วันนี้มีการเปิดตัวสายการบินใหม่ ในชื่อ “สายการบินเรียลลี่ คูล แอร์ไลน์” โดยมีนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน เรียลลี่ คูล แอร์ไลน์ ทำพิธีเปิด ท่ามกลางบุคคลในวงการธุรกิจ และวงการการบิน เข้าแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง
นายพาที กล่าวว่า สายการบินเรียลลี่ คูล แอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่ตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินในช่วงหลังโควิด-19 และรองรับความต้องการเดินทางจากคนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นมาก แต่ปริมาณเที่ยวบินและระบบโลจิสติกส์มีไม่เพียงพอ ซึ่งแนวโน้มจะเป็นแบบนี้ไปอีก 2-3 ปี โดยได้วางตำแหน่งทางการตลาดของสายการบินนี้ เป็น “ไลฟ์ สไตล์ ฟูล เซอร์วิส” ซึ่งอยู่จุดกลาง ของสายการบิน “พรี่เมี่ยม ฟูล เซอร์วิส” และ “สายการบินโลว์คอส”เน้นนำนวัตกรรมการบริการสมัยใหม่ เข้ามารองรับความต้องการของผู้โดยสาร โดยในช่วงปลายเดือนเมษายน จะมีการประกาศเรื่องนวัตกรรมใหม่ที่จะนำมาใช้กับสายการบินอีกครั้ง
สำหรับสายการบินเรียลลี่ คูล แอร์ไลน์ มีเป้าหมายจะทำการบินในเส้นทางบินระยะไกล เน้นกลุ่มผู้โดยสาร Inbound (ต่างชาติเข้าไทย) เป็นหลักที่ 70% เบื้องต้นเส้นทางบินที่จะเปิดให้บริการอย่างแน่นอนในช่วงแรกคือ ญี่ปุ่น และ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ก่อนขยายเส้นทางไปทวีปยุโรป ในอนาคต ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเตรียมแผน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถเปิดทำการบินได้ภายในเดือนธันวาคม ของปีนี้(2566) สำหรับเครื่องบิน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เครื่องบินลำตัวกว้าง อย่าง แอร์บัส เอ 330 / เอ 350 แต่ไม่ใช่ เอ 320 และ 380 แน่นอน โดยยังอยู่ระหว่างการเจรจาเช่าเครื่องบินจากผู้ผลิต คาดว่าจะมีเครื่องเข้าฝูงบินได้ปลายปีนี้ 2 ลำ และ ต้นปีหน้าอีก 2 ลำ ซึ่งจะมีให้บริการทั้งขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า
ส่วนเงินลงทุนสายการบินใหม่นี้ มาจาก Venture Capitalist และนายพาที ถือหุ้นใหญ่ ราว 51% ไม่เน้นการนำเข้าตลาดหุ้น เนื่องจากมองว่ามีวิธีการระดมทุนได้หลายทาง ส่วนจะมีความเหมือนกับสายการบินนกแอร์ที่เคยบริหารมาก่อนหน้านี้หรือไม่ นายพาที ย้ำว่า มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ก็ได้นำบทเรียน และ ประสบการณ์ รวมถึงพันธมิตรในช่วงที่ผ่านมา มาปรับใช้ อุดรูรั่วของการทำธุรกิจการบิน จึงมั่นใจว่า สายการบินใหม่นี้ จะเติบโตได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังมองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินโลกยังฟื้นตัวได้ไม่เร็วนักเนื่องจากธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบในทุกด้าน ทำให้ต้องใช้เวลาปรับตัวต่อไปอีก 2-3 ปี อัตราค่าโดยสารจะแพงต่อเนื่องไปอีกหลายปี โดยยอมรับว่าต้องจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทั้งการแพร่ระบาดของโรคใหม่ ๆ , ภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน , และ การเงินเครดิตสวิส ล้ม
ส่วนการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ในมุมของนักลงทุน อยากให้รัฐบาลใหม่ เห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เข้ามาช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ไม่ว่าใครจะได้รับเลือกเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ ก็ไม่กระทบ ซึ่งตนเองก็ยินดีจะให้คำปรึกษากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการวางมาตรฐานอุตสาหกรรมการบินได้