์กรเอกชนชั้นนำ สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนผู้ประกอบการเทครุ่นใหม่และสตาร์ทอัพในแวดวงธุรกิจต่างๆ ที่กำลังมองหาเงินทุนและองค์ความรู้เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้น

5 เหตุผลเมืองไทยน่าอยู่-น่าลงทุน สำหรับชาวต่างชาติ

ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้นๆ ของชาวต่างชาติที่พากันหลงเสน่ห์มรดกทางวัฒนธรรมและแหล่งธรรมชาติ รวมถึงแลนด์สเคปอันงดงาม ที่ดึงดูดให้ชาวต่างชาติหลายๆ คนเลือกปักหลักอยู่ยาว เพื่อทำงาน ทำธุรกิจและใช้ชีวิตหลังเกษียณ นอกจากเพียงแค่มาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนระยะสั้น

ประเทศไทยน่าอยู่ น่าใช้ชีวิตช่วงหลังเกษียณ
ประเทศไทยอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 9 ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณ (The World’s Best Places to Retire in 2023) สำรวจและวิจัยโดย https://internationalliving.com/the-best-places-to-retire ซึ่งเปิดเผยว่า ประเทศไทยมีค่าครองชีพไม่แพง มีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลให้เลือกหลายแห่ง แพทย์ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ มีล่ามให้บริการ ทั้งยังมีการดูแลสุขภาพทางเลือกต่างๆ รวมถึงการนวดที่เป็นนิยมของชาวต่างชาติ

ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย
เมืองไทย ขึ้นชื่อว่าผู้คนอัธยาศัยดีมีความเป็นมิตร พร้อมต้อนรับและหยิบยื่นความช่วยเหลือแก่ชาวต่างชาติ ทำให้ไม่รู้สึกเคร่งเครียดมากนัก เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมสู่ย่านธุรกิจหรือสถานที่สำคัญ มีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร แหล่งบันเทิงต่างๆ เปิดบริการตลอดทั้งวัน บางแห่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเปิดบริการในหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย

อาหารการกินหลากหลาย
อาหารไทยโด่งดังและได้รับความนิยมจนเข้าไปอยู่ในใจชาวต่างชาติจากทั่วโลก ด้วยความกลมกล่อมจากการผสมผสานของรสชาติ กลิ่น และสีสันอันสวยงามจนเป็นที่ยอมรับ ส่วนเมนูของหวานและผลไม้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน อีกทั้งอาหารในไทยโดยรวมยังถือว่าราคาถูกกว่าเมืองใหญ่อื่นๆ มีร้านอาหารให้เลือกทุกระดับราคา ในบางวันหากนึกอยากฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารสัญชาติอื่น ก็มีร้านอาหารนานาชาติที่หารับประทานได้อย่างสะดวก

แหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล
อากาศในเมืองไทย ทำให้รู้สึกเหมือนมีวันหยุดฤดูร้อนให้เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ภาคเหนือมีป่าเขา น้ำตก ปางช้างให้ไปสัมผัส ภาคใต้มีชายหาดทรายละเอียดหลายแห่งให้เลือกทั้งแบบครึกครื้นและเงียบสงบ รวมถึงเกาะกระดาน ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นชายหาดที่ดีที่สุดในโลก 2023 นี้ โดย World Beach Guide ของอังกฤษ ทั้งยังมีวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเนื่องจากไม่ได้รับอิทธิพลจากชาติเมืองขึ้นถ่ายทอดผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถานต่างๆ ที่วิจิตรสวยงาม

การส่งเสริมการลงทุน ทำงาน และใช้ชีวิตในไทย
หลังวิกฤตโควิด-19 หลายประเทศต่างเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงประเทศไทย โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ออกวีซ่าประเภทใหม่ “Long-Term Resident Visa: LTR Visa” และมีความยืดหยุ่นในการรับรองคุณสมบัติมากขึ้น เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ทั้งนักลงทุนและผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายในสาขาที่ประเทศยังขาดแคลน อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ ดิจิทัล ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ การแพทย์ และการท่องเที่ยว เป็นต้น เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้ามาทำงานร่วมกับคนไทย เอื้อต่อการถ่ายเทองค์ความรู้ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ยกระดับสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง เสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาค

วีซ่าพำนักระยะยาว อีกขั้นของสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า

สำหรับชาวต่างชาติที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของบีโอไอ และได้รับวีซ่าพำนักระยะยาวในประเทศไทย จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ

  1. ระยะเวลาวีซ่า 10 ปี (สามารถขยายได้)
  2. ยกเว้นอัตราส่วนการจ้างงานพนักงานคนไทย 4 คน ต่อชาวต่างชาติ 1 คน
  3. ใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track) ในการเข้า-ออกประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่มีบริการช่องทางพิเศษ
  4. รายงานตัวทุก 1 ปี (จากเดิมทุก 90 วัน) และไม่ต้องยื่นขออนุญาตกลับเข้ามาในประเทศ (Re-entry Permit)
  5. อนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย (Digital Work Permit) ยกเว้นกลุ่มผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย (Work-from-Thailand Professionals)
  6. ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17% สำหรับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ (Highly-skilled professional)
  7. สามารถมีผู้ติดตามได้สูงสุด 4 คน

ขอ LTR Visa กับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เชื่อถือได้ – ประหยัด – รวดเร็ว

ทรู ดิจิทัล พาร์ค พร้อมให้บริการให้คำปรึกษาเรื่องการขอวีซ่า การตรวจเอกสาร พร้อมให้คำแนะนำตลอดกระบวนการขอวีซ่า นอกจากนี้ ยังมีบริการเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติที่ต้องการขอ LTR Visa เพื่อให้สอดคล้องตามข้อกำหนดของบีโอไอ อาทิ การทำประกันชีวิต และบริการแปลเอกสาร เป็นต้น โดยมีค่าบริการเริ่มต้น 85,000 บาท (ไม่รวมค่าธรรมเนียมการทำวีซ่า) ชาวต่างชาติที่สนใจสมัคร LTR Visa กับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สามารถกรอกแบบฟอร์ม หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือ ดูข้อมูลเกี่ยวกับ LTR Visa ได้ที่นี่

Scroll to Top