Healthcare

NIA ชูโมเดล ดีพเทคย่านนวัตกรรม ตอกย้ำเมืองนวัตกรรมการแพทย์ระดับโลก

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เผยประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์ (Medical Hub) ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการ เนื่องด้วยมีความพร้อมทั้งด้านของบุคลากรและการบริการโดยเฉพาะในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ จนได้รับการจัดอันดับดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพ (Global Health Security Index: GHS) ติดท้อป 5 ของโลกจาก 195 ประเทศ แต่ปัจจุบันยังคงต้องนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์และเทคโนโลยีจากต่างประเทศสูงถึงปีละ 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้น NIA จึงตั้งเป้ายกระดับ MedTech หรือนวัตกรรมการแพทย์ผ่านกลุ่มเทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมการแพทย์ฝีมือคนไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสการดูแลคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพของประชาชนแล้ว ยังช่วยลดการนำเข้านวัตกรรมการแพทย์จากต่างประเทศ โดยปักหมุด 2 ย่านนวัตกรรมสู่พื้นที่สำคัญของเอเชีย ได้แก่ ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี ย่านนวัตกรรมการแพทย์สวนดอก

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ชาวต่างชาติจากทั่วโลกอยากเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ เพราะมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรที่เชี่ยวชาญระดับโลก การบริการที่น่าประทับใจ และการมีโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำหลายแห่ง ทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการแพทย์ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก จนได้รับการจัดอันดับดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพให้เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางสุขภาพสูงที่สุดติดอันดับที่ 5 ของโลกจาก 195 ประเทศ แต่ประเทศไทยยังต้องนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์และเทคโนโลยีจากต่างประเทศมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่อุปกรณ์ทางการแพทย์ทั่วโลกเริ่มขาดแคลน และความซับซ้อนของโรคที่เพิ่มมากขึ้น โจทย์นี้จึงกลายเป็นอีกความท้าทายที่ประเทศไทยต้องเผชิญ

อจินไตย เปิดแผน 2 ธุรกิจหลัก “Ajintai Wellness Clinic & Spa” และ “Ajintai Entertainment” ตั้งเป้าปี 66 รายได้ทะลุ 1 พันล้าน

“NIA มองว่า นวัตกรรมการแพทย์ หรือ MedTech จะช่วยลดช่องว่างการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ ซึ่งคนทั่วไปอาจจะเข้าใจว่าหมายถึงเครื่องมือแพทย์อย่างเดียว แต่แท้จริงแล้วมีความหลากหลายและกว้างมากกว่านั้น MedTech เป็นการประยุกต์นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ ตั้งแต่กระบวนการตรวจวินิจฉัยโรค รักษา ติดตามอาการ ฟื้นฟู ประเมินสุขภาวะทางร่างกายและป้องกันไม่ให้เกิดโรค อย่างไรก็ตามในการพัฒนาอุตสาหกรรม MedTech ในระยะแรกจะเน้นเรื่องทดแทนการนำเข้าเป็นหลัก อุปกรณ์ตัวไหนที่มีการนำเข้าจำนวนมาก เช่น เพลทสกรูสำหรับใช้ดามกระดูก วัสดุปิดแผล ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน”

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเทรนด์นวัตกรรมการแพทย์เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด NIA จึงเร่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพไทยนำเทคโนโลยีเชิงลึกเข้ามาประยุกต์ใช้กับนวัตกรรมการแพทย์มากขึ้น เช่น เทคโนโลยี AI สำหรับคัดกรองโรค การถ่ายเอ็กซเรย์ เทคโนโลยีบล็อคเชนสำหรับแก้ปัญหาเวชระเบียนผู้ป่วยและป้องกันความลับไม่ให้รั่วไหล เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติสำหรับสร้างอวัยวะเทียม เช่น หูเทียม ผิวหนังเทียม วัสดุดามกระดูก ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่ช่วยในการผ่าตัด และนวัตกรรมกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีน ฯลฯ นวัตกรรมการแพทย์ในยุคนี้จึงเป็นมากกว่าการรักษา เพราะมันคือเครื่องมือที่เข้ามาอยู่ในทุกกระบวนการของการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนจะทำให้เกิดการลอกเลียนแบบได้ยากขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในตลาด มีผู้เล่นหน้าใหม่อยู่ตลอดเวลา และเกิดนวัตกรรมในแนวทางใหม่ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการดูแลสุขภาพของผู้คน

“นอกจากเรื่องเทคโนโลยีที่ต้องแข่งขันและพัฒนา ความเข้าใจในกฎระเบียบ การทดสอบ มาตรฐาน และการหาตลาดรองรับก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายที่ NIA ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนวัตกรรมการแพทย์ฝีมือคนไทย ทั้งนี้ ตลาดสำคัญของเครื่องมือแพทย์คือ ตลาดภาครัฐ ถ้าสามารถทำให้สินค้า MedTech เข้าไปอยู่ในบัญชีจัดซื้อจัดจ้าง สิทธิการเบิกจ่ายบัตรทอง 30 บาท และสิทธิข้าราชการได้ กลไกทางการตลาดจะเติบโตได้เร็วขึ้น เมื่อมีตลาดรองรับ ผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพหน้าใหม่ ก็กล้าที่จะก้าวเข้ามาในวงการอุตสาหกรรมการแพทย์มากขึ้น ช่วยให้คนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยได้มากขึ้นในราคาที่ถูกลง แถมยังช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกด้วย”

ดร.พันธุ์อาจ กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมการแพทย์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ภาครัฐคาดหวังว่าจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเพื่ออนาคต หรือ Thailand 4.0 ดังนั้น NIA จึงนำร่องพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่โดยอาศัยอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของบริบทพื้นที่ผ่านความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการดึงดูดเงินลงทุนให้สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพจนเป็นที่น่าจับตาในภูมิภาค ที่แรก ได้แก่ ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี (ถนนโยธี กรุงเทพมหานคร) ซึ่งมีอัตลักษณ์สำคัญของสภาพพื้นที่ที่มีหนาแน่นของโรงเรียนแพทย์และสถานพยาบาลกระจุกตัวมากที่สุดย่านหนึ่งของโลก จึงเหมาะกับการพัฒนาระบบนิเวศให้เอื้อต่อการศึกษาวิจัยและทดลองนวัตกรรมการแพทย์ในประเทศ รวมถึงเชื่อมโยงทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการนวัตกรรมและนักลงทุนให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์ของเอเชีย ซึ่งเกิดการพัฒนานวัตกรรมมากกว่า 150 โครงการ และมีเม็ดเงินการลงทุนที่หมุนเวียนภายในย่านกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้ขยายเครือข่ายไปยัง ย่านนวัตกรรมการแพทย์สวนดอก (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น Sandbox หรือ Playground ให้กับผู้ประกอบการนวัตกรรมได้มาเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งในมิติของงานวิจัยและพัฒนา การวิจัยทางคลินิก การพัฒนานวัตกรรมให้สอดคล้องกับมาตรฐานการผลิต จนสามารถนำมาใช้จริงกับสถานพยาบาลได้

supersab

Recent Posts

vivo V50 เปิดตัวแล้ว มาพร้อมกล้อง ZEISS 50MP ในราคาเริ่มต้น 15,999 บาท

เปิดตัว vivo V50 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล V Series ที่มาพร้อมคอนเซปต์ "ถ่ายที่รักอย่างโปร" ชูจุดเด่นกล้อง ZEISS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลรอบด้าน อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI…

2 hours ago

LINE MAN เผยเทรนด์ “ชาไทย Specialty” แรงจัด! ยอดสั่งพุ่ง 81% ร้านใหม่ผุด 205%

กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…

6 hours ago

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

7 hours ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

7 hours ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

8 hours ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

8 hours ago