Energy

หัวเว่ย เร่งผลักดันเทคโนโลยีพลังงานดิจิทัล พลิกโฉมอุตสาหกรรมพลังงานที่ยั่งยืนแห่งอนาคต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม ทั้งด้านการขับเคลื่อนนวัตกรรม การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการรับมือกับความท้าทายระดับโลก เช่น เรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน และเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจากภาวะโลกร้อน โดยหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในระดับแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนี้คือ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ผู้ให้บริการชั้นนําระดับโลกด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

ภายในงานสัมมนาธุรกิจ “EARTH JUMP 2023: New Frontier of Growth” ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกสิกรไทย ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เน้นย้ำถึงผลกระทบของเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีต่อพลังงานทางเลือกและศักยภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และได้กล่าวถึงงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยมากกว่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ทั่วโลกถึง 3-5 เท่า สิ่งนี้บ่งชี้ว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ได้อย่างยั่งยืนและชาญฉลาด

กฟผ. ยืนยันดำเนินการกรณีสัญญาซื้อไฟฟ้าเอกชนถูกต้องตามมติภาครัฐ

ในปัจจุบัน “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” กลายเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญผ่าน 2แนวทางหลัก อันได้แก่ การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัล และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งในความเป็นจริง 133 ประเทศใน 116 ภูมิภาคทั่วโลกได้ให้คำมั่นสัญญาคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero Carbon) โดยเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไปสู่การทำให้เป็นคาร์บอนต่ำและบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอน ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

อุตสาหกรรมดิจิทัล รวมไปถึงเทคโนโลยีไอซีที มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่น้อยกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยน่าจะมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เหลือแค่เพียง 1.97% จากอุตสาหกรรมทั้งหมดทั้งโลก และน่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในอุตสาหกรรมพลังงานได้มากถึง 12,000 ล้านตัน ภายในปี พ.ศ. 2573 นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้แก่อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ถึง 15% – 20% ดังจะเห็นได้จากกรณีตัวอย่างที่ใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้าและโดรนในการช่วยลดปริมาณการใช้ยาฆ่าแมลงได้ถึง 20 เท่าในประเทศสวีเดน และเทคโนโลยีผลิตความร้อนอย่างชาญฉลาดในเมืองฮาร์บิน ประเทศจีน สามารถช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานลงได้ถึง 12.5%ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนและความสามารถในการจัดการกับความท้าทายระดับโลก

หัวเว่ย ในฐานะผู้นำด้านพลังงานทดแทนของโลก มีความมุ่งมั่นที่จะ “สร้างเทคโนโลยีเพื่อโลกที่ดีกว่า” โดยได้นำความฉลาดจากเทคโนโลยี 5G Cloud และ AI เข้ามาผสานกับพลังงานดิจิทัล เพื่อรองรับการผลิตพลังงานที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ โดยหนึ่งในประเด็นหลักที่ หัวเว่ย ให้ความสำคัญคือภาคส่วนพลังงานจากแสงอาทิตย์ในประเทศไทย เนื่องด้วยประเทศไทยมีพื้นที่ที่มีแสงแดดเกือบทุกวันตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ดร.ชวพล ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า หากอาคารและบ้านเรือนต่างๆ ของประเทศไทยที่มีจำนวน 12 ล้านหลังคาเรือน เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์จากโซลาเซลล์เพียง 70% ก็จะทำให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้ารองรับได้ทั้งประเทศ สิ่งนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย รวมถึงบทบาทที่สำคัญของหัวเว่ยในการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพดังกล่าว

สำหรับประเทศไทยก่อนหน้านี้ หัวเว่ย ได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ซีคอน สแควร์ เพื่อติดตั้งหลังคาโซลาร์ขนาด 5 MWp  ซึ่งเป็นหนึ่งในฟาร์มโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ หลังคาโซลาร์ดังกล่าวได้ผลิตไฟฟ้าให้ซีคอนสแควร์ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2564 ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ หลังคาโซลาร์ขนาด 5 MWp ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 4,000 ตันนับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งาน ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 5,464 ต้น โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย

หัวเว่ย ไม่เพียงแต่ใช้เทคโนโลยีพลังงานดิจิทัลเพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเท่านั้น แต่ยังใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยในประเทศมาเลเซีย พื้นที่ 60% ของรัฐซาราวักปกคลุมด้วยป่าฝนเขตร้อนที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลกถึง 140 ล้านปี แต่การการตัดไม้ทำลายป่าและการเพาะปลูกได้คุกคามป่าฝนรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งหากป่าฝนยังคงไม่มีการป้องกันอาจทำให้รัฐซาราวักหายไปภายในเวลาเพียง 100 ปี โดยวิธีแก้ไขที่เกิดขึ้น คือ การติดตั้งเซ็นเซอร์เสียง “Guardian” ในป่าฝนเพื่อติดตามกิจกรรมของมนุษย์ที่อาจจะตัดไม้ทำลายป่าฝนได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงติดตามการใช้เลื่อยยนต์และยานยนต์ พร้อมบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบพฤติกรรมของสัตว์ โดยข้อมูลเสียงที่ได้จากการติดตั้งเซ็นเซอร์ถูกอัปโหลดไปยังระบบคลาวด์ผ่านเครือข่ายการสื่อสารที่มี AI วิเคราะห์ ก่อนจะส่งไปยังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าผ่านแอปพลิเคชันมือถือที่ชื่อว่า RFCx ซึ่งจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ทำให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าสามารถไปยังตำแหน่งที่เกิดภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว ในปัจจุบัน อุปกรณ์ดังกล่าวได้ครอบคลุมในโครงการที่มีพื้นที่อนุรักษ์ประมาณ 30 ตารางกิโลเมตรในรัฐซาราวัก และสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าสามารถสกัดกั้นเหตุการณ์ลักลอบตัดไม้ได้หลายครั้ง

“หัวเว่ย พร้อมสนับสนุนและเร่งสร้างความเติบโตในการใช้พลังงานทดแทนในประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แบบ Smart PV ทั้งในระดับองค์กรและระดับครัวเรือน ซึ่งการผลักดันที่มีศักยภาพจะต้องมีพาร์ทเนอร์ในประเทศที่แข็งแกร่ง โดยหัวเว่ยได้รับเกียรติจากธนาคารกสิกรไทย ผู้นำด้านโซลูชันด้านการเงินในประเทศไทย สำหรับการสนับสนุนด้านการเงินเพื่อติดตั้งแผงโซลาเซลล์ โดยหัวเว่ยมีเป้าหมายจะสนับสนุนโครงการจำนวน 30,000 โครงการภายในเวลา 3 ปี ข้างหน้า ซึ่งจะทำให้สามารถในการลดก๊าซคาร์บอนได้ถึง 265,000 ตัน นอกจากนี้ หัวเว่ยยังมีแผนสนับสนุนพาร์ทเนอร์ในประเทศไทยให้ได้อีกอย่างน้อย 500 องค์กร เพื่อผลิตบุคลากร 10,000 คน ในด้านเทคโนโลยีพลังงานดิจิทัล ส่งเสริมความยั่งยืนและเพิ่มมูลค่า GDP ภายในประเทศ โดยหัวเว่ย ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันพลังงานสีเขียว พันธมิตรชั้นนำด้านไอซีที และผู้พลิกโฉมสู่ความเป็นดิจิทัล พร้อมความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและสนับสนุนใช้พลังงานหมุนเวียน ผ่านการทำงานร่วมกับรัฐบาลและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อทำให้โลกของเราเป็นสถานที่ที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำดิจิทัลมาสู่ทุกคน ทุกบ้าน ทุกองค์กร เพื่อประเทศไทยอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างชาญฉลาดเต็มรูปแบบ พร้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา” ดร.ชวพล กล่าวสรุป

supersab

Recent Posts

“โค้ก” ซีโร่ กลิ่นวานิลลา: เขย่าตลาดเครื่องดื่ม เติมความซ่าส์ หอมหวานลงตัว เอาใจ Gen Z

โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…

12 hours ago

Epson ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นแท่นผู้นำคนใหม่

บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…

12 hours ago

รฟม. ลุยตรวจเข้ม ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีม่วง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…

13 hours ago

LINE MAN MART ผนึกกำลัง Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายบริการช้อปปิ้งออนไลน์สู่ 1,400 สาขา จัดเต็มส่วนลดสุดปังทุกสัปดาห์!

LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…

17 hours ago

พฤกษา จับมือ รพ.วิมุต มอบสิทธิพิเศษดูแลสุขภาพลูกบ้านตลอดปี 2568 ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ สร้างชุมชนสุขภาพดี

พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…

17 hours ago

HONOR Magic7 Pro 5G ยอดขายพุ่งทะยาน 2.4 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นเทคโนโลยี AI

ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…

17 hours ago