นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวถึงผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ว่า ผลประกอบการโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีผลเรียกเก็บ 7,357 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีผลเรียกเก็บ 4,127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ที่มีผลเรียกเก็บ 3,230 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28% และมีกำไร 425 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 59% จากไตรมาสที่ 1 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 267 ล้านบาท
ด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือ NPL ในครึ่งปีแรก BAM สร้างผลเรียกเก็บด้วยกลยุทธ์การสร้างโอกาสและเร่งการประนอมหนี้ ได้แก่ โครงการช่วยเหลือลูกหนี้หลายโครงการ เช่น โครงการสุขใจได้บ้านคืน โครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ และโครงการ BAM ช่วยลดเพื่อปลดหนี้เกษตรกร รวมทั้งการเร่งการติดต่อลูกหนี้ และเร่งกระบวนการขายทอดตลาด เช่น แถลงเร่งประกาศขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกัน แถลงเร่งจัดทำบัญชีแสดงรายการรับจ่ายเงิน และร่วมมือกับกรมบังคับคดีจัดมหกรรมขายทอดตลาด เป็นต้น
พร้อมกันนี้ BAM ยังได้ช่วยเหลือลูกหนี้ที่เปรียบเสมือนฮีโร่ของสังคมไทย ซึ่งได้เสียสละเวลาพักผ่อนเวลาส่วนตัวและความสะดวกสบายมาแก้ไขปัญหาในช่วงที่เกิดโรคระบาดและสาธารณภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล ตำรวจ ทหาร ครู และ อสม. ภายใต้โครงการ BAM for Thai Heros โดยในช่วงครึ่งปีแรกสามารถดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ไปได้เป็นจำนวน 82 ราย คิดเป็นยอดประนอมหนี้ 131 ล้านบาท และยังได้เตรียมให้สิทธิพิเศษสำหรับฮีโร่ดังกล่าวที่ซื้อทรัพย์สินรอการขายของ BAM อีกด้วย
ขณะที่การบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA BAM ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง โดยการออกบูธและจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อสร้างยอดเสนอซื้อ การจัดการทรัพย์ให้พร้อมขาย (Renovate) การจำหน่ายทรัพย์ให้นักลงทุนรายย่อย ตลอดจนการกำหนดทรัพย์ราคาพิเศษ และการเพิ่มฐานลูกค้าผ่อนชำระอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ผ่านมา BAM ได้ทำหน้าที่เสมือนแก้มลิงที่ช่วยรองรับหนี้เสียของสถาบันการเงิน นำมาบริหารจัดการและแก้ไขให้กลายเป็นหนี้ดีกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ และยังทำหน้าที่ฟื้นฟูอสังหาริมทรัพย์มือสองที่เป็นทรัพย์สินรอการขายของบริษัทฯ ให้มีมูลค่าเพิ่มและเป็นที่ต้องการของตลาด ที่ผ่านมา BAM สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้ข้อยุติในการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 146,121 ราย คิดเป็นภาระหนี้ 466,871 ล้านบาท และสามารถจำหน่ายทรัพย์ไปแล้ว จำนวน 49,216 รายการ คิดเป็นราคาประเมิน 107,319 ล้านบาท ปัจจุบัน BAM มี NPL อยู่ในความดูแล คิดเป็นภาระหนี้รวม 481,578 ล้านบาท และ NPA มูลค่าราคาประเมิน 69,275 ล้านบาท
นายบัณฑิต ยังได้กล่าวถึงกลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ว่า BAM ยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่องด้วยการบริหารจัดการ NPL หลากหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการ Knock Door การพัฒนาแอพพลิเคชั่น BamGo Digital เพื่อสร้างระบบการให้บริการประนอมหนี้ออนไลน์ (E-TDR) ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ภายในปลายปี 2566 พร้อมทั้ง การบริหารจัดการ Clean Loan เพื่อสร้างผลเรียกเก็บได้โดยเร็ว ส่วนการบริหารจัดการ NPA นั้น BAM ได้ทำการคัดทรัพย์ราคาพิเศษกว่า 10,000 รายการ เพื่อจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดจำหน่ายทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการครบเครื่องเรื่องบ้าน by BAM โครงการ BAM for Thai Heroes และเตรียมจัดมหกรรมจำหน่ายทรัพย์ในโอกาส BAM ก้าวสู่ปีที่ 25 ในช่วงปลายปีนี้ พร้อมทั้ง ยังแสวงหาโอกาสในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าทรัพย์สินรอการขาย และการปรับรูปแบบธุรกิจ ซึ่งจะช่วยทำให้ BAM สามารถสร้างผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 17,800 ล้านบาท
ด้าน นายสันธิษณ์ วัฒนกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทำหน้าที่ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงิน (CFO) เปิดเผยว่าการรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเพื่อขยายพอร์ตในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 BAM ได้เข้าประมูลซื้อหนี้ NPL มาบริหารจัดการ คิดเป็นภาระหนี้ (เงินต้นบวกดอกเบี้ย) รวม 22,408 ล้านบาท มีการเติบโตสูงถึง 296% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันกับปี 2565 ที่มีการซื้อทรัพย์มาบริหาร 5,658 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสถาบันการเงินมีการทยอยนำ NPL ออกมาประมูลขายในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยอยู่ระหว่างรอผลการประมูลและการทำ Due Diligence คิดเป็นภาระหนี้ 71,203 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาพรวม NPLในระบบสถาบันการเงิน ณ ไตรมาสที่ 1 มีจำนวน 497,952 ล้านบาท คิดเป็น 2.67% ของสินเชื่อรวมในระบบสถาบันการเงิน จึงเป็นโอกาสที่ BAM จะเข้าประมูลซื้อ NPL เข้ามาบริหารจัดการต่อไป
เซ็นทรัลพัฒนา รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ทำรายได้รวม 12,284 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,126 ล้านบาท ผนึก 'ฮิลตัน' เปิดตัวโรงแรมใหม่ "ฮิลตัน…
นายธีรยุทธ ศักดิ์วิลาสตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มทรัพยากรบุคคล รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคลบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ารับมอบใบรับรอง CAC Certified จาก นายทศพร รัตนมาศทิพย์ กรรมการ CAC ในงาน CAC Certification Ceremony ครั้งที่ 2/2024 ภายใต้แนวคิด…
ไปรษณีย์ไทย เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอีคอมเมิร์ซและการค้าระหว่างประเทศจากไทยสู่เวียดนาม โดยมุ่งใช้ 3 เส้นทางการขนส่งที่สำคัญ ได้แก่ เส้นทางอากาศ เส้นทางภาคพื้น และทางราง พร้อมจับมือการไปรษณีย์เวียดนามพัฒนาบริการไปรษณีย์ภายใต้กรอบความร่วมมือของการไปรษณีย์อาเซียน (ASEANPOST) เดินหน้ายกระดับอีคอมเมิร์ซของทั้ง 2 ประเทศ เตรียมนำสินค้าเมดอินไทยแลนด์และเวียดนาม…
งานวิจัยล่าสุดจากแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวอโกด้าเผยว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายใน 2 ปีหลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ งานวิจัยเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งจัดทำโดยอโกด้าร่วมกับบริษัท Access Partnership ได้ประเมินถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยจะได้รับจากการบังคับใช้กฎหมายสมรสเพศเดียวกันในวันที่ 22 มกราคม 2568 โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รับรองกฎหมายนี้ และเป็นประเทศที่สามในเอเชีย รองจากไต้หวันในปี 2562 และเนปาลเมื่อปีที่แล้ว กฎหมายดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ประเทศไทยดึงดูดนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี รายงานยังได้คาดการณ์ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะแพร่กระจายไปสู่เศรษฐกิจไทยในวงกว้างจากการบังคับใช้กฎหมายนี้ โดยคาดว่าใน 2 ปี จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมากดังนี้ เพิ่มรายรับจากการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยกระจายไปยังหลายภาคส่วน…
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม Oil & Gas Refinery and Marketing จากการประเมินของ S&P Global…
• ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่’ มาพร้อมราคาแนะนำช่วงเปิดตัว 899,000 บาท* ในรุ่น e:HEV E จำนวนจำกัด เพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยมาพร้อมข้อเสนอรับฟรีประกันภัย…