นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดให้บริการรถ โดยสารพลังงานไฟฟ้า ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด สาย 44 (2-42) เส้นทาง เคหะคลองจั่น-ท่าเตียน และเส้นทางใหม่ / (3-53) เส้นทาง สถานีรถไฟฟ้าหัวหมาก-เสาชิงช้า ภายใต้แนวคิด “Seamless Connecting Charming Bangkok” ยลเสน่ห์ กรุงเทพ ด้วยการเดินทางอย่างไรรอยต่อ ณ ไทย สมายล์ บัส ศูนย์รามคำแหง เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า วันนี้เป็นอีก 1 ความสำเร็จ ตามแนวคิดการเชื่อมโยงการเดินทางอย่างไรรอยต่อของรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของไทย สมายล์ บัส ที่ผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อการเดินทาง “รถเรือ-ราง” แบบครบวงจร ซึ่งครั้งนี้ ไทย สมายล์ บัส จะเปิดเดินรถให้บริการผู้โดยสาร เพิ่มเติม 2 สายทาง จากกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก
โดยเฉพาะผู้โดยสารในพื้นที่เขตบางกะปิ เขตลาดพร้าว และพื้นที่ใกล้เคียง เข้าพื้นที่ชั้นในของ กทม. ด้วยเส้นทางการเดินรถสาย 44 (2-42) เส้นทาง เคหะคลองจั่น-ท่าเตียน และเส้นทางใหม่ / (3-53) เส้นทาง สถานีรถไฟฟ้าหัวหมาก-เสาชิงช้า ที่จะผ่านสถานที่ สำคัญต่างๆ อาทิ เสาชิงช้า สามยอด หัวลำโพง ท่าเตียน สนามหลวง เป็นต้น และยังสามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยเรือโดยสาร พลังงานไฟฟ้าและรถไฟฟ้า ไปยังสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อสะดวกสบาย และปลอดภัย ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการทุกราย
นอกจากนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจได้ขอความร่วมมือให้ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด จัดเก็บอัตราค่าโดยสารสูงสุดต่อวันไม่เกิน 40 บาทออกไปอีก3เดือนจากเดิมกำหนดการทดลองการให้บริการจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้ได้ขอความร่วมมือให้บริษัทขยายไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566
ด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการพลิกโฉมรถโดยสารในระบบขนส่ง มวลชนสาธารณะ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีการออกเแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปัจจุบัน ได้นำรถไฟฟ้ามาให้บริการแก่ประชาชนแล้ว 20 สายทาง จำนวนรถรวมกว่า 225 คัน และได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งนี้ในอนาคตจะบรรจุรถไฟฟ้าเข้ามาให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนครบทุกสายภายในปลายปี 2565 พร้อมยืนยันขยายระยะเวลาการใช้บริการของผู้โดยสารในอัตราสูงสุด 40 บาทต่อวันไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ขอความร่วมมือเพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดภาระค่าของชีพของพี่น้องประชาชน