fintips by ttb ชวนปรับเปลี่ยนมุมคิดกับ 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการซื้อ “ประกัน”

fintips by ttb ชวนปรับเปลี่ยนมุมคิดกับ 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการซื้อ “ประกัน”

แม้ช่วงโควิด-19 จะทำให้คนไทยสนใจทำ “ประกัน” มากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนมองว่าประกันไม่ใช่สิ่งจำเป็น!

โลกทุกวันนี้มีความเสี่ยงอยู่รอบด้าน การมีประกัน จึงถือเป็นเครื่องมือทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่ช่วยเราบริหารความเสี่ยงในชีวิตเราได้ ทำให้เป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ไม่ติดขัด และที่สำคัญการมีประกันที่พอดีกับชีวิตของเรา เหมาะสมกับตัวเองในแต่ละช่วงวัยก็จะทำให้ชีวิตการเงินของเราราบรื่นตามแผนที่วางไว้ได้หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

วันนี้ “fintips by ttb” จึงชวนทุกคนที่สนใจที่จะทำประกันมาเช็กไปพร้อม ๆ กัน ว่ายังมีความเชื่อใดที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับประกันอยู่บ้าง เพื่อชวนปรับเปลี่ยนมุมคิดกับ 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการซื้อ “ประกัน” เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

1.อายุน้อย ไม่มีภาระทางบ้าน ไม่ต้องซื้อประกันชีวิตเดี๋ยวไม่คุ้ม!

การซื้อประกันชีวิตเป็นการป้องกันความเสี่ยง จึงไม่ควรมุ่งเน้นเรื่อง “ความคุ้มค่า” เพียงอย่างเดียว ประกันชีวิต จำเป็นสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะอายุยังน้อย หรือไม่ได้เป็นเสาหลักของบ้าน แต่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันย่อมส่งผลกระทบไปถึงครอบครัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้การซื้อประกันตั้งแต่อายุน้อยนับว่าเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัว และตนเองได้เช่นกัน เพราะถ้าซื้อไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย ค่าเบี้ยประกันก็จะถูกกว่าตอนที่อายุมากขึ้นแล้ว

FWD ประกันชีวิต แนะนำประกันสะสมทรัพย์ 18/7 Return Plus ชูจุดเด่นเงินคืนทุกปีพร้อมโอกาสรับเงินปันผล

ส่วนเรื่องภาษีนั้น เป็นความเข้าใจผิด ที่คิดว่าประกันชีวิตทุกชนิดจะสามารถหักกับรายได้เพื่อลดหย่อนภาษีได้ ความจริงแล้ว ประกันที่สามารถหักรายได้เพื่อลดหย่อนภาษีได้ต้องเป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป

2.ไม่ต้องทำประกันบำนาญ รอให้ลูกหลานดูแลวัยเกษียณ

ไม่ว่าจะโสด หรือมีครอบครัว ในวัยหลังเกษียณก็ควรต้องดูแลการเงินของตัวเองให้ได้ การวางแผนเกษียณจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน หากเตรียมพร้อมทำประกันบำนาญไว้อย่างรอบคอบ จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้ แม้วันที่ไม่มีรายได้ก็สามารถมีเงินใช้จ่ายได้อย่างไม่ลำบาก

3.ประกันสวัสดิการที่ได้จากบริษัท ยังไงก็พอ!

ประกันสังคม ประกันที่ได้จากบริษัท หรือที่นายจ้างทำให้ ความคุ้มครองเหล่านี้จะมีผลตอนที่เราทำงานอยู่กับบริษัทเท่านั้น หากวันใดลาออก หรือตกงาน ชีวิตของเราก็แทบไม่มีหลักประกัน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับอนาคต พนักงานที่ได้รับเงินเดือนจึงควรซื้อประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุของตัวเองไว้บ้าง แม้ในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝันก็ยังมีประกันที่เราซื้อไว้รับความเสี่ยงแทน

4.ทำประกัน เลือกแบบจ่ายเบี้ยประกันสั้น ๆ แค่ลดหย่อนภาษีได้ก็พอ

การซื้อประกันโดยมีจุดประสงค์เพื่อลดหย่อนภาษีไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่ามองข้ามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการทำประกันชีวิต ซึ่งก็คือ “การคุ้มครองความเสี่ยง” ดังนั้น ในการทำประกันจึงควรพิจารณาถึงวัตถุประสงค์หลักก่อน โดยดูว่ามีความเสี่ยงด้านใดบ้าง และอยากได้ความคุ้มครองในด้านใดบ้าง เช่น

  • ความเสี่ยงในการจากไปก่อนวัย ควรเลือกเน้นความคุ้มครองชีวิต (แบบตลอดชีพ, ชั่วระยะเวลา)
  • ปิดความเสี่ยงที่จะมีเงินไม่แน่นอนในอนาคต ควรเลือกประกันชีวิตแบบเน้นออมเงิน

5.ประกันรถยนต์ คุ้มครองเฉพาะรถเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น

ไม่จริงเสมอไป ประกันรถยนต์บางประเภทยังคุ้มครองรถจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไฟไหม้ การโจรกรรม ต้นไม้ล้ม และความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม รวมถึงให้ความคุ้มครองคนขับและผู้โดยสารอีกด้วย

นี่คือ 5 ความเชื่อเกี่ยวกับ “ประกัน” ที่คนมักเข้าใจผิด เมื่อสำรวจตัวเองเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องประกันที่ถูกต้องแล้ว และมาเริ่มต้นปรับเปลี่ยนความคิด และนำมาใช้ประโยชน์สำหรับการเลือกประกันที่เหมาะสมกับตัวเองก็จะช่วยทำให้มีชีวิตการเงินที่ดีขึ้นและเป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน

Scroll to Top