กระทรวงพลังงาน ประกาศความพร้อมจัดงาน “Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023”

กระทรวงพลังงาน ประกาศความพร้อมจัดงาน “Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023”

กระทรวงพลังงาน จับมือ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB และ ดีเอ็มจี อีเว้นท์ เตรียมจัด “การประชุมสุดยอดผู้นำระดับรัฐมนตรี”(Ministerial Energy Forum) ด้านพลังงานจากนานาประเทศ เพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงความสำคัญของการจัดตั้งแพลตฟอร์มระดับภูมิภาคเพื่อจัดการกับปัญหาด้านพลังงาน รวมถึงนโยบายและความสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากมุมมองของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานทั่วโลก รวมถึงเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระดับผู้นำระหว่างประเทศ ในการร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมพลังงานในภูมิภาคเอเชียสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมต่อไป ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดรัฐมนตรีดังกล่าวจัดขึ้นควบคู่กับงานประชุมด้านพลังงานและนวัตกรรมยานยนต์แห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ “Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023” ซึ่งมีกำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 17 – 19 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ทันตะ จุฬาฯ จับมือ ปตท. ต่อยอดเทคโนโลยีด้านทันตกรรม ยกระดับมาตรฐานการแพทย์ไทย

ศาสตราจารย์ ดร. พิสุทธิ์ เพียรมนกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า “กระทรวงพลังงาน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านพลังงานเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยการประชุมครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นพร้อมการจัดงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 เนื่องด้วยปัจจุบันเราอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลก ดังนั้นการประชุมดังกล่าวจึงถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยได้รับเกียรติจาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพลังงาน รวมไปถึงรัฐมนตรีและผู้นำด้านพลังงานทั่วโลกที่จะเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีความภูมิใจที่จะได้เป็นผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงสู่การพัฒนาด้านพลังงานอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปีพ.ศ. 2593 และตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 การจัดงานครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว พร้อมเป็นช่องทางในการแสดงศักยภาพและความทุ่มเทของประเทศไทยในการจัดทำโมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือ โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้เป็นอย่างดี”

สำหรับการจัดงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานรวมถึงหน่วยงานเอกชนด้านพลังงานทั้ง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นอกจากการจัดประชุมระดับรัฐมนตรี หรือ Ministerial Energy Forum ภายในงานยังมีการจัดการประชุมและนิทรรศการเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ที่มาพร้อมนวัตกรรมเด่น อย่างการดักจับไฮโดรเจนและคาร์บอน รวมไปถึงเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า สถานีชาร์จรถไฟฟ้า รวมไปถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยียานยนต์พลังงานสะอาดจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก ซึ่งการผนวกรวมการนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงานร่วมกับนวัตกรรมยานยนต์ จะนำมาสู่สุดยอดประชุมและการจัดแสดงแบบบูรณาการอย่างครบวงจร ที่ครอบคลุมการเปลี่ยนผ่านและการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและยานยนต์พลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะเดียวกันภายในงาน Future Energy Asia and Future Mobility 2023 ตลอดระยะเวลา 3 วัน ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมไฮไลท์ ประกอบด้วย

-นิทรรศการจัดแสดงนวัตกรรมจากบริษัทชั้นนำกว่า 300 แห่งจากกว่า 70 ประเทศ ตอบโจทย์ความสำคัญของภาคพลังงานเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานโลก และโซลูชันเพื่อปลดล็อกศักยภาพการลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศในอนาคต

-การประชุมเชิงกลยุทธ์ระดับสูงเกี่ยวกับพลวัตของตลาด และนวัตกรรมใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมพลังงาน รวมถึงศักยภาพของการใช้ไฮเดรเจนเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน การลดคาร์บอนในกระบวนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม การเร่งลงทุนในโปรเจคใหม่ การปลดล็อคเทคโนโลยีใหม่ในภาคพลังงาน การบุกเบิกการเปลี่ยนแปลงในตลาดก๊าซหุงต้ม รวมไปถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมพลังงานยุคใหม่

-การประชุมด้านเทคนิคกว่า 100 การประชุม รวมตัววิศวกรและผู้จัดการโครงการทั่วโลก ซึ่งจะร่วมแบ่งปันเทคนิคและความรู้ที่จำเป็นในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความคืบหน้าที่สำคัญในการลดคาร์บอนในห่วงโซ่คุณค่าพลังงาน

อย่างไรก็ตาม ได้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2573 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก โดยคาดว่าความต้องการพลังงานในภูมิภาคจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 3 เท่า ระหว่างปี
พ.ศ. 2556 – 2583 ส่งผลให้ภูมิภาคกลายเป็นศูนย์กลางการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ดังนั้นการจัดงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่ทำให้ประชาคมโลกสามารถเข้าถึงการเปลี่ยนผ่านห่วงโซ่คุณค่าของพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมพลังงานและยานยนต์ในประเทศและในระดับภูมิภาค พร้อมกันนี้การจัดงานดังกล่าวยังจะสามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายเกี่ยวกับด้านพลังงานอยู่ที่หลักร้อยล้านบาท ศ.ดร.พิสุทธิ์ กล่าวสรุป

ด้าน นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB) กล่าวว่า “สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ได้มีการริเริ่มแนวคิด “หนึ่งกระทรวง หนึ่งการประชุม” (One Ministry One Convention) นำมาสู่ความร่วมมือในการจัดการประชุม Inaugural Ministerial Energy Forum นอกจากนี้ เรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนการจัดงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 ที่จะถูกจัดควบคู่กันการการประชุมระดับรัฐมนตรี ถือเป็นอีกการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและหน่วยงานเอกชนในการจัดงานสำคัญระดับภูมิภาค หลังเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้มีการสะท้อนให้เห็นผ่านประเด็นสำคัญของการจัดการประชุมในปีนี้”

ขณะที่ มร. คริสโตเฟอร์ ฮัดสัน ประธานบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ โกลบอลล์ เอนเนอร์ยี กล่าวเสริมว่า “การสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและยานยนต์เพื่อพลังงานสะอาดทั่วโลก ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 และการสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่เราได้รับจากกระทรวงพลังงานและสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ในการทำให้พลังงานเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ ปลอดภัย และมีราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับทุกคนนับจากนี้”

สำหรับผู้ประสงค์เข้าร่วมงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 19 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://www.futureenergyasia.com/delegateregistration/ สำหรับตัวแทนองค์กร และที่ https://www.futureenergyasia.com/visitor-registration/ สำหรับบุคคลทั่วไป ตลอดจนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่าน https://www.futureenergyasia.com/ และช่องทางโซเชียลมีเดีย @futureenergyasia

Scroll to Top