นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Thai Smile Happy Gift : Start to Connect ส่งความสุขปีกระต่ายทอง จากไทยสมายส์ กรุ๊ป ระบุว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้เปิดเดินรถให้บริการรถโดยสารประจำทางด้วยพลังงานไฟฟ้า แล้วกว่า 122 เส้นทาง หรือกว่า 1,250 คัน เชื่อมโยงการเดินทางที่ตอบโจทย์ประชาชน โดยจากสถิติการเดินทางพบว่ามีผู้นิยมใช้บริการในแต่ละวันเฉลี่ยมากกว่า 3,000,000 คน
โดยกระทรวงคมนาคม ตั้งเป้าให้
ระบบการขนส่งสาธารณะเชื่อมโยงทุกการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ ให้รถ – เรือ – ราง เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในชีวิตประชาชนที่สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายแก่คนทุกคน สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจแก่ผู้เดินทาง รวมถึงทำระบบชำระค่าโดยสารของรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ากับเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าของไทยสมายล์กรุ๊ปทั้งหมดเข้าด้วยกัน ด้วยระบบโครงข่ายเดียว หรือ Singie Network
ทั้งนี้ ในโอกาสเทศกาลปีใหม่ 2566 กระทรวงคมนาคม ได้นำระบบการชำระค่าโดยสารด้วยบัตรฮ้อบ หรือ Hop card ผ่านเครื่อง B60 มาใช้งานจริงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกด้วยระบบสังคมไร้เงินสด มอบเป็นของขวัญให้กับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2 แพ็คเกจ คือ(1) ผู้เดินทางด้วยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าในโครงข่ายของไทยสมายล์กรุ๊ปกว่า 120 เส้นทาง คิดราคาค่าโดยสารไม่เกิน 40บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยวต่อวัน (2) ผู้เดินทางด้วยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า คิดราคาค่าโดยสารสูงสุด 50 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยวต่อวัน
สำหรับการจัดแพ็คเกจทั้งสองนี้ สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่มีเป้าหมายจะบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเขตพื้นที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งจะยิ่งส่งเสริมให้มีจำนวนผู้โดยสารมาเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคม ตั้งเป้าเพิ่มรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า 3,500 คัน ในปี 2566 เพื่อให้บริการอย่างเต็มที่แก่ผู้โดยสารในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว ยังช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับพี่น้องประชาชน มากกว่า 7,500 ตำแหน่งอีกด้วย
