ขนส่ง ขอภาคเอกชนเลี่ยงการขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หวั่นปัญหารถติดหนัก

กรมการขนส่งทางบก นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ดร.วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย และภาคีเครือข่าย นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด รวมทั้งผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ร่วมแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าให้หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้า และงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2566 และขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารและรถบรรทุกปฏิบัติตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า เนื่องด้วยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ในกรุงเทพและระหว่างจังหวัดรวม 7.5 ล้านคนต่อเที่ยว ดังนั้นปริมาณยานพาหนะที่ใช้บนท้องถนนจึงมีความคับคั่งและมีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น

ในวันนี้กรมการขนส่งทางบก จึงร่วมกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่าย ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนด้วยการหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้า และงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2566 เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและลดปัญหาการจราจร ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้รถ ให้เดินรถได้เฉพาะช่องเดินรถซ้ายสุดเท่านั้น และปฏิบัติตามข้อแนะนำดังนี้

  1. กำชับผู้ขับรถให้ขับด้วยความระมัดระวัง ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ให้ผู้ขับรถพักผ่อนอย่างเพียงพอ
    มีสภาพร่างกายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย และไม่ขับรถเกินชั่วโมงทำงานตามที่กฎหมายกำหนด
    2.ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถบรรทุก/
    รถลากจูง/รถพ่วง ก่อนใช้งานทุกครั้ง
  2. ผู้ขับรถบรรทุกต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเป็นศูนย์
  3. ผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ Global Positioning System (GPS) ในรถของตนเอง ให้ติดตามการใช้ความเร็วของรถบรรทุกอย่างต่อเนื่องผ่าน Application DLT- GPS และแจ้งเตือนผู้ขับรถเมื่อพบว่ามีการใช้ความเร็วเกินกำหนด เพื่อร่วมกันป้องกันอุบัติเหตุ
Scroll to Top