Visa ประกาศความร่วมมือกับ SAP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนให้การชำระเงินแบบ B2B สำหรับองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมถึงขนาดใหญ่ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหากำไร ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนับเป็นครั้งแรกในโลก โดยมีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นผู้นำที่ วีซ่า และ SAP หนึ่งในผู้นำตลาดซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันระดับองค์กรชั้นนำของโลกได้ผนึกกำลังเพื่อนำนวัตกรรมด้านการชำระเงินเข้ามาในอีโคซิสเต็มของ SAP ผ่าน SAP Business Technology Platform (SAP BTP)
–Sunday ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ Digital Twin สร้าง Preventive Healthcare ย้ำแนวคิดประกันภัยต้องไม่เหมือนเดิม
บริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลกกว่า 99% เป็นลูกค้าของ SAP โดยความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ วีซ่า และ SAP ในการวางรากฐานของบริการทางการเงินแบบฝังตัว (Embedded Finance) ในตลาด B2B ซึ่งช่วยผนวกกระบวนการการชำระเงินเข้าไปในกระบวนการดำเนินธุรกิจ โดย วีซ่า คาดว่าโอกาสในการเปลี่ยนกระแสการชำระเงินระหว่างองค์กร ให้เป็นดิจิทัลทั่วเอเชียแปซิฟิกในปัจจุบันนั้นมีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับ วีซ่า การประกาศความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์เพื่อขยายธุรกิจไปยังกลุ่ม B2B ด้วยการสนับสนุนการเคลื่อนที่ของเงินในขอบข่ายที่กว้างขึ้นไปยังการทำธุรกรรมระหว่างบุคคล ธุรกิจ และรัฐบาล นอกเหนือจากการจับจ่ายทั่วไปของผู้บริโภค ซึ่งกลยุทธ์นี้ยังรวมถึงกระแสลูกหนี้และเจ้าหนี้การค้า โซลูชันการชำระเงินสำหรับองค์กรผ่านบัตร และการชำระเงินระหว่างประเทศ
สตีเฟน คาร์พิน ประธานบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของวีซ่า กล่าวว่า “การเคลื่อนที่เงินกำลังกลายเป็นดิจิทัลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่เท่าที่ผ่านมาเกิดในหมู่ผู้บริโภคเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเรื่องเร่งด่วนที่สำคัญคือช่วยยกระดับการชำระเงินขององค์กรให้มีความทันสมัยและสร้างประสบการณ์การชำระเงินแบบ B2B ให้ดียิ่งขึ้น การร่วมมือกับ SAP ครั้งนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญที่ทำให้การชำระเงินแบบ B2B ลดความซับซ้อนลงและใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นจากการที่องค์กรต่างๆ สามารถทำการชำระได้ทันทีด้วยบัตรวีซ่าเพื่อธุรกิจบนแพลตฟอร์มของ SAP แทนที่จะต้องให้แต่ละองค์กรหาวิธีการชำระเงินที่ผู้ขายยอมรับ การชำระเงินแบบ B2B นั้นควรจะต้องง่ายต่อการใช้งาน รวดเร็ว และไม่ซับซ้อน ซึ่งจะทำให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้เวลาและทรัพยากรกับเรื่องอื่นที่สำคัญต่อการสร้างธุรกิจ”
สำหรับ SAP สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าที่ใช้ซอฟท์แวร์ของ SAP ในการดำเนินธุรกิจ การใช้บริการการชำระเงินของ Visa บนแพลตฟอร์ม SAP BTP เป็นการส่งมอบความสะดวกในบริการชำระเงินของวีซ่าให้แก่ลูกค้าของ SAP การทำให้ระบบชำระเงินเป็นอัตโนมัติยิ่งขึ้นจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเดินหน้าเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ในขณะที่เรื่องของการชำระเงินก็สามารถทำได้อย่างปลอดภัยในเวลาที่รวดเร็ว
พอล แมริออท ประธานกรรมการ SAP ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ความร่วมมือของเรากับวีซ่าเป็นความพยายามที่จะปรับปรุงและลดความซับซ้อนของกระบวนการชำระเงินแบบ B2B ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าของพวกเราดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การฝังระบบชำระเงินของวีซ่าเข้าในอีโคซิสเต็มของ SAP เป็นไปเพื่อยกระดับและขับเคลื่อนการค้าดิจิทัลให้เจริญรุดหน้า และยังสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรทั้งหลายตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดเล็กไปจนถึงหน่วยงานภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหากำไรให้สามารถทำการชำระเงินด้วยความปลอดภัยได้ในไม่กี่ขั้นตอน ที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของขั้นตอนท้ายสุดในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง”
โซลูชันการเงินแบบฝังตัวนี้จะเปิดให้บริการแก่ลูกค้า SAP ในประเทศออสเตรเลีย อินดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยมีแผนการที่จะขยายบริการไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ต่อไป
Business Technology Platform ของ SAP (SAP BTP) คือนวัตกรรมแพลตฟอร์มที่รวบรวมแอปพลิเคชันของ SAP ด้านการข้อมูลและการวิเคราะห์ การบูรณาการ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าไว้ด้วยกัน บนระบบคลาวด์ โดยความร่วมมือที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ทั้งวีซ่าและ SAP จะช่วยประสานช่องว่างของเงินทุนหมุนเวียนในห่วงโซ่อุปทาน ด้วยชุดโปรแกรม Commercial & Money Movement Solutions ที่วีซ่าจะใช้แพลตฟอร์ม SAP BTP เป็นเส้นทางให้องค์กรชำระเงินแก่ซัพพลายเออร์ได้ไม่ว่าปลายทางจะรับการชำระด้วยบัตรหรือไม่ก็ตาม โซลูชันนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการที่เป็นผู้ถือบัตรวีซ่าสามารถทำธุรกรรมได้อย่างไร้รอยต่อและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการใช้บัตรของวีซ่าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชำระภายในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม
นอกจากนี้ ความร่วมมือที่เกิดขึ้นยังช่วยเพิ่มความเป็นดิจิทัลและความรวดเร็วให้กับการชำระเงินแบบ B2B ทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานในเอเชียแปซิฟิก ผู้ประกอบการทั้งหลายในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มักจะขาดแคลนทรัพยากรการรับชำระเงินแบบ B2B ในรูปแบบดิจิทัล ที่ยังไม่ยอมรับการชำระด้วยบัตรเพื่อธุรกิจ ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นความท้าทายให้กับธุรกิจที่รับชำระด้วยบัตรผ่านระบบดิจิทัลจากการที่พวกเขาหันไปใช้วิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิมที่ต้องทำด้วยตนเองและสิ้นเปลืองเวลา เช่น การชำระด้วยเงินสดและเช็ค ทั้งยังกระทบต่อกระแสเงินสดทั้งฝั่งของผู้ชำระและซัพพลายเออร์เพราะการทำธุรกรรมผ่านวิธีชำระเงินแบบดั้งเดิมมักจะกินเวลานานกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ
โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…
บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…
LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…
พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…
ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…