สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยคณะบริหารธุรกิจ KMITL Business School (KBS) เปิดบ้านให้ความรู้โลกธุรกิจดิจิทัลกับคริปโตเคอร์เรนซีเพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในปัจจุบัน พร้อมส่องเทรนด์ตลาดสกุลเงินดิจิทัล จากนักศึกษาที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ Start Up ในธุรกิจดิจิทัลขณะที่ยังศึกษาอยู่ มาร่วมให้ข้อมูลในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินดิจิทัล แบ่งปันแนวคิดการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซี ในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
พร้อมเผยเทรนด์การลงทุนคริปโตเคอเรนซีในอนาคต และแนะนำเคล็ดลับการลงทุนให้ นักลงทุนหน้าใหม่อีกด้วย ในโอกาสงานเปิดอาคารเรียนใหม่ต้อนรับนักศึกษาในภาคการศึกษาใหม่นี้ มีห้องเรียนที่ทันสมัยกว่าเดิม และอุปกรณ์การเรียนที่ครบครันได้มาตรฐานสากล หลักสูตรที่เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมที่มีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อปั้นนักบริหารรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับอาเซียนและระดับนานาชาติ อันเป็นจุดแข็งของ คณะบริหารธุรกิจ สจล.
รศ.ดร.สุดาพร สาวม่วง คณบดีคณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า คณะบริหารธุรกิจ สจล. หรือ KMITL Business School (KBS) มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 40 ปี มีศักยภาพโดดเด่นในการสร้างนักบริหารรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับอาเซียนและระดับนานาชาติ โดยในปี 2565 คณะบริหารธุรกิจ สจล. ได้รับการจัดอันดับ เป็นอันดับที่ 83 ของโลกด้านบริหารธุรกิจที่ส่งเสริมผู้เรียนให้เป็นผู้ประกอบการ จาก World’s Universities with Real Impact : WURI เนื่องจาก คณะบริหารธุรกิจ สจล. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานในภาคธุรกิจ และองค์กรต่างๆ มากมาย มีห้องเรียน ห้องแลป พร้อมเครื่องมือการเรียนการสอนที่ทันสมัย ทั้งระบบออนไลน์และ ออฟไลน์ รองรับนักศึกษาได้จำนวนมาก
–KID MAI เปิดตัวนวัตกรรมการศึกษา แก้ปัญหาด้วยปรัชญาแนวพุทธ
คณะบริหารธุรกิจ สจล. เปิดสอนในระดับปริญญาตรี โท เอก ทั้งโปรแกรมภาษาไทย และ อินเตอร์ และหลักสูตรการอบรมผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น หลักสูตร Smart Supervisor ที่ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม หลักสูตรนักบริหารคิงบริดจ์ระดับสูง และ หลักสูตร Postdoctora ที่ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร เพื่อมุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถเริ่มต้นธุรกิจ Start up สร้างผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจตัวจริง
สำหรับอาคารเรียนหลังใหม่จะทำให้มีบรรยากาศการเรียนการสอนที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมที่มีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นจุดแข็งของ คณะบริหารธุรกิจ สจล. โดยการออกแบบพื้นที่ใช้งาน และสถาปัตยกรรมให้มีความเป็น International outlook ให้การมาเรียนที่ คณะบริหารธุรกิจ สจล. เสมือนเรียนอยู่ต่างประเทศ เนื้อที่ภายในอาคารกว่า 10,000 ตารางเมตร จำนวน 5 ชั้น ประกอบไปด้วย ที่ทำการสำนักงานคณบดี ห้องทำงานสายวิชาการ สายสนับสนุน ห้องเรียน ห้อง Smart classroom ห้องส่งเสริมการเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการ พื้นที่แสดงผลผลิต สิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์ โปรเจคจากการวิจัยของคณาจารย์ นักศึกษา ชุมชน ตลอดจนเป็นพื้นที่กิจกรรม ชมรมของนักศึกษาและห้องพักของคณาจารย์ รศ. ดร.สุดาพร กล่าวเพิ่มเติม
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี รักษาการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า คณะบริหารธุรกิจ ของ สจล. ออกแบบหลักสูตรที่มีความยืดหยุ่น ปรับให้เท่าทันกับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมพัฒนาให้เกิดหลักสูตรร่วมกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้หลักสูตรมีความทันสมัย ได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในโลกธุรกิจได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบาย “22 Quick Win ทำทันที” ที่พัฒนาหลักสูตรให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 สร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่นำไปต่อยอดในการทำงานจริง และสนับสนุนให้เกิดงานวิจัยที่มีคุณภาพนำไปพัฒนา ต่อได้
นอกจากนี้คณะบริหารธุรกิจ สจล. ยังมีหลักสูตรการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) ที่หลากหลายให้ผู้สนใจได้พัฒนาความรู้ด้านบริหารธุรกิจ สามารถเข้าร่วมคอร์สได้ตามความสนใจ คณะบริหารธุรกิจ สจล. มีคอร์สเรียนที่มีคุณภาพ และมีการจับมือกับภาคอุตสาหกรรมหลากหลายภาคส่วน เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้ตอบโจทย์กับภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบันมากที่สุด และเป็นหนึ่งในนโยบาย Global Innovation Index ด้วย
ฐิติพงศ์ ชมขุนทด นักศึกษาหลักสูตรเศรษฐศาสตร์บัณฑิต สาขาธุรกิจและการจัดการ เป็นนักศึกษาตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ Start Up ในธุรกิจดิจิทัลขณะที่ยังศึกษาอยู่ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินดิจิทัล เคยบรรยายให้ความรู้ด้านบล็อกเชน และคริปโตเคอร์เรนซี กับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่างๆ และยังได้รับรางวัลอีกมากมาย แสดงความเห็นเกี่ยวกับตลาดคริปโตเคอร์เรนซีว่า ตลาด คริปโตเคอร์เรนซี ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมากในปี 2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากสกุลเงินคริปโตได้รับการยอมรับจากภาครัฐในหลายประเทศ และผู้ประกอบการหลายรายยอมให้ใช้คริปโตชำระค่าสินค้าและบริการแทนเงินสดได้ ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาในตลาดจนเกิดเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ถึงแม้ตลาดคริปโตจะก่อให้เกิดเศรษฐีหน้าใหม่ แต่ก็ทำให้คนล้มละลายได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ลงทุนควรมีความรู้ ศึกษา ติดตามตลาดคริปโตอย่างใกล้ชิด
สำหรับแนวโน้มตลาดคริปโตครึ่งปีหลังนี้ ยังมีความผันผวนอยู่มาก ปัจจัยเสี่ยงหลักที่นักลงทุนพึงเฝ้าติดตาม คือ การประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อชะลอเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด และสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่อยากลงทุนในคริปโต ให้แบ่งสัดส่วนการลงทุนในตลาดคริปโตเพียง 10-15% ของการลงทุนทั้งหมด เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยงในระดับสูงได้ ไม่ควรกู้เงินมาลงทุน แนะนำให้กระจายการลงทุนในหลายเหรียญ อย่าเลือกลงทุนเพียงเหรียญเดียว เพื่อลดความเสี่ยงที่เหรียญอาจหมดมูลค่าได้