เนื่องในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนแนวทางการสื่อสารเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับคนไทยอย่างไม่หยุดนิ่ง ในปี 2567 นี้ บริษัทฯ ก็ได้มาพร้อมกับแผนกลยุทธ์ธุรกิจ ภายใต้แนวคิด พลังแห่งความมั่นใจ (The Power of Confidence) วางแผนเดินหน้าเป็นผู้นำสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้จัดทำดัชนีชี้วัดความมั่นใจในตนเองของคนไทย (Self-Confidence Index) ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อนำทางองค์กรเดินหน้าสู่ Sustainability Model สร้างรากฐานความมั่นใจของคนไทยอย่างยั่งยืน
สำหรับแผนธุรกิจประจำปีที่ 9 ที่ตั้งเป้าไปที่ผลักดันสร้างความมั่นใจในสังคมไทย เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญอยู่ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่
ในปี 2566 ที่ผ่านมา เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ยังคงสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำธุรกิจเวชศาสตร์ความงาม ด้วยยอดขายทะลุเป้า 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตอย่างโดดเด่นเหนือกว่าทิศทางตลาดแบบ Double Digit ที่ 30% และมีการเติบโตของยอดขายนวัตกรรมชูโรงอย่าง เครื่องอัลเทอร่ามากกว่า 600 เครื่อง ใน 46 จังหวัดทั่วประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้นำเทรนด์ความงามแบบ ‘skin quality’ ด้วยการเปิดตัวฟิลเลอร์งานผิวเนื้อละเอียด พร้อมเสริมทัพด้วยนวัตกรรมตัวล่าสุด ได้แก่ สารฉีดกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ Regenerative Biostimulator ทั้งนี้ ล้วนเป็นความสำเร็จที่สอดรับกับทิศทางของธุรกิจการแพทย์และความงามที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใสสะท้อนผ่านตัวเลขการเติบโตเฉลี่ย 16.6% ต่อปีจนถึงปี 2570
ขณะเดียวกันเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ยังคงส่งเสริมการเติบโตและสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าอย่างสม่ำเสมอ บนมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้าและบริการ โดยตลอดทั้งปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และมีส่วนร่วมในงานวิจัยและการพัฒนาเพื่อต่อยอดนวัตกรรมเสริมความงาม และมีบทบาทในอีเวนต์สำคัญ อาทิ เป็นเจ้าภาพจัดงานเสวนา “Science Behind Confidence” โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องความงามที่ควรมาพร้อมกับความปลอดภัย และการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญในการจัดงาน DASIL World Congress ครั้งที่ 11 เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล และเทคนิคการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อนำมาสู่เทรนด์ความงามยุคใหม่ที่ประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยสำหรับทุกคน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินกลยุทธ์เน้นไปที่การอัปเดตเทรนด์ความรู้และนวัตกรรมเสริมความงามยุคใหม่ผ่านกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคลินิกเสริมความงามชั้นนำทั่วประเทศ ได้แก่
ไม่เพียงเท่านี้ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ยังได้หยิบจับศาสตร์ด้านความงามสื่อสารต่อไปยังผู้บริโภคในรูปแบบที่แปลกใหม่และย่อยง่าย เพื่อให้ผู้บริโภคได้ความรู้ เข้าถึงการใช้งานนวัตกรรมเสริมความงามได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยจัดงานระดับ Expo ครั้งแรกในชื่อว่า Merz Aesthetic Expo: Haus of Confidence ดึงดูดผู้บริโภคด้วยกิจกรรมรูปแบบ Edutainment และประสบความสำเร็จด้วยยอดผู้เข้าชมสูงถึง 6,600 คนตลอด 5 วัน โดย Merz Aesthetic Expo จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่อีกครั้งภายใน 2 ปีข้างหน้า
นอกจากการสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้าและผู้บริโภค ทิศทางสำหรับองค์กรในปี 2567 เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทยมุ่งสร้างองค์กรที่ใส่ใจในความยั่งยืนไปสู่ชุมชนและสังคม ริเริ่มที่จะพัฒนาแนวคิดและโครงการด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกับคู่ค้าคลินิกและคนในองค์กรไปพร้อมๆ กัน เริ่มต้นจากการผลักดันโครงการจัดการขยะและการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์เสริมความงามและอุปกรณ์อย่างถูกวิธี ภายใต้ชื่อว่า “Merz Aesthetics Zero Waste” ประกอบด้วย 2 โครงการย่อย ดังนี้
ในปีนี้ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย ประกาศจัดทำดัชนีชี้วัดความมั่นใจในตนเองของคนไทย “Self-Confidence Index” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเจาะลึกอินไซด์ของผู้บริโภคในด้านความมั่นใจและต่อยอดสู่แคมเปญการสื่อสารที่ยั่งยืน ซึ่งได้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชราภรณ์ บุญญศิริวัฒน์ อาจารย์ประจำแขนงวิชาจิตวิทยาสังคม คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นที่ปรึกษาดูแลการวิจัยในภาพรวม
โดยจากการสำรวจผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มประชาชนทั่วไป 1,000 ราย เผยว่าคนไทยมีระดับความมั่นใจในตนเองเฉลี่ยอยู่ที่ 84% และทุกๆ เจนเนอเรชันมีระดับความมั่นใจในตนเองที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความมั่นใจมีทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านทัศนคติ (attitude & mindset) 2. ด้านสังคมรอบตัว (social) 3. ด้านการงานและการเรียน (work & study) 4. ด้านสุขภาพ (health) 5. ด้านรูปลักษณ์ภายนอก (appearance) 6. ด้านการเงิน (income) โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองมากที่สุด คือ ด้านรูปลักษณ์ภายนอก (appearance) ในขณะที่ระดับคะแนนความมั่นใจในด้านรูปลักษณ์ภายนอกกลับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 82% อย่างไรก็ตาม คนไทยส่วนใหญ่ต้องการที่จะเป็นตัวของตัวเอง แต่ยังอยากเสริมเติมแต่งเพิ่มความดูดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมโซเชียลมีเดียของคนไทย ที่นิยมใช้แอปพลิเคชันในการปรับแต่งรูปให้ออกมา “เป็นตัวเองที่ดูดีขึ้น” เพื่อเสริมความมั่นใจในการใช้ชีวิต
ช่องว่างของระดับคะแนนความมั่นใจจึงเปิดโอกาสให้ บริษัทฯ เดินหน้าผลักดันธุรกิจหัตถการความงาม โดยเชื่อว่าการเข้ารับบริการเสริมความงามจะเพิ่มความมั่นใจให้คนไทยอย่างยั่งยืน สะท้อนจากอินไซต์ของผลสำรวจที่พบว่า คนไทยมีคะแนนความมั่นใจในตนเองเฉลี่ยสูงถึง 91% ภายหลังจากเข้ารับบริการหัตถการความงาม และคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่า การทำหัตถการความงาม เป็นหนึ่งในทางเลือกที่สำคัญ สำหรับเสริมความมั่นใจให้ตัวเองได้ เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความกังวลต่างๆ ที่มีต่อผิวพรรณและรูปร่างตนเองได้ในเวลาอันสั้น ช่วยให้ตนเองโฟกัสชีวิตตัวเองในด้านอื่นๆ ได้อย่างสบายใจ
ทั้งนี้ Self-Confidence Index จะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเมิร์ซในการเจาะลึกพฤติกรรมของผู้บริโภคในไทยได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น นำมาสู่แคมเปญการสื่อสารที่จะบูสต์อัปความมั่นใจคนไทยไปอีกหนึ่งขั้นในอนาคต
ทั้ง 3 กลยุทธ์ธุรกิจในปี 2567 นี้ล้วนเป็นการตอกย้ำจุดยืนของเมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจหัตถการความงามอันดับ 1 อย่างมั่นใจ โดยมีความยั่งยืนเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ และให้ความสำคัญกับดัชนีชี้วัดความมั่นใจในตนเองของคนไทย เสมือนเป็นเครื่องมือหลักที่จะนำทางแคมเปญการสื่อสารต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
การสร้างตัวตนของประเทศไทยในระดับโลก เป็นสิ่งที่คนไทยทำมาตลอด 50 ปี ไม่ว่าจะเป็น ดินแดนแห่งรอยยิ้ม ครัวไทยสู่ครัวโลก ฯลฯ และมันส่งผลต่อวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเราในปัจจุบันอย่างยิ่ง ที่สำคัญอานิสงส์ที่ส่งตรงต่อธุรกิจต่างๆ ที่รองรับตัวตนของประเทศนั้นมหาศาลเหลือเกิน จนเราปฏิเสธไม่ได้ว่าการสร้างตัวตนที่ชัดเจนต่อสายตาชาวโลกนั้นเป็นมรดกตกทอดไปสู่คนยุคใหม่ๆ อย่างน้อยช่วงหนึ่งอายุคนกันเลยทีเดียว “ประเทศไทยจะเป็นผู้นำทางด้าน Green…
โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ขานรับเทรนด์ Gastronomy Tourism ที่กำลังเติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผนึกกำลัง Toby’s Farm สวนทุเรียนพรีเมียมจากจันทบุรี เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ “Durian Decadent…
แคนนอน (CANON) เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องพิมพ์หน้ากว้างแบบตั้งโต๊ะรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น ได้แก่ imagePROGRAF TC-21 และ imagePROGRAF TC-21M ในงานสถาปนิก 68 (ASA Architect'25)…
บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) เผยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 30 เมษายน 2568…
พฤกษา เรียลเอสเตท ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทั้งการผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ให้กู้ได้ 100% และการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ "บิงโกลด์" ลุ้นบิง ชิงทอง มอบความคุ้มค่าแบบ "บิงโก" 3…
เซ็นทรัลพัฒนา จับมือ "NITORI" แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านอันดับ 1 จากญี่ปุ่น ขยายฐานสู่ภาคตะวันออก เปิด 2 สาขาใหม่ล่าสุดที่เซ็นทรัล พัทยา และเซ็นทรัล ศรีราชา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยและนักท่องเที่ยว พร้อมรับการเติบโตของเมืองท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจพิเศษ…
This website uses cookies.