LHFG เผยครึ่งแรกปี 2566 กำไรเติบโตร้อยละ 61.3 รุกกลุ่ม Higher yield ปั้นพอร์ต Trade Finance

LHFG เผยครึ่งแรกปี 2566 กำไรเติบโตร้อยละ 61.3 รุกกลุ่ม Higher yield ปั้นพอร์ต Trade Finance

กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHFG) เผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2566 กำไรเติบโตร้อยละ 61.3 รุกกลุ่ม Higher yield ปั้นพอร์ต Trade Finance เดินหน้ามอบบริการที่ดีเหนือความคาดหมาย

ฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ขยายตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ขยายตัวดีทั้งการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนใหม่ๆ ที่ครบวงจร และการ Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน และการสนับสนุนจาก CTBC Bank ผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เติบโตได้ดี

Visa ผนึกกำลัง SAP เพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงินสำหรับองค์กรให้ดียิ่งขึ้น

ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 มีสินทรัพย์สุทธิ 292,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานสุทธิ 1,201.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทิศทางธุรกิจในครึ่งปีหลังกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เน้นให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Banking การดำเนินธุรกิจอย่างมีสำนึกและมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลที่ดี การออกผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ

ชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 เป็นไปตามแผน โดยธนาคารมุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นหรือกลุ่ม Higher Yield มีการขยายสัดส่วนสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล ภายใต้การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโตมากกว่าร้อยละ 16 จากสิ้นปี 2565 รวมถึงการขยายฐานลูกค้ารายย่อยผ่านช่องทางดิจิทัลโดย Mobile Application LHB YOU ที่ตอบโจทย์ การใช้งานของลูกค้าแต่ละบุคคล การออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก B YOU MAX ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยการนำเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ และปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างพัฒนาช่องทางการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านทาง LHB You Mobile banking ซึ่งคาดว่าจะให้บริการภายในปีนี้ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการสินเชื่อบุคคลได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว

ในส่วนของลูกค้าธุรกิจ ธนาคารมุ่งเน้นให้ลูกค้าใช้ LH Bank เป็น Operating Bank มากขึ้น การประสานการทำงานและทำการตลาดร่วมกันของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน เพื่อใช้ฐานลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ธนาคารยังคง ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลที่ยังฟื้นตัวไม่ได้เต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 ให้สอดคล้องกับปัญหาและสถานะของลูกค้าแต่ละรายเพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด รวมถึงสนับสนุนกลุ่มลูกค้า SME ที่กำลังขยายธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนี้ ธนาคารได้นำความเชี่ยวชาญจาก CTBC Bank มาพัฒนาและต่อยอดด้านบริการ Trade Finance และ Global Markets เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวมถึงธนาคารยังมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีด้วย Digital Transformation และการนำระบบ Robotic Process Automation มาช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการนำ Data analytic tools ต่างๆ มาใช้งานในการขยายฐานลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานสุทธิจำนวน 943.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 119.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตดีของรายได้ดอกเบี้ย รวมถึงการควบคุมและบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย และบริหารความเสี่ยงได้ดี ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 และธนาคารได้ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตจำนวน 1,011 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 24 ซึ่งธนาคารยังคงตั้งสำรองตามหลักความระมัดระวังเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อ และรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ส่งผลให้ธนาคารมีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (Coverage Ratio) ที่แข็งแกร่งที่ร้อยละ 229 ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อ ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 2.3 สำหรับด้านเงินกองทุนยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 15.8 อยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

เดินหน้าเพิ่มการประกอบธุรกิจทรัสตี

มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund เปิดเผยว่ากลยุทธ์ครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทยังคงเน้นขยายฐานลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล ทั้งสถาบันและลูกค้ารายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้ปรับการดำเนินการในการบริหารกองทุนโดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับเปลี่ยนกองทุนหลัก (Master Fund) ในหลายกองทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบันและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลการดำเนินงานที่ดีกว่าเดิม ส่วนกองทุนหุ้นไทยและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/REIT ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อบริการสมาชิกในรูปแบบ Target Date (Life Path) หรือการลงทุนที่ปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนแบบอัตโนมัติ

แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเพิ่มการประกอบธุรกิจทรัสตี ซึ่งปัจจุบันบริษัทปฏิบัติหน้าที่ทรัสตีของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเพิ่มการประกอบธุรกิจทรัสตีของทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน (Private Equity Trust) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Trust) และทรัสต์สำหรับธุรกรรมการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ (Trust for Real Estate – Backed ICO)

กานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ว่าถือเป็นปีที่ยากสำหรับภาคธุรกิจการลงทุนเป็นผลจากบรรยากาศการลงทุนที่ถูกกดดันจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะข่าวของหลักทรัพย์บางตัวที่ส่งผลกระทบต่อ Sentimental ของตลาด อย่างไรก็ดี บริษัทยังสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้จำนวน 296.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามปริมาณการซื้อขายที่ซบเซาเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในปี 2565 โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 ปิดที่ 1,503.10 จุด ด้วยมูลค่า การซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงมากถึง 33% อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้จากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจนายหน้า เช่น รายได้ดอกเบี้ยรับและเงินปันผลรวม 224 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 88.4 ล้านบาท

สำหรับครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทยังมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้า การพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมกับความผันผวนของตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อปรับโครงสร้างรายได้ให้มีความแข็งแกร่งรองรับการชะลอตัวของปริมาณการซื้อขายที่ซบเซา ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งพัฒนาการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะการเชื่อมโยงระบบกับ Mobile Banking Application “LHB You” ของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อย อีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ลูกค้าได้รับความสะดวก และรวดเร็ว รวมทั้ง บริษัทให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนการดำเนินธุรกิจอย่างมีสำนึกและมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี

Scroll to Top