นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 38 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสาย 48 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – ท่าช้าง ภายใต้แนวคิด Thai Smile Bus Change For The Better เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ณ ไทย สมายล์ บัส สาขา รามคำแหง 2 โดยระบุว่า ในปี 2566 และอนาคตตนมีความเชื่อมั่นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระบบขนส่งมวลชนไทย
ด้านผู้ประกอบการขนส่งภาคเอกชน ได้แก่ กลุ่มบริษัทไทย สมายล์ กรุ๊ป จะเปลี่ยนรถโดยสาร NGV มาเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV บัส) 100% พร้อมทั้งเปลี่ยนระบบการเก็บค่าโดยสารจากตั๋วแบบกระดาษ มาเป็น HOP CARD ซึ่งเป็นบัตรโดยสารอิเล็คทรอนิคส์ ด้วยระบบสังคมไร้งินสด สำหรับใช้ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ ในวันนี้ กลุ่มบริษัท ไทย สมายส์ กรุ๊ป พร้อมที่จะเปิดให้บริการรถโดยสาร EV สาย 38 และสาย 48 พร้อมกับมีแผนขยายการให้บริการ โดยจะลงทุนให้มีรถโดยสาร EV ภายในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 1,850 คัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย. 66 อีกทั้งยังเตรียมรถสำรองไว้เพิ่มอีก 900 คัน ต่อยอดจากปี 2565 ที่เอกชนสามารถเปิดให้บริการรถ EV บัสจำนวน 1,250 คัน รวม 77 เส้นทาง จากเส้นทางสัมปทานรวม 122 เส้นทาง ส่วนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)ตั้งเป้าปีนี้จะมีรถโดยสาร EV จำนวน 250 คัน หรือ 10% ของทั้งหมด 2,500 คัน ออกมาวิ่งให้บริการใน 107 เส้นทาง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือ (TOR) กระทรวงคมนาคมได้กำหนดเป้าหมายในภาพรวมว่า ขสมก. และ ผู้ประกอบการเอกชน ต้องดำเนินการปรับเปลี่ยนรถโดยสาร 5,000-7,000 คัน เป็นรถ EV บัส 100% ให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี เพื่อรองรับการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ Net Zero / ด้วยเทคโนโลยีสะอาด ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายกระทรวงคมนาคมอย่างเป็นรูปธรรม
นางสาว กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ไทย สมายล์ กรุ๊ป อยู่ระหว่างทำการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของ บริษัท สมาร์ท บัส ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงให้กลายเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมทั้งจะยกเลิกการใช้ตั๋วแบบกระดาษ เปลี่ยนไปใช้ HOP Card หรือบัตรโดยสารอิเล็คทรอนิคส์ สำหรับใช้ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ของกลุ่ม ไทย สมายล์ กรุ๊ป เพื่อใช้ชำระค่าโดยสารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป