สมาคมการค้ายาสูบไทย รวบรวมข้อมูลจากการจับกุมบุหรี่เถื่อนยึดของกลางจากการส่งพัสดุภายในประเทศช่วงรอบปีที่ผ่านมา ผ่านศูนย์ไปรษณีย์ขนส่งชลบุรี ตราด สระแก้ว กระบี่ สงขลา และอยุธยา ยอดรวมกว่า 300,000 ซอง หรือกว่า 6,000,000 มวน แสดงถึงการกระจายบุหรี่ผิดกฎหมายรูปแบบใหม่ผ่านบริการไปรษณีย์และขนส่งเอกชน ที่มาพร้อมการเก็บเงินปลายทาง ระบุหน้าพัสดุเป็นสินค้าทั่วไป เช่น น้ำพริก และเครื่องสำอาง สะท้อนให้เห็นว่าการซื้อขายบุหรี่เถื่อนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดีย กระจายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมปัจจุบัน ห่วงกระทบโชห่วย 500,000 รายทั่วประเทศ วอนรัฐเร่งปราบช่องทางออนไลน์
ธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย ให้ความเห็นว่า สมาคมฯ มีข้อมูลบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เร่งให้ภาครัฐดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด แต่สิ่งที่ยังขาดในปัจจุบันคือการจัดการการขายบนช่องทางออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะผู้ขายเองหลีกเลี่ยงการเปิดหน้าร้านที่เสี่ยงตกเป็นเป้าการจับกุมด้วยการขายออนไลน์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน และสามารถใช้บัญชีม้าปกปิดเส้นทางทางการเงินได้ รวมถึงตอบสนองพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้ซื้อยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายด้วย
แม้ว่าจะมีการจับกุมอย่างต่อเนื่องจากทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะศุลกากรที่เผยว่าระหว่างเดือนตุลาคม 2566 – มกราคม 2567 มีการจับกุมบุหรี่เถื่อนกว่า 8,476,458 มวน มูลค่า 47,574,988 บาท และบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า ปริมาณ 68,706 ชิ้น มูลค่า 15,557,842 บาท แต่ตัวเลขเหล่านี้ยังไม่เทียบเท่าข้อมูลจากศุลกากรประเทศจีนที่ระบุว่ามีการส่งออกเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า (พิกัดศุลกากร 8543.40 และ 2404.12) มายังประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566 เป็นมูลค่าสูงถึง 46 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 1,600 ล้านบาท คิดเป็นไม่ถึง 1% ของยอดที่ทะลักเข้าจากจีน
“สมาคมฯ พบเห็นการขายบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนออนไลน์อยู่เสมอ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) และ Facebook ซึ่งผู้ขายมีการลงเลขพัสดุ และคลิปรีวิวสินค้าจากผู้รับอย่างโจ่งแจ้ง หากนำเลขพัสดุดังกล่าวไปค้นหาจะพบจุดที่พัสดุถูกส่งมาชัดเจน ซึ่งขายหน้าร้านไม่ได้ ก็ส่งพัสดุแทน! ถื่อเป็นช่องทางใหม่ของผู้ค้าบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้าเถื่อน นอกจากนี้บน Marketplace ของ Facebook จำเป็นต้องระบุอำเภอและจังหวัดของผู้ขายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อ ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้จึงเป็นอีกเบาะแสสำคัญแก่เจ้าหน้าที่ที่จะขยายผลการบังคับใช้กฎหมายกับร้านบุหรี่เถื่อนออนไลน์ให้มากขึ้น”
ทั้งนี้ ธัญญศรัณ กล่าวเสริมว่า การขนส่งบุหรี่ผิดกฎหมายผ่านระบบขนส่งพัสดุพร้อมบริการเก็บเงินปลายทางจะทำให้ธุรกิจใต้ดินเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว เข้าถึงเด็กและเยาวชนได้ง่าย ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด สร้างความเดือดร้อนแก่ร้านค้าบุหรี่กว่า 500,000 ร้านค้าทั่วไทย โดยเฉพาะในสงขลา พัทลุง สตูล นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ที่แทบจะขายบุหรี่ถูกกฎหมายไม่ได้เลย จึงอยากวอนหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายเช่น กรมสรรรพสามิต ตำรวจ ปอท. กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกระทรวงดิจิทัลฯ เอาจริงเอาจังกับการปิดเว็บควบคู่กันไปกับการเข้มงวดกับผู้ให้บริการขนส่งพัสดุในการขนส่งบุหรี่ผิดกฎหมาย และขยายผลสืบสวนไปยังผู้อยู่เบื้องหลังการค้าบุหรี่เถื่อนและบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนในช่องทางออนไลน์ที่เกิดขึ้นนี้ สมาคมฯ จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางรวบรวมเบาะแสจากร้านค้าในท้องถิ่นเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป