KID MAI เปิดตัวนวัตกรรมการศึกษาชิ้นใหม่ใจกลางกรุงเทพ “The Last Prison Escape Room” เครื่องมือค้นหาและพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านจิตวิทยาที่ทรงพลังด้วยเทคนิคการสืบค้นที่ต้องใช้ทักษะต่างๆ พร้อมด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลินจากการเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ระทึกขวัญเพื่อแก้ไขปัญหา เวอร์ชั่นคนไทยที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก ที่แรกที่เดียวที่ให้ข้อคิดผสานกับแนวปรัชญาของศาสนาพุทธ แตกต่างจากเครื่องมือ Escape Room อื่นๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้
ผศ.ดร.วีรณัฐ โรจนประภา (ดร.ใหม่) ผู้ออกแบบและก่อตั้ง The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game กล่าวว่า “หากต้องการประสบความสำเร็จทั้งในมิติของการใช้ชีวิต การทำงาน การเงิน ความสัมพันธ์ ในยุคนี้ความรู้จากตำราสิ่งที่เรียนจากห้องเรียนไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การประสบความสำเร็จจึงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ รวมถึงการเชื่อมโยงองค์ความรู้จนเกิดเป็นสิ่งใหม่เพื่อก้าวเป็นผู้นำในแวดวงธุรกิจต่างๆ
นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาทักษะสำคัญสำหรับโลกสมัยใหม่อย่าง 7Q ควบคู่ไปด้วย ได้แก่ IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดทางสติปัญญา, EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์, CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์, MQ (Moral Quotient) ความฉลาดทางศีลธรรม จริยธรรม, PQ (Play Quotient) ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น, AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา และ SQ (Social Quotient) ความฉลาดทางสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียนนอกห้อง ที่ต้องอาศัยประสบการณ์และสนามจริงให้ลงมือเรียนรู้และฝึกฝน การสอนในยุคสมัยใหม่จึงต้องประยุกต์และออกแบบมาเพื่อสอดคล้องรองรับกับสิ่งที่ต้องการใช้ผู้เรียนได้รับ
–แกร็บ ผุดโครงการ “GrabCampus” โชว์กึ๋นไอเดียด้านธุรกิจ-ดิจิทัล ดันศักยภาพเด็กไทย
โดยนำฐานคิดของเครื่องมือการเรียนรู้ที่นิยมอย่างแพร่หลายนี้มาประยุกต์บนฐานของการให้ความรู้ สร้างความสามัคคี และค้นหาศักยภาพ พัฒนาออกมาเป็น The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game ออกแบบการเรียนรู้ผ่านเกมด้วยกระบวนการ gamification เพื่อให้ผู้เรียนรู้ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกสอน ผสมผสานความหลากหลายของปริศนาให้เกิด team building สำหรับกลุ่มคนทำงาน และสานสัมพันธ์ครอบครัวระหว่างพ่อแม่ลูก
ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติระหว่างการเล่มเกมที่ออกแบบและใส่กลไกเอฟเฟกต์กระตุ้นความเร้าใจตื่นตัว และสิ่งสำคัญที่ทำให้ The Last Prison Escape Room แตกต่างจากที่อื่น ๆ คือ แต่ละห้องคดีถูกออกแบบมาบนฐานของการสอดแทรกความรู้เชิงคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นการละความโลภ การมีสติ ความไม่ประมาท ไปจนถึงระดับการพ้นทุกข์
สำหรับ The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่ตั้งใจออกแบบ และสร้างเพื่อประโยชน์ของทุกคน จากการเดินทางไปหลากหลายประเทศทั่วโลก และได้เห็นหลายบริษัท ใช้ escape room เพื่อพัฒนาบุคลากร และเห็นผลลัพธ์ว่า escape room ช่วยยกระดับคุณภาพบุคคลได้จริง จึงสร้าง escape room เพื่อสังคมไทย และตั้งใจออกแบบให้ทุกเกมที่ได้เล่น นอกจากทักษะต่าง ๆ ความสนุกสนานเพลิดเพลินที่จะได้รับแล้ว ทุกเกมยังต้องได้ข้อคิดบางอย่างติดตัวติดใจ กลับไปเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีงามในการใช้ชีวิตต่อไปด้วย” ผศ.ดร.วีรณัฐ กล่าวเพิ่มเติม
The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองสามารถพาเด็ก ๆ ลูก หลาน มาเรียนรู้แบบจำลองการแก้ปัญหาและการเผชิญกับสถานการณ์ได้ เพื่อฝึกน้อง ๆ ในการแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง ฝึกฝนความช่างสังเกต เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว สำหรับวัยรุ่นได้ฝึกการทำงานเป็นทีม ทำให้เกิดความสนิทสนมแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น คู่รักได้เห็นวิธีคิด ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหา ทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจ สร้างความผูกพันธ์
ส่วนหน่วยงาน บริษัท องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ escape room ในการสร้าง team building หรือแม้กระทั่งใช้พิจารณาในการรับคนเข้าทำงานโดยประเมินจากกระบวนการเล่น escape room วิธีการเล่น escape room มีความเป็นสากลทั่วโลก คือ ให้ผู้เล่นเข้าไปอยู่ในห้องปิดตาย ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันไขปริศนาจริงในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปริศนาคำถาม ปริศนารูปภาพ ปริศนาเสียง และกลไกจริงอื่น ๆ ภายในห้อง ประมาณ 8 – 12 ปริศนา เพื่อหาทางออกจากห้องภายในระยะเวลาที่กำหนด
อีกหนึ่งความแตกต่างของ escape room ที่ The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game ทำ คือการใช้ Game Master ที่เป็นผู้สูงวัยมาอำนวยความสนุก และดำเนินกิจกรรม เนื่องจากการส่งเสริมความสัมพันธ์คน 3 วัย เป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องทำให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ที่ปัจจุบันเป็นสังคมผู้สูงอายุ การใช้เครื่องมือ escape room มาเป็นสื่อกลางให้คนแต่ละวัยได้ร่วมพูดคุยกันผ่านเกม จึงช่วยสร้างความสนิทสนม และเปิดใจระหว่างคนต่างวัยได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้คนสูงวัยได้มีงานที่เป็นประโยชน์ทำ แต่ได้ออกมาเจอลูกหลาน เป็นการคืนความสดใส กระชุ่มกระชวย และเพิ่มพลังชีวิตได้อีกทาง
นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างงาน ให้กับผู้สนใจวัยเกษียณที่ต้องการเป็นแฟรนไชส์ สร้างห้อง Escape Room โดยใช้พื้นที่ว่างในบ้านให้เกิดประโยชน์และใช้แนวคิดและระบบการจัดการของ KID MAI ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ ให้กับเจ้าของสถานที่ได้อีกทางหนึ่ง
“ผมอยากเห็นคนไทยรักการเรียนรู้ และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในแวดวงต่าง ๆ ผมกล้ายืนยันว่า ศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยไม่แพ้ชนชาติใดในโลก หากได้รับการพัฒนาและสนับสนุนอย่างเหมาะสม ผมเชื่อว่า คนไทยก้าวไปในระดับโลกได้อย่างแน่นอน และหวังว่า The Last Prison Escape Room and Mystery Outdoor Game นี้ จะมีส่วนช่วยพัฒนาคน พัฒนาสังคมได้ไม่มากก็น้อย” ผศ.ดร.วีรณัฐ กล่าวทิ้งท้าย