ไปรษณีย์ไทย รุกใช้โครงสร้างพื้นฐานพี่ไปรสร้างรายได้เพิ่ม วอนรัฐดูแลธุรกิจขนส่งให้แข่งขันอย่างเป็นธรรม

ไปรษณีย์ไทย รุกใช้โครงสร้างพื้นฐานพี่ไปรสร้างรายได้เพิ่ม วอนรัฐดูแลธุรกิจขนส่งให้แข่งขันอย่างเป็นธรรม

ไปรษณีย์ไทย เดินหน้าพัฒนาคุณภาพด้านการบริการต่อเนื่อง เล็งขยาย iBox ครอบคลุมพื้นที่ห้าง คอนโดมิเนียม รุกใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานพี่ไปรสร้างรายได้เพิ่ม ผลิตสินค้าแบรนด์ไปรษณีย์ไทยส่งตรงถึงบ้านตอบโจทย์คนยุคใหม่ พร้อมชี้ไปรษณีย์ไทยคือพื้นฐานของประเทศ รัฐต้องเข้ามาดูแลการแข่งขันให้เกิดความเป็นธรรม

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวถึงการแข่งขันของธุรกิจขนส่งว่า ความยากของธุรกิจขนส่งคือการแข่งขันกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่มีไลฟ์สไตล์การเปลี่ยนแปลงอย่าวรวดเร็ว ส่วนคนต่างจังหวัดจะเปลี่ยนช้ากว่า เพราะฉะนั้นในปีนี้ที่ไปรษณีย์ไทยครบรอบ 140 ปี เราจะกลับมาอายุ 14 อีกครั้ง เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ ทั้งความทันสมัย และประสบการณ์การใช้บริการให้เข้าถึงง่ายขึ้น

“คุณภาพจะต้องถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ของเสียหายต้องลดลง และต้องส่งได้เร็วขึ้น”

รุกขยายจุดตั้ง iBox

เมื่อถามว่าคนจะเข้าถึงไปรษณีย์ไทยมากขึ้นได้อย่างไร ดร.ดนันท์ เปิดเผยว่า ในปีหน้าจะเดินหน้าขยายบริการ iBox ตู้รับพัสดุอัจฉริยะให้ไปอยู่ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและคอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยเบื้องต้นตั้งเป้าจะตั้ง 500 ตู้ใน กทม. ทั้งนี้กำลังศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมอยู่

ซึ่งนอกจากจะช่วยให้คนเข้าถึงบริการง่ายขึ้น iBox ยังจะช่วยลดต้นทุนด้าน Rederivery หรือการกลับมาส่งรอบ 2 เพราะคนสมัยนี้ไม่ค่อยอยู่บ้านรอรับของ ซึ่ง iBox จะเข้ามาตอบโจทย์การรับพัสดุตลอด 24 ชม.

“iBox นั้นเหมือนกับการใช้ ATM ยุคแรกๆ ที่คนต้องศึกษา และรับรู้ว่ามันใช้ง่าย มีประโยชน์ ปลอดภัย”

ไปรษณีย์ไทย รุกใช้โครงสร้างพื้นฐานพี่ไปรสร้างรายได้เพิ่ม วอนรัฐดูแลธุรกิจขนส่งให้แข่งขันอย่างเป็นธรรม

ดันสินค้าพี่ไปรลง Thailand Post Mart

อีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้เพิ่มของไปรษณีย์ไทยคือธุรกิจอีคอมเมิร์ซผ่านแพลตฟอร์ม Thailand Post Mart ซึ่งล่าสุดได้รุกผลิตสินค้าแบรนด์ “ตราไปร” มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ข้าวสาร

ดร.ดนันท์ เล่าถึงการสร้างแบรนด์สินค้าไปรษณีย์ไทยว่า ที่เลือกผลิตน้ำและข้าวสารออกมาก่อน เพราะเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักมาก และคนไม่ได้รู้สึกสนุกกับการไปแบกน้ำหรือข้าวสารกลับมาด้วยตนเอง ซึ่งเราเห็นปัญหาเหล่านี้ จึงใช้เครือข่ายพี่ไปรที่ปกติต้องเดินทางไปส่งพัสดุ ส่งจดหมายอยู่แล้ว เข้าไปส่งน้ำส่งข้าวสารโดยไม่คิดค่าส่งเพิ่ม

หลังจากนี้จะมีสินค้าใหม่ๆ เป็นแบรนด์ไปรษณีย์ไทยออกมาอีกเรื่อยๆ และจะเป็นสินค้าที่คนไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อด้วยตัวเองเช่นเดียวกับ ข้าว และ น้ำเปล่า

“ซึ่งเรายังไม่ได้โปรโมตมาก แต่ยังทำยอดขายได้ 3 ล้านบาทใน 3 สัปดาห์ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะทำยอดได้ 10 ล้านบาท เราจะใช้ประโยชน์จากโครงข่ายบุรุษไปรษณีย์เข้ามาช่วย เป็นการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วของไปรษณีย์ไทยให้เกิดประโยชน์มากขึ้น”

ทั้งนี้ปี 2566 ไปรษณีย์ไทยตั้งเป้าเติบโต 15% จากปีก่อน ด้าน Thailand Post Mart ตั้งเป้าว่าในปี 2567 จะทำรายได้คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 5% ของรายรวม

วอนรัฐดูแลการแข่งขันธุรกิจขนส่ง

ดร.ดนันท์ ยังกล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจขนส่งในปัจจุบันว่า รัฐบาลต้องเข้ามาดูแลเพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ วันนี้จะเห็นว่ามีการแตกไลน์ธุรกิจขนส่งขึ้นมาจากอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซทำให้เกิดการบิดเบือนในการแข่งขัน

บางธุรกิจต้องการใช้ไปรษณีย์ไทยส่งสินค้า แต่ใช้ไม่ได้ เพราะถูกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซล็อกให้ใช้แค่บางเจ้า ซึ่งไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน

ไปรษณีย์ไทยคือโครงข่ายที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ เกิดมาจากการให้บริการเชิงสัมคม ให้คนเข้าถึงอย่างเท่าเทียม บ้านห่างไกลแต่ไหนก็ส่ง ราคาถูกควบคุมจากรัฐ

อย่างในช่วงโควิด-19 ต้องไปส่งยาให้กับคนที่ทำ Home Isolation ทั้งที่กระทบกันหมด คนติดกันหมด แต่ก็ต้องบริหารจัดการให้ทำงานได้ สนับสนุนรัฐได้ สนับสนุนคนไทยได้

ไม่เพียงเท่านั้น ไปรษณีย์ไทยยังช่วยระบายผลไม้ออกจากล้ง ซึ่งไม่มีใครทำได้ทันที

“เรามีโครงข่ายที่ครอบคลุม ถ้าไม่มีไปรษณีย์ไทยทำ ก็ไม่มีใครทำ ซึ่งเราพยายามขับเคลื่อนเพื่อให้เราดูแลสังคมได้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลไทยควรเข้ามาให้ความสำคัญ เข้ามากำกับดูแล ไม่อย่างนั้นบริษัทไทยจะตายหมด” ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย

Scroll to Top