education

สมศ. ชี้สถิติ 5 ข้อ ค้นพบสู่ความสำเร็จของสถานศึกษาที่ใช้ยกระดับคุณภาพของผู้เรียน

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. รายงานความคืบหน้าผลการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ระหว่างเดือนตุลาคมปี 2564 ถึง เดือนสิงหาคม 2565 มีสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกระยะที่ 1 การประเมิน SAR จำนวนทั้งสิ้นกว่า 19,500 แห่ง พร้อมเผย 5 ข้อค้นพบที่ทำให้สถานศึกษาประสบความสำเร็จ

ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. กล่าวว่า สมศ. ได้ดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาปี 2565 ไปแล้วกว่า 19,500 แห่ง และจากการประเมินคุณภาพภายนอกระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการตรวจเยี่ยมผ่านทางระบบวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามความสมัครใจของสถานศึกษา ที่ได้รับรองผลการประเมินแล้วในระดับการศึกษาปฐมวัย และการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 735 แห่ง แบ่งเป็นศูนย์พัฒนาเด็ก จำนวน 319 แห่ง พบว่าร้อยละ 42 มีผลการประเมินดีมากทั้งสามมาตรฐาน และร้อยละ 3 มีผลการประเมินระดับดีเยี่ยมทั้งสามมาตรฐาน

ในส่วนของระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 416 แห่ง พบว่าร้อยละ 47 มีผลการประเมินดีมากทั้งสามมาตรฐาน และร้อยละ 42 มีผลการประเมินดีเยี่ยมทั้งสามมาตรฐาน ซึ่งจากผลการประเมินคุณภาพภายนอกดังกล่าวทำให้เห็นว่าสถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัด และผู้ที่เกี่ยวข้องต่างให้ความสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยมากขึ้น โดยพบว่ามี 5 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานศึกษาประสบความสำเร็จประกอบด้วย

  1. สถานศึกษามีการระบุเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนแล้วนำไปสู่การปฏิบัติ ด้วยการจัดกิจกรรม โครงการในการพัฒนาผู้เรียนที่ครอบคลุมทั้งในเรื่องของความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขที่ชัดเจนและต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมการสอนเสริมหลังเลิกเรียน สำหรับผู้เรียนที่มีปัญหาในเรื่องการอ่าน การคิดวิเคราะห์และการเขียน ควบคู่ไปกับการจัดการเรียนการสอนที่มีความหลากหลาย เหมาะสมกับผู้เรียนตามบริบทของแต่ละสถานศึกษา การจัดกิจกรรมชมรมทั้งในเวลาเรียนและหลังเลิกเรียน ทั้งชมรมศิลปะ ดนตรี และกีฬา รวมถึงกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในการแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น เป็นต้น
  2. สถานศึกษามีการระบุเป้าหมายเกี่ยวกับกระบวนการบริหารจัดการ ครอบคลุมถึงการพัฒนาครู มีการสำรวจสถานศึกษาของตนเกี่ยวกับจุดเน้นในการบริหารในรูปแบบและลักษณะต่างๆ มีการระบุเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจ ตลอดจนวิธีพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการสถานศึกษา ผ่านโครงการ กิจกรรม ควบคู่ไปกับวิธีการประเมินประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการของสถานศึกษา การเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษามากขึ้น
  3. สถานศึกษามีการนำเสนอให้เห็นกระบวนการบริหารตามจุดเน้นและเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีการวางแผนการดำเนินงานในแต่ละปีการศึกษา กำหนดเป็นโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อทำให้การบริหารจัดการส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนและสถานศึกษา เช่น โครงการส่งเสริมความเป็นอัจฉริยภาพทางศิลปะ ดนตรี กีฬา โครงการพัฒนาบุคลากรในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning และโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษาเพื่อสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ของผู้เรียน เป็นต้น
  4. สถานศึกษามีการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เช่น การกำหนดสัดส่วนของครูผู้สอนต่อผู้เรียน ตลอดจนการระบุโครงการและกิจกรรมในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็น รวมถึงได้ลงมือปฏิบัติจริงมากขึ้นโดยมีครูเป็นผู้แนะแนวทาง และมีการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินผลการจัดกิจกรรมตามโครงการต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในการจัดกิจกรรมในครั้งต่อๆ ไป เป็นต้น
  5. สถานศึกษามีการกำหนดจุดเน้นในแต่ละมาตรฐานอย่างชัดเจน พร้อมนำเสนอข้อมูลหลักฐานเอกสารอ้างอิงเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมกับผลงานนวัตกรรมหรือแบบอย่างที่ดี (Best Practice) โดยแสดงให้เห็นถึงกระบวนการ ขั้นตอนในการพัฒนานวัตกรรม และแบบอย่างที่ดีอย่างเป็นระบบ รวมทั้งมีข้อมูล หลักฐานที่สะท้อนให้เห็นถึงผลของการพัฒนาที่ส่งผลต่อผู้เรียนและสถานศึกษาอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ สมศ. ยังคงยึดหลักการประเมินคุณภาพภายนอกโดยไม่สร้างภาระให้แก่สถานศึกษาและครูผู้สอน พร้อมทั้งเน้นการให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์แก่สถานศึกษา ควบคู่ไปกับการผลักดันให้สถานศึกษานำข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประเมินคุณภาพภายนอกไปปรับใช้ ผ่านโครงการส่งเสริมการนำผลประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ซึ่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อให้สถานศึกษาสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของสถานศึกษาและสถานการณ์ในปัจจุบันได้ โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษา 28 แห่งทั่วประเทศ พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิร่วมให้คำปรึกษา แนะแนวทางการดำเนินงาน ในการจัดทำแผนพัฒนาร่วมกับสถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัด ให้กับสถานศึกษาที่สนใจ ภายใต้แนวคิด ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา

TK Park เดินหน้าเพิ่ม “ทุนมนุษย์” ผ่านห้องสมุดสาธารณะ ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำการศึกษาไทย

ดร.วินัย คำวิเศษ ผู้อำนวยการโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา กล่าวว่า หลังจากเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกกับทาง สมศ. ได้นำข้อเสนอแนะ เรื่องการระบุเป้าหมายและพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ให้เป็นการเรียน Active Learning ทางโรงเรียนได้นำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงาน ผู้เรียนทุกคนต้องได้รับการศึกษาเต็มศักยภาพ เรียนรู้การสำรวจ วิเคราะห์สภาพปัญหาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน และกล้าแสดงความคิดสร้างสรรค์ พร้อมลงมือปฏิบัติ จนเกิดทักษะสามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรม

ถุงมือกันความร้อน กล่องข้าวเก็บความร้อน และอิฐสละ ที่เป็นการสร้างมูลค่าผักตบชวาขยะหลังโรงเรียน สามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนและชุมชนรอบข้าง และการสร้างนวัตกรรมในครั้งนี้ นับว่าเกิดประโยชน์ เป็นที่ชื่นชอบและได้รับการยอมรับจากชุมชน หน่วยงานต้นสังกัดเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีแผนงานที่จะปฏิบัติงานตามข้อเสนอแนะของ สมศ. ในการพัฒนาสู่โครงงานนักธุรกิจรุ่นเยาว์ ปูพื้นฐานการประกอบธุรกิจให้กับนักเรียนของเราเพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น ในด้านการพัฒนาศักยภาพผู้สอน ทางโรงเรียนได้ให้ความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ครูผู้สอนสามารถผลิตสื่อเทคโนโลยี เพื่อนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด โดยมีผลการประเมินว่ามีการพัฒนาการสูงขึ้น 3 ปีอย่างต่อเนื่อง ในระดับดีเยี่ยม พร้อมทั้งมีการจัดตั้งชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ร่วมกันระหว่างครูผู้สอน เพื่อนำไปใช้พัฒนาการสอนอย่างต่อเนื่อง

ดร.วินัย กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน ทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของสถานที่ สื่อการเรียนการสอน และมาตรการรองรับในสถานการณ์ต่างๆ ไว้อย่างเต็มที่ โดยในเรื่องของสถานที่ ได้จัดให้มีการนั่งเรียนได้ห้องละ ไม่เกิน 25 – 30 คน และมีฉากกั้นระหว่างกัน เรื่องการเรียนการสอน เป็นแบบคู่ขนาน โดยผู้เรียนในรูปแบบ On site นั้นจะจัดการเรียนการสอนตามปกติ ทั้งนี้กรณีที่ติดโควิดจะปรับเป็นการเรียนออนไลน์

นอกจากนี้ โรงเรียนยังเตรียมเรื่องของมาตรการ แนวทางการปฏิบัติเมื่อต้องเข้ามาในพื้นที่ จะมีระบบการคัดกรองของผู้เรียนและบุคลากร เพื่อประเมินความเสี่ยงในทุกสัปดาห์ ก่อนเปิดเรียนทุกต้นสัปดาห์ผ่านแอปพลิเคชัน Thai save Thai และกรณีที่ผู้เรียนมีความเสี่ยง จะต้องตรวจและรอฟังผลอีกครั้งในห้อง Home isolation ที่ทางสถานศึกษาได้จัดเตรียมไว้ พร้อมกับประสานผู้ปกครองและนำผู้เรียนไปตรวจและทำการรักษาที่โรงพยาบาลในสังกัดต่อไป

supersab

Recent Posts

LINE MAN เผยเทรนด์ “ชาไทย Specialty” แรงจัด! ยอดสั่งพุ่ง 81% ร้านใหม่ผุด 205%

กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…

31 minutes ago

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

2 hours ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

2 hours ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

2 hours ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

3 hours ago

เปิดเทรนด์ “Conscious Travel” สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ยุคสมัยที่โรงแรมเป็นเพียง "ที่นอน" ได้ลาจากไปแล้ว! นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ที่มากกว่าการพักผ่อน พวกเขาต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และใส่ใจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เทรนด์ "Conscious Travel" หรือการเดินทางอย่างมีสติกำลังมาแรง สะท้อนผ่านพฤติกรรมการพักผ่อนที่ยาวนานขึ้นในโรงแรม พร้อมแสวงหาประสบการณ์สุดพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล เจาะลึกเทรนด์นักท่องเที่ยว จากรายงาน Changing…

3 hours ago