Finance

แรบบิท แคร์ ตั้งเป้ารายได้ 3 พันล้านภายในปีนี้ เดินหน้าพัฒนา CareOS ตอบโจทย์ลูกค้าประกัน-บัตรเครดิต

แรบบิท แคร์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม InsurTech และ FinTech ออนไลน์ของประเทศไทย ตั้งเป้า-เบี้ยประกันรายได้อยู่ที่ 3 พันล้านบาท ภายในปี 2565 หลัง 8 เดือนแรกทำรายได้แล้วกว่า 2 พันล้านบาท ล่าสุดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการเทปรียบเทียบผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตผ่าน CareOS คาดจะมียอดสมัครบัตรเครดิตกว่า 300,000 ใบภายในสิ้นปี 2565

ไมเคิล มันเฟรด สไตรเบิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แรบบิท แคร์ มองว่า ปีนี้เป็นปีที่น่าตื่นเต้น มีความท้าทาย แต่แรบบิท แคร์ ยังมุ่งมั่นจะขึ้นเป็นท็อป 3 ของแพลตฟอร์มประกันในไทย ปัจจุบันครอบคลุมการขายประกันรถยนต์ ประกันชีวิต สินเชื่อ และยังมีเครดิตการ์ดเข้ามาเสริม มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการกว่า 500 คน

สำหรับ CareOS นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่แรบบิท แคร์ ใช้งบลงทุนไปแล้วกว่า 300 ล้านบาท พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงใช้สร้างแคมเปญการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ มากขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักที่ แรบบิท แคร์ ต้องการเข้าถึง คุณไมเคิล เรียกกลุ่มเป้าหมายนี้ว่า CFO หรือ Chief Family Officer คือผู้บริหารครอบครัว เป็นผู้ที่ตัดสินใจด้านการเงิน รับผิดชอบสิ่งต่างๆ ในครอบครัว ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะเข้ามามีบทบาทตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ประกันให้กับครอบครัว

ด้าน ชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเชิงพาณิชย์ แห่ง แรบบิท แคร์ กล่าวว่า “ปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ใหญ่ที่สุด มีลูกค้ากว่า 20 เจ้าให้ลูกค้าเปรียบเทียบได้ ด้านประกันสุขภาพ มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมอุบัติเหตุ โรคร้ายแรง สำหรับประกันชีวิตของเรานั้นครอบคลุมไปถึงการเดินทาง และยังมีประกันองค์กร ที่เข้ามาดูแลองค์กรต่างๆ ประกันด้านก่อสร้าง

AIS จับมือ 3 กระทรวงใหญ่ และ มจธ. เปิดหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” ตั้งเป้าสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์เยาวชนไทย 5 ล้านคน

ด้านสินเชื่อ ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบบัตรเครดิต ว่าโปรไฟล์ของลูกค้าเหมาะกับบัตรชนิดใดธนาคารใด ซึ่งเราร่วมมือกับ 6 ธนาคารชั้นนำอย่าง KTC, citi, Kbank, ttb, BBL และ American Express ครอบคลุม 30 บัตรเครดิต ซึ่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้สมัครบัตรเครดิตกว่า 30,000 คน และได้รับอนุมัติไป 6,000 คน”

ชยพัทธ์ มองว่า ปัจจัยที่แรบบิท แคร์ ประสบความสำเร็จนั้นมาจาก 3 ประเด็นดังนี้

1.การทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้า และตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูลอยู่เสมอ ซึ่งมีความแตกต่างจากลูกค้ารายอื่นในตลาด

2.CareOS เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถับคู่ลูกค้าเข้ากับคุณสมบัติของบัตรเครดิต

3.บูรณาการพาร์ทเนอร์ ที่เชื่อมโยงแรบบิท แคร์ กับ พาร์ทเนอร์ต่างๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ

“เรายังมุ่งมั่นให้บริการลูกค้า ผ่านการเก็บข้อเสนอแนะต่างๆ มาปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นไป” ชยพัทธ์ กล่าว

CareOS ทำไมถึงแตกต่าง

CareOS เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยี FinTech แบบเว็บเบส ที่บูรณาการข้อมูลด้านธุรกรรมการเงินและประกันภัยที่ใช้นักพัฒนาเกือบ 100 คน ลงทุนไปกว่า 300 ล้านบาท ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากถึง 4 หมื่นแผน โดยลูกค้าสามารถเลือกความต้องการเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม

อังเดร โอลิเวอร์ เพรนซโลว์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ แห่ง แรบบิท แคร์ เล่าถึงความแตกต่างว่า CareOS เป็นแพลตฟอร์มที่บริษัทพัฒนาเอง โดยใช้ AI คัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า และยังเป็นระบบเดียวที่สามารถแจงค่าใช้จ่ายจริงกับลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตร เพื่อตรวจสอบสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจริงอยู่เสมอ

“เรามีคนคัดเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกันก่อนจะเอาเข้ามาอยู่ในระบบ มีช่องทางการเงินหลายช่องทาง สามารถผ่อนจ่ายได้ และได้กรมธรรม์ทันที ซึ่งเป็นเอกลักาณ์ของเรา” อังเดร กล่าวเสริม

หลังจากนี้ แรบบิท แคร์ ยังเดินหน้าขยายพันธมิตรมากขึ้น เตรียมเพิ่ม Product Add-on ซึ่งล่าสุดได้เปิดฟีเจอร์ Customer Care Portal ที่ลูกค้าสามารถติดตามสถานะการซื้อผลิตภัณฑ์ และดูความครอบคลุมการคุ้มครองของกรรมธรรม์ประกัน รวมถึงการจัดส่งสินค้าได้ผ่านระบบออนไลน์

สำหรับด้านการระดมทุน ในรอบ Series C ได้ Winter Capital เป็นบริษัทการลงทุนในตราสารทุนเติบโตจากอาบูดาบี เป็นผู้ร่วมทุนใหม่ นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมทุนเก่าอย่าง VGI บริษัทในเครือ BTS และมีบริษัทชื่อดังอย่าง Samsung Venture Investment เข้าร่วมทุนด้วย

supersab

Recent Posts

SPU ชี้ Cold Chain ดาวรุ่งอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย แนะสร้าง “คน” หนุนศักยภาพพร้อมบุกตลาดโลก

วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรม Cold Chain Logistics หรือการจัดการขนส่งและจัดเก็บสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิ กำลังกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุคในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั่วโลก ด้วยมูลค่าตลาดที่คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 1,122 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2033 พร้อมอัตราการเติบโตเฉลี่ยทบต้นต่อปี…

16 minutes ago

Jubilee เดินหน้ารุก Collaboration ออกแบบคอลเลคชันมัดใจลูกค้า Gen Z

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมผู้บริโภคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด แบรนด์เครื่องประดับเพชรอย่าง Jubilee Diamond กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการปรับตัวเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่นี้ ด้วยสินค้าที่มีราคาสูงและภาพลักษณ์ที่เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีฐานะ Jubilee จึงต้องพลิกกลยุทธ์เพื่อเข้าถึง Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต…

34 minutes ago

KCG ผนึกกำลัง กทม. เปิดโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2” จุดไฟฝันผู้ประกอบการรายย่อย ปั้นร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นไลฟ์

เคซีจี คอร์ปอเรชั่น หรือ KCG จับมือ กรุงเทพมหานคร เปิดตัวโครงการ "จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2" อย่างเป็นทางการ ต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา โครงการนี้มุ่งเน้นการเสริมศักยภาพผู้ประกอบการรายย่อยในแวดวงอาหารและเบเกอรี่ ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในยุคโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ และร่วมกันขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน…

46 minutes ago

สวทช. จัดงาน NAC2025 สุดยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย AI เพื่ออนาคตประเทศไทยที่ยั่งยืน

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ครั้งที่ 20 (20th NSTDA Annual Conference: NAC2025)…

1 hour ago

ดีป้า เตรียมจัด “Thailand Digital IP Forum 2025” จุดประกายไอเดียคนไทย รับมือยุค AI ครองโลก

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เตรียมจัดงาน Thailand Digital IP Forum 2025 อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด Cracking IP Challenges in the…

2 hours ago

ไปรษณีย์ไทย เปิดตัวบริการใหม่ “EMS ส่งด่วนผลไม้” ทั่วไทย ราคาเริ่มต้น 60 บาท

ไปรษณีย์ไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านบริการขนส่ง พัฒนาบริการใหม่ล่าสุด "EMS ส่งด่วนผลไม้" ราคาเริ่มต้น 60 บาท เอาใจคนรักผลไม้และผู้ประกอบการที่ต้องการส่งผลไม้สดใหม่ถึงมือผู้รับทั่วประเทศอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด…

2 hours ago