Industrial

เดลต้า ประเทศไทย เปิดโรงงานเดลต้าใหม่แห่งที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อการผลิตรองรับยานยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรม

เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) บริษัทในเครือของเดลต้า กรุ๊ป เปิดตัวโรงงานเดลต้าแห่งที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการขยายการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าของเดลต้าไปยังลูกค้าระดับโลก โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมด้วยกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมพิธีเปิดเพื่อเป็นสักขีพยานความสำเร็จครั้งใหม่ของการเดินทางตลอด 35 ปีของเดลต้าในประเทศไทย ทั้งนี้ผู้บริหารของเดลต้าจากสำนักงานใหญ่ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และสื่อมวลชนยังได้เข้าร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ พร้อมร่วมสำรวจสายการผลิตขั้นสูงของเดลต้าอีกด้วย

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษภายในงานว่า รัฐบาลยินดีกับการเปิดโรงงานใหม่นี้ และยินดีสนับสนุนเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย ในฐานะผู้ส่งออกและผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำ โดยบริษัทฯ พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของไทย โดยบริษัทได้ประกาศลงทุนและจะช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) และศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub)

วิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาตลอด 35 ปีสำหรับเดลต้า ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2553 เราได้ผลิตผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยโรงงานเดลต้าแห่งใหม่แห่งที่ 8 ของเรามีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการปริมาณยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ของเราจะช่วยพัฒนาเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการลงทุนที่สำคัญในครั้งนี้จะนำประโยชน์มากมายมาสู่อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย รวมทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าของเดลต้ามีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์การจัดการพลังงาน รวมถึงเครื่องชาร์จในตัว ตัวแปลง DC/DC และผลิตภัณฑ์ระบบส่งกำลัง รวมทั้ง Traction inverter และ Traction motor ตลอดจนโซลูชันการจัดการความร้อนและอุปกรณ์ที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง Passive component โดยเดลต้ามีลูกค้าระดับโลก ได้แก่ ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เดลต้า ประเทศไทยได้ผลิตผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับลูกค้าทั่วโลกที่โรงงานเดลต้า 1 ด้วยพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร ปัจจุบันโรงงานแห่งใหม่และศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้ง 2 แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30,400 ตารางเมตร โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า

การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพของเดลต้าครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับและจัดเก็บวัตถุดิบไปจนถึงขั้นตอนการผลิตต่างๆ เช่น ขั้นตอนการวางชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บนแผงวงจร (SMT) ขั้นตอนการประกอบแผงวงจร (PWBA) การประกอบชิ้นส่วนต่างๆและการ burn-in พร้อมทั้งการตรวจสอบสินค้าขั้นสุดท้ายก่อนการส่งออก การลงทุนมูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาทสำหรับโรงงานแห่งที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาครั้งนี้แสดงโซลูชันอาคารอัจฉริยะและการผลิตอัจฉริยะที่ประหยัดพลังงานของเดลต้ายกระดับความสามารถในการผลิตและมาตรฐานการผลิต

เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปีของการพัฒนา เดลต้า ประเทศไทยเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ซึ่งเป็นดัชนีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ในหมวด “ชิ้นส่วนอุปกรณ์ เครื่องมือ และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์” ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2566 และได้รับรางวัลผู้นำด้านการมีส่วนร่วมของซัพพลายเออร์ ประจำปี 2565 จาก CDP ในด้านความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน ณ เวลานี้ เดลต้า ประเทศไทย กำลังเดินหน้าสู่ก้าวใหม่ของการเติบโต ด้วยการขยายขอบเขตการวิจัยและพัฒนา การผลิต และธุรกิจในตลาดท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนการพัฒนาในอุตสาหกรรม S-curve ของประเทศไทย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รร.วังจันทร์วิทยา จ.ระยอง ชูอาชีพในอนาคต, หลักสูตรเกษตรนวัตรับ EEC

supersab

Recent Posts

AIS-True เปิดฉากระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ทั่วไทย พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อรัฐบาลสั่งการ

AIS และ True Corporation สองผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ได้ประกาศความพร้อมในการเปิดใช้งานระบบแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast และ SMS ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อหน่วยงานภาครัฐสั่งการ AIS: ระบบ Cell…

33 minutes ago

ดีพร้อม-บางจากฯ ผนึก 5 พันธมิตรธุรกิจ ผลิต “น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน” 1 ล้านลิตรต่อวัน ดันไทยสู่ฮับการบินพลังงานสะอาด ชิงความได้เปรียบเศรษฐกิจโลก

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ จับมือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ 5 องค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)…

2 hours ago

ก.อุตฯ ผนึก World Bank เปิดเกมรุก “Industrial Decarbonization” ดันไทยสู่ Hub ลงทุนสีเขียว

“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เปิดเวที CEO Forum ชูแนวทาง Industrial Decarbonization ภายใต้โครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการไทยลดคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน…

5 hours ago

Tops เขย่าตลาด FMCG ปี 68 ทุ่ม 5,000 รายการ Own Brand ชูคุณภาพพรีเมียม ราคาโดนใจ ผนึกชุมชนโกอินเตอร์

ท็อปส์ (Tops) ประกาศศักดาผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ปี 2568 ทุ่มงบไม่อั้น พัฒนาพอร์ตสินค้า Own Brand ทะลุ 5,000 รายการ ชูจุดแข็งด้านคุณภาพระดับพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงได้…

6 hours ago

รฟม. แจ้งรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู เปิดให้บริการเดินรถ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) – สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) และจัด Feeder รับ – ส่ง สถานีตลาดมีนบุรี (PK29) – สถานีมีนบุรี (PK30)

ตามที่ เกิดเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา โดยแรงสั่นสะเทือนได้ส่งผลกระทบมาถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู (MRT สายสีชมพู) ต้องงดให้บริการชั่วคราว เพื่อแก้ไขรางจ่ายไฟเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ นั้น จากการตรวจสอบพบว่าเกิดความเสียหายที่แผ่นปิดรอยต่อคานทางวิ่ง จำเป็นต้องซ่อมแซม ซึ่ง กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางราง…

7 hours ago

“แสตมป์ กระจกเกรียบ” ศิลปะล้ำค่าแห่งสยาม ไปรษณีย์ไทยเปิดตัวแสตมป์ที่ระลึก วันอนุรักษ์มรดกไทย 2568 ดันไทยสู่สายตาโลก

ไปรษณีย์ไทย ได้เปิดตัวแสตมป์ที่ระลึกชุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันอนุรักษ์มรดกไทย พุทธศักราช 2568 ด้วยการนำเสนอศิลปกรรมอันทรงคุณค่าที่กำลังจะเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ "กระจกเกรียบ" ศิลปะแห่งสยามประเทศที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์แต่กลับหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน โดยมีกำหนดการเปิดจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2568 เป็นต้นไป ในราคาดวงละ…

7 hours ago

This website uses cookies.